กทม.จับมือกระทรวงดิจิทัลฯ – กสทช. ตั้งเป้าจัดระเบียบสายสื่อสาร 800 กม. ใน 16 เขต เล็งใช้ พ.ร.บ.ความสะอาด มาตรา 39 รื้อสายสื่อสาร
วันที่ 4 กรกฎาคม 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือเรื่อง กรุงเทพมหานครเมืองอัจฉริยะ (Bangkok Smart City) และการบริหารจัดการท่อร้อยสายสื่อสารลงใต้ดิน ร่วมกับ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- ราคาทองวันนี้ (29 มี.ค. 67) พุ่งกระฉูด 600 บาท ทองรูปพรรณบาทละ 39,050 บาท
- เลิกอุ้มดีเซล 30 บาท จ่อขยับเพดานราคา 2 บาท มีผล 1 เมษายน 2567
นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ร่วมหารือกรณีปัญหาเกี่ยวกับสายสื่อสารที่รกรุงรัง เป็นปัญหาที่ได้ยินมานานมากแล้ว รวมถึงเกิดเหตุไฟไหม้ครั้งล่าสุดที่เขตสัมพันธวงศ์ ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 2 ราย รวมถึงข่าวไฟไหม้อย่างต่อเนื่อง
ในเรื่องนี้มีหลายหน่วยงานเกี่ยวข้อง อาทิ กสทช. กทม. การไฟฟ้านครหลวง ผู้ให้บริการระบบสื่อสารโทรคมนาคม และผู้ให้บริการเรื่องท่อร้อยสาย ซึ่งวันนี้ท่านรัฐมนตรี กระทรวงดิจิทัลฯ เป็นเจ้าภาพคนกลางที่จะรับประสานงานทุกหน่วยงานให้
ขณะนี้ได้ความชัดเจนมากขึ้น โดยมี 2 เรื่องที่ต้องดำเนินการ เรื่องแรกคือ การจัดระเบียบสายสื่อสารที่รกรุงรังก่อน แต่ยังไม่ถึงกับต้องเอาสายลงดินทันที อย่างน้อยเอาสายตายหรือสายที่ไม่ใช้งานรื้อออกให้หมดก่อน ซึ่ง กสทช.ก็ได้มีแผนอยู่แล้วและยังมีเงินสนับสนุนให้ทางการไฟฟ้านครหลวงจำนวน 700 ล้านบาทด้วย เนื่องจากต้องใช้แรงงานในการคัดเลือกสายที่ไม่ได้ใช้งานออก
ซึ่งปีแรกจะดำเนินการ 800 กิโลเมตร ในพื้นที่กรุงเทพฯชั้นใน 16 เขต ที่มีประชากรหนาแน่นและมีสายสื่อสารหนาแน่น ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทาย ขณะนี้เดือนกรกฎาคมดำเนินการแล้ว 20 กม. เราต้องเร่งผลักดันทำให้ได้ 800 กม.ตามสัญญา โดยได้ให้นโยบายสำนักงานเขตในการดูพื้นที่ที่เป็นต้นแบบในการดำเนินการซึ่งจะนัดหมายกับ กสทช.ทำการ Mapping จุดต่าง ๆ ต่อไป
นอกจากนี้ รัฐมนตรีจะมีการแต่งตั้งคณะทำงานที่มาจากหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กสทช. กรุงเทพมหานคร การไฟฟ้านครหลวง Operator ผู้พาดสายสื่อสาร และ operator ผู้ทำเรื่องท่อร้อยสาย เพื่อทำการเร่งรัดกำหนดเป้าหมาย (KPI) ว่าแต่ละเดือนต้องรื้อสายสื่อสารจำนวนเท่าไหร่ เพื่อเป็นตัวชี้วัดที่เป็นรูปธรรม เนื่องจากการดำเนินการมีต้นทุนเท่าเดิมแต่เวลาเดินไปเรื่อย ๆ ซึ่งเวลามีค่าจึงต้องเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
เรื่องที่ 2 คือเรื่องการนำสายสื่อสารลงดิน ก่อนหน้านี้ กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการโดยบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) แต่ขณะนี้มีผู้ประกอบการอื่น ๆ ซึ่งมีท่อร้อยสายอยู่แล้ว เช่น บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (NT) ซึ่งมีท่อเก่าอยู่ เพราะฉะนั้นปัจจัยสำคัญที่สุดคือประโยชน์ของผู้บริโภค ถ้าเกิดเราคิดค่าเช่าท่อแพงสุดท้ายก็จะเป็นภาระของผู้บริโภคและผู้ใช้สายสื่อสาร
ซึ่งอาจจะต้องแต่งตั้งคณะทำงานอีกชุดหนึ่งโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องของการนำสายสื่อสารลงดิน เช่น KT กทม. กสทช. NT ซึ่ง กทม.จะสนับสนุนเต็มที่และคงต้องคุยกับผู้ประกอบการว่าใช้วิธีไหนให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริโภค ซึ่งจะเป็นขั้นตอนต่อไป
