“ฟาสต์ฟู้ด” บุกแอฟริกา โอกาสตลาด “แฮมเบอร์เกอร์”

ฟาสต์ฟู้ด-ต่อคิว

ฟาสต์ฟู้ด กำลังกลายเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตเร็วในตลาด “แอฟริกา” โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศแอฟริกาใต้เขตทะเลทรายซาฮารา นักวิเคราะห์ระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2019 จะเป็น “ยุคแห่งแฮมเบอร์เกอร์” ในทวีปแอฟริกา

ผลสำรวจของ “ยูโรมอนิเตอร์” ระบุว่า หากย้อนไปกว่า 5 ปีก่อนจะเห็นว่าธุรกิจฟาสต์ฟู้ดรุกหนักเข้ามาในประเทศตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเอเชีย และตลาด “แอฟริกาใต้” ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของกลุ่มแอฟริกาใต้ในเขตซาฮารา

โดยผลสำรวจในปี 2017 ชี้ว่ามูลค่ายอดขายอาหารฟาสต์ฟู้ดเฉพาะในประเทศแอฟริกาใต้ ขยายตัวเฉลี่ย 9% ต่อปี และจะขยายตัวต่อเนื่องในปี 2018-2019 ทั้งประเมินว่า ยอดขาย “แฮมเบอร์เกอร์” จะเป็นสัดส่วนใหญ่ที่สุดในอาหารฟาสต์ฟู้ดราว 21% ในปี 2019 และขยับเป็น 25% ในปี 2020

ในปัจจุบันมีหลากหลายแบรนด์ธุรกิจฟาสต์ฟู้ดข้ามชาติที่กำลังโลดแล่นในตลาดแอฟริกาใต้ เช่น “เคเอฟซี” ที่มีสาขามากที่สุด 879 แห่ง, วิมปี้ 481 สาขา, แมคโดนัลด์ 245 สาขา และเบอร์เกอร์คิง 61 สาขา เป็นต้น

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จากยูโรมอนิเตอร์ และเอฟเอ็นบี บิสซิเนส สถาบันวิจัยชั้นนำที่โจฮันเนสเบิร์กระบุว่า ศักยภาพการเติบโตของทวีปแอฟริกา โดยเฉพาะในแถบแอฟริกาใต้เขตทะเลทรายซาฮารา กำลังเป็นที่จับตามองสำหรับธุรกิจฟาสต์ฟู้ด

แม้ว่าในแอฟริกาใต้จะมีแบรนด์ต่าง ๆ เข้ามาแข่งขันอยู่แล้ว แต่ประเทศอื่นในกลุ่มเดียวกันถือว่าเป็นโอกาสใหม่ ที่กำลังจะฉายแววในปี 2019 เป็นต้นไป

อ้างรายงานของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่ระบุว่า ทวีปแอฟริกาจะเป็น “ท็อปเทน” ของกลุ่มประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจเร็วที่สุดในโลก ระหว่างปี 2018-2035 จำนวนประชากรวัยหนุ่มสาวมีอายุเฉลี่ยต่ำเพียง 19 ปี มีปริมาณมากจนน่าทึ่ง ทั้งยังคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่า เป็น 2,000 ล้านคน ภายในปี 2050 โดยประเทศที่มีศักยภาพโดดเด่นส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มแอฟริกาใต้ซาฮารา ที่แบ่งออกเป็น 4 ภูมิภาค มีทั้งหมด 49 ประเทศด้วยกัน ทั้งเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนผู้มีกำลังซื้อสูงขึ้นเรื่อย ๆ

ขณะที่ “ไฟแนนเชียล ไทมส์” รายงานว่า “แดเนียล ชวาร์ตซ์” ซีอีโอวัย 38 ปี ของ RBI บริษัทแม่ของเบอร์เกอร์คิง เผยว่ามีแผนลงทุนใหม่ในแถบแอฟริกาใต้ซาฮารา ทั้งการขยายสาขาเพิ่ม และการเปิดตลาดใหม่ในประเทศเคนยา, ซิมบับเว บอตสวานา รวมทั้ง ไนจีเรีย ที่มองว่ามีความน่าสนใจและเป็นตลาดที่มีโอกาสมากที่สุด

ซีอีโอของเบอร์เกอร์คิงยืนยันว่า แม้ว่ากลยุทธ์ใหม่จะหันเข็มทิศไปแอฟริกามากขึ้น แต่ยังไม่ทิ้งแผนลงทุนในตลาดอื่นทั่วโลก เช่น ตลาดจีน ก็มีแผนขยายสาขาเพิ่มให้เป็น 1,000 สาขาภายในปลายปีนี้ ส่วนในโตรอนโต เมืองใหญ่สุดของแคนาดา ก็เตรียมจะเปิดสาขาใหม่เช่นกัน เพิ่มเป็น 1,000 แห่ง จาก 600 สาขาในปี 2015

นักวิเคราะห์ของไฟแนนเชียลไทมส์มองว่า การปรับกลยุทธ์ของยักษ์แฮมเบอร์เกอร์เบอร์ 2 ของโลก มีขึ้นหลังจากที่ “แมคโดนัลด์” ประกาศเตรียมจะเพิ่มสาขาแห่งใหม่ในประเทศแอฟริกาใต้ และกำลังศึกษาตลาดไนจีเรีย เพราะศักยภาพของผู้บริโภคน่าสนใจ

นอกจากนี้ นายโจส ซิล ประธานเบอร์เกอร์คิงระบุว่า ไนจีเรียมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงต่อเนื่อง เป็นรองเพียง “แอฟริกาใต้” ที่ถูกขนานนามว่าเป็น ฮับแห่งเศรษฐกิจของแถบแอฟริกาใต้ทะเลทรายซาฮารา อีกทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวไนจีเรียโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่มีการปรับตัวเร็วมาก

นับตั้งแต่ที่สมาร์ทโฟนเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ที่เห็นชัดที่สุดคือ “การตามเทรนด์จากตะวันตก” ตั้งแต่สไตล์การแต่งตัว จนถึงวัฒนธรรมการกินอาหารต่าง ๆ

ทั้งนี้ แมคโดนัลด์มีสาขามากเป็นอันดับ 1 ของโลก เกือบ 37,000 แห่ง ใน 120 ประเทศทั่วโลก เทียบกับเบอร์เกอร์คิงที่มีสาขาน้อยกว่าเกือบ 17,000 สาขา


แต่ศึกการแข่งขันเพื่อครองตลาดในแอฟริกาใต้ซาฮารา โดยเฉพาะ “ไนจีเรีย” ตลาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของแอฟริกา อยู่ที่ว่าใครจะตบเท้าเข้าไปจับจองพื้นที่ได้เร็วกว่ากัน