เอปสัน จ่อเลิกขายเครื่องพิมพ์เลเซอร์ มุ่งความยั่งยืน

เครื่องปริ้น

เอปสัน ย้ำเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทเทคโนโลยีใหม่ Heat free ตอบโจทย์ด้านความยั่งยืน เล็งยุติขายเครื่องพิมพ์เลเซอร์ในอาเซียนภายในปี 2566 พร้อมมุ่งสู่โซลูชั่นปริ๊นติ้ง สแกน รีไซเคิลกระดาษตอบรับดิจิทัลทรานส์ฟอเมชั่นและเพื่อความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม

วันที่ 15 ธันวาคม 2565 นายจุนคิชิ โยชิดะ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการธุรกิจเครื่องพิมพ์ บริษัท ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า เอปสันกำลังอยู่ในช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไปของลูกค้าทั่วโลก

โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทได้ปรับวิสัยทัศน์ขององค์กร โดยใช้ชื่อว่า Epson 25 Renewed ที่มีเป้าหมายร่วมสร้างความยั่งยืนโดยใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมอันแข็งแกร่งของเอปสัน

“เป้าหมายของเอปสันคือการเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนฯเป็นลบและไม่มีการใช้ทรัพยากรใต้ดิน (ฟอสซิล) ให้ได้ภายในปี 2050 โดยจะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ การให้บริการ และตลอดซัพพลายเชน รวมทั้งนำระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนที่ยั่งยืนเข้ามาใช้ และลงทุนกับกระบวนการใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม”

เป้าหมายดังกล่าวแบ่งออกเป็น 4 ด้าน ประกอบด้วย

1.Decarbonization หรือการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ ด้วยการเปลี่ยนไปใช้พลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนในโรงงานผลิตของเอปสันทั่วโลกภายในปี 2023

2.Closed Resource Loop หรือการใช้ทรัพยากรแบบวงปิด เพื่อลดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าด้วย โดยลดขนาดและน้ำหนักของผลิตภัณฑ์ เน้นใช้วัสดุรีไซเคิล และยืดอายุการใช้งาน

3.ออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ลูกค้าลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมได้ โดยออกแบบให้กินไฟน้อยลง ลดจำนวนวัสดุสิ้นเปลืองและชิ้นส่วนประกอบ

4. ด้วยการลดของเสียที่เกิดจากการใช้เครื่องพิมพ์ระบบอนาล็อก โดยหันมาใช้เครื่องพิมพ์ระบบดิจิทัล ทั้งในสำนักงาน ในเชิงพาณิชย์ หรือระดับอุตสาหกรรม และสุดท้าย ซึ่งเป็นด้านที่บริษัทลงทุนมากที่สุด ก็คือการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม

เทคโนโลยี Heat Free รีในเครื่องพิมพ์ ลดการปลดปล่อยคาร์บอน

นายโยชิดะยังได้นำเสนอเทคโนโลยีใหม่ของเอปสัน คือ Heat Free Technology ที่ช่วยลดการใช้พลังงานและปลดปล่อยความร้อนในเครื่องพิมพ์ได้เกินกว่า 90% ซึ่งจะเป็นแนวทางสร้างการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต เอปสันได้วางวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจโดยมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าธุรกิจและลูกค้าองค์กรเป็นหลัก

เอปสันจะไม่เพียงนำเสนอสินค้าหรือบริการที่มีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่จะต้องสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วย ซึ่งเอปสันในฐานะผู้นำเทคโนโลยีการพิมพ์ระดับโลก เทคโนโลยี Heat-Free ที่เป็นเทคโนโลยีการพิมพ์แบบไม่ใช้ความร้อน เพื่อช่วยลดการปลดปล่อยความร้อนรวมถึงก๊าซคาร์บอนฯ ทั้งยังช่วยลดการใช้พลังงานในสำนักงานได้อย่างดี