เนื่องจากการนำสายสื่อสารลงดินต้องใช้ต้นทุนทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งผู้ทำท่อร้อยสายและผู้เป็นเจ้าของสายสื่อสาร เนื่องจากสายบนดินจะนำลงสู่ใต้ดินก็ต้องใช้การลงทุนเพิ่มซึ่งต้องทำให้เหมาะสม อย่างน้อยขั้นตอนแรกที่เราจัดระเบียบก็จะทำให้ความรกรุงรังของสายสื่อสารลดลง โดยคาดว่าจะมีผลเป็นรูปธรรมตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป
จากนั้นเวลา 15.30 น. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเดินทางมาร่วมประชุมหารือการนำสายสื่อสารลงดิน ร่วมกับ นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และผู้บริหาร กสทช. ณ ห้องประชุมชั้น 12 สำนักงาน กสทช. ซอยพหลโยธิน 8 เขตห้วยขวาง
โดยเปิดเผยว่า กสทช.และ กทม.ทำงานร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ได้มารับการยืนยันจาก กสทช.ถึงแผนการดำเนินการในปีนี้ คือ 800 กม.ในพื้นที่ 16 เขต ของกรุงเทพฯ ซึ่ง กสทช.ได้เตรียมงบประมาณไว้แล้ว ประมาณ 700 ล้านบาท โดยในปีนี้จะดำเนินการ 16 เขตแรกก่อนที่มีประชากรหนาแน่นและสายสื่อสารหนาแน่น ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่รัฐบาลได้ทำมาก่อนหน้านี้แล้ว กทม.มีหน้าที่อำนวยความสะดวกและสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนงานของ กสทช.
โดยให้ กสทช.เป็นหลักในการดำเนินการและประสานงานหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งเป็นความร่วมมือกันเพื่อพี่น้องประชาชนเพื่อให้สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย 800 กม. เนื่องจากเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการ โดยจะเห็นผลเป็นรูปธรรมภายในปีนี้ สำหรับงบประมาณดำเนินการ ระยะทาง 800 กม. ที่ใช้งบประมาณ 700 ล้านบาทนั้น จะมาจากงบประมาณของ กสทช. ปี 2564-2565 ที่มาจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือกองทุน USO ของสำนักงาน กสทช.
โดยบอร์ด กสทช.ได้อนุมัติให้ดำเนินการมาแล้วก่อนหน้านี้ และตามแผนงานจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ แต่ติดขัดในช่วงที่ผ่านมา อาจยังไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการเท่าที่ควร จึงทำให้เกิดความล่าช้าในการดำเนินงาน ซึ่งขณะนี้คืบหน้าเพียง 25-30% เท่านั้น โดยภายในสัปดาห์นี้ กสทช.จะเชิญผู้ประกอบการสายสื่อสาร และ กฟน. มาร่วมหารือ เพื่อเร่งรัดดำเนินการให้เสร็จได้ทันตามที่กำหนดภายในปี 2565
“ต่อไปนี้ กทม.จะใช้ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ มาตรา 39 เพื่อแก้ปัญหาสายสื่อสารรกรุงรัง และ กทม.จะออกประกาศ เพื่อบังคับใช้ในอนาคต หากใครไม่มีใบอนุญาตติดตั้งสายสื่อสารจาก กสทช.จะไม่สามารถพาดสายได้ หากใครฝ่าฝืนจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนสายสื่อสารที่ไม่มีสัญญาณวิ่งหรือว่าสายตายเราจะต้องตัดทิ้งลงให้หมด เพื่อลดปัญหาของสายสื่อสารผิดกฎหมายและความรกรุงรังของสายสื่อสาร
นอกจากนี้ยังได้หารือกับ กสทช.เรื่องอินเทอร์เน็ตฟรีให้ประชาชนตามที่สาธารณะต่าง ๆ เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล หน่วยงานของกรุงเทพมหานคร ศูนย์บริการสาธารณสุข สวนสาธารณะ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้สะดวกขึ้นในอนาคต” ผู้ว่าฯชัชชาติกล่าว