
ผู้ว่าฯกทม. “ชัชชาติ” ตรวจสอบพื้นที่โค้งศาลอาญารัชดา หลังเกิดอุบัติเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้าตาย 5 ศพ เจ็บ 2
วันที่ 3 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อเวลา 07.00 น. พ.ต.ท.พิภัสสร์ พูนลัน สว.(สอบสวน) สน.พหลโยธิน รับแจ้งอุบัติเหตุมีผู้ติดค้างภายในยานพาหนะ บนถนนรัชดาภิเษก ฝั่งตรงข้ามศาลอาญา มุ่งหน้าแยกรัชดา-ลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ จึงประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูเข้าให้การช่วยเหลือ
- หมอธีระวัฒน์ ชี้ งานวิจัยระบุ ชอบกินเนื้อสัตว์เสี่ยงตาย ไม่สูบบุหรี่ ออกกำลังกาย ไม่ช่วย
- พระราชทานอภัยโทษ คดีทักษิณ ที่มาวาระอันเป็นมงคล วโรกาสสำคัญ
- ครม.เคาะแล้ว ซื้อสินค้าลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 5 หมื่นบาท เริ่ม 1 ม.ค. 67
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะติดคอกสเตนเลสด้านหลัง ยี่ห้ออีซูซุ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน บน 3698 ปราจีนบุรี สภาพปีนฟุตปาธ กระแทกกับเสาไฟฟ้า กันชนหน้าหลุด หลังคายุบ ล้อเบี้ยว มีผู้ติดค้างภายในเจ้าหน้าที่จึงใช้เครื่องตัดถ่างเพื่อนำตัวออกมาปั๊มหัวใจด้านนอก แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ นอกจากนี้ยังพบร่างผู้เสียชีวิตที่นั่งมาหลังกระบะกระเด็นออกมาริมถนนอีกจำนวนหนึ่ง
จากการสอบสวนในเบื้องต้น ทราบว่าผู้ประสบเหตุเป็นชาวบุรีรัมย์ จำนวน 6 คน และ ชาวปราจีนบุรี 1 คน ทั้งหมดเป็นคนงานก่อสร้างที่กำลังเดินทางไปทำงาน แต่เมื่อถึงจุดเกิดเหตุพบว่าถนนลื่นเนื่องจากเกิดฝนตก ทำให้รถเสียหลัก หมุนคว้าง และกระแทกเสาไฟฟ้า จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต


ต่อมาเวลา 10.35 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เดินทางลงตรวจสอบพื้นที่หลังเกิดเหตุสลดรถกระบะเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า
นายชัชชาติให้สัมภาษณ์ว่า เท่าที่ดูเข็มไมล์รถที่ประสบอุบัติเหตุค้างที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (กม./ชม.) ซึ่งก็เร็วกว่าที่กฎหมายกำหนดอยู่แล้วจาก 80 กม./ชม. เรื่องความเร็วก็เป็นเรื่องหนึ่งที่มันเร็วมาก ประกอบกับทางโค้งและผิวถนนที่ฝนตกไม่มาก ก็จะเกิดความลื่น
“ผมว่าหลายองค์ประกอบด้วยกัน ลักษณะทางกายภาพ ความเร็วเกินกำหนด และเรื่องฝน 3 ปัจจัย ผมว่าอาจจะต้องจำกัดความเร็วที่ชัดเจน ที่ป้ายบอกแค่ให้ลดความเร็วแต่ไม่ได้บอกให้ลดความเร็วเหลือเท่าไหร่ อาจจะต้องกำหนดเลยว่าตรงนี้จะต้องลดความเร็วลงจากความเร็วปกติ อาจจะมีตรวจจับความเร็ว” นายชัชชาติกล่าว
ผู้ว่าฯกทม.กล่าวต่อว่า หากว่ากันตามนโยบายจะมีการทำแผนที่จุดเสี่ยงในทุกมิติ ทั้งอาชญากรรม หรืออุบัติเหตุ ก็จะทำมาให้เห็นเลยว่าจุดเสี่ยงอันตรายอยู่ที่ไหนกันบ้าง ก็อาจจะพิจารณาที่จะปรับกายภาพ ปรับเรื่องการจำกัดความเร็ว ต้องคุยกับทางตำรวจอีกที เพราะตำรวจเป็นผู้มีอำนาจปรับความเร็ว และเราก็ปักป้ายบอกความเร็วได้ว่าเข้าโค้งมาเท่าไร
ทั้งนี้ จะต้องทำทุกจุดทั่วกรุงเทพมหานคร ใช้พลังของเทคโนโลยี เอาข้อมูลขึ้นแผนที่จะเห็นเลยว่าตรงไหนมีอุบัติเหตุมาก-น้อยแค่ไหน ก็จับเป็นกลุ่ม ตรงไหนเกิดอุบัติเหตุบ่อยก็จะเป็นสีแดงขึ้นมา ถ้าเราทราบจากตรงนี้ได้ก็สามารถไปปรับปรุงได้
“เชื่อว่าตรงนี้หากทำแผนที่มาคงจะแดงเลย เพราะเกิดอุบัติเหตุบ่อย และผมว่าสามารถทำแผนที่ความเสี่ยงฯที่ว่านี้ให้เสร็จได้เลยภายในสัปดาห์หน้า หรือหากให้เป็นไปได้คือ อาจจะเอารถตำรวจ หรือเทศกิจมาเปิดไฟประจำไว้ยังจุดเสี่ยงเลย คนเห็นอาจจะชะลอความเร็วลงบ้างได้ชั่วคราวก่อน เพื่อเป็นการเตือนและแก้ปัญหาได้เบื้องต้น เดี๋ยวจะลองดูว่าจะทำยังไง เชื่อว่ามีมาตรการที่เราทำได้” นายชัชชาติกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แปลว่าต่อจากนี้คือจะกระจายงานให้ทุกเขตหาพื้นที่เสี่ยงเลยหรือไม่ นายชัชชาติกล่าวว่า ใช่ แต่เข้าใจว่าข้อมูลตรงนี้น่าจะอยู่ในสำนักอนามัย หรือสำนักการแพทย์ เพราะข้อมูลการเจ็บ-ตาย มันเก็บไว้ที่สำนักการแพทย์ หรือถ้าทางเขตมีก็มาใส่เพิ่มได้ ไม่เป็นไร แต่เราจะนำเทคโนโลยีมาช่วย
เมื่อถามต่ออีกว่า ประชาชนบอกว่าอาจจะเป็นเรื่องอาถรรพ์หรือเปล่า นายชัชชาติกล่าวว่า โอ้ย! ถ้าคิดว่าเป็นอาถรรพ์ก็ชะลอลง เวลาผ่านโค้งนี้ต้องชะลอลง เพราะว่าอาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ตลอด