“จากผลการสำรวจต่อปริมาณการใช้พลังงานของสำนักงานทั่วไปพบว่าการใช้เครื่องพิมพ์นั้นบริโภคพลังงานมากเป็นอันดับ 4 รองจากเครื่องปรับอากาศ ไฟส่องสว่าง และคอมพิวเตอร์ ดังนั้นการนำเทคโนโลยี Heat-Free ที่สามารถช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่าเครื่องพิมพ์เลเซอร์ได้มากถึง 85% จะช่วยให้องค์กรธุรกิจประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้นอย่างมาก”

นายโยชินดะยังระบุอีกด้วยว่า เอปสันจึงได้ตัดสินใจเริ่มยุติการจำหน่ายและกระจายสินค้าเครื่องพิมพ์เลเซอร์ทั่วโลก และหันไปทุ่มเทในการพัฒนาเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทที่สามารถสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กรธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในระยะยาวได้มากกว่า

ด้านนายซิ่ว จิน เกียด กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาค เอปสัน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปัจจุบัน มีสำนักงานเอปสันเปิดอยู่ใน 10 ประเทศมีศูนย์โซลูชัน 6 แห่ง และโรงงานผลิต 7 แห่ง

“วิสัยทัศน์สู่อนาคตมีอิทธิพลต่อการพัฒนาเทคโนโลยี Heat-Free และโซลูชั่นรีไซเคิลกระดาษ ดังจะเห็นตัวอย่างได้จากเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทเพื่อธุรกิจของเอปสันที่เมื่อเทียบกับเครื่องพิมพ์เลเซอร์แล้ว สามารถลดการใช้พลังงานได้มากกว่า จึงเพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุนให้กับลูกค้า ทั้งยังมีชิ้นส่วนประกอบภายในเครื่องน้อยกว่า ทำให้เกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์น้อยลง และปล่อยก๊าซคาร์บอนฯน้อยกว่า

ในขณะที่ PaperLab ของเอปสัน ก็เป็นระบบผลิตกระดาษแบบแห้งระบบแรกของโลก ที่เปลี่ยนกระดาษใช้แล้วให้เป็นกระดาษใหม่ด้วยเทคโนโลยี Dry Fiber ของเอปสัน เป็นโซลูชั่นแบบออนดีมานด์ที่ทำให้บริษัทธุรกิจลดการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ ด้วยการรีไซเคิลกระดาษที่ใช้ในสำนักงาน”

“ดังนั้นเพื่อก้าวต่อไปบนวิสัยทัศน์นี้ เอปสันจึงขอประกาศยุติการจำหน่ายและกระจายสินค้าเครื่องพิมพ์เลเซอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในสิ้นเดือนธันวาคมปี 2023 และจะมุ่งมั่นกับเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทระบบหัวพิมพ์ Heat-Free

และการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนจากนี้ไป และในวันนี้ บริษัทยังจะเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ในกลุ่มเครื่องพิมพ์เพื่อธุรกิจ ที่จะช่วยเพิ่มทางเลือกสำหรับการพิมพ์คุณภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายในสำนักงานและสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจอีกด้วย” นายซิ่ว จิน เกียดกล่าว

ไม่หวั่นกระแสการทำงานแบบไร้กระดาษ

นายโยชิดะได้กล่าวกับผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากแนวโน้มการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในองค์กรต่าง ๆ ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ส่งผลต่อแนวคิดเรื่องการลดใช้กระดาษในองค์กร หรือ Paperless ทิศทางการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่กระทบกับเอปสันในฐานะผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมปริ๊นเตอร์

“Paperless ถูกพูดถึงมามากกว่า 20 ปี แต่ถึงทุกวันนี้เราก็ยังเลิกใช้กระดาษไม่ได้ และในหลายส่วนโดยเฉพาะประเทศเศรษฐกิจใหม่ Emerging Market ยังมีความต้องการปริ๊นเตอร์เติบโตอยู่ อย่างไรก็ตามหากมองไปในแต่ละอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นโลจิสติกส์ ไฟแนนซ์ หรือการศึกษา ยังต้องการใช้กระดาษและปริ๊นเตอร์

แต่ถึงกระนั้น เอปสันก็เล็งเห็นว่าการทำดิจิทัลทรานสฟอร์เมชั่นเป็นสิ่งสำคัญ Paperless เป็นสิ่งสำคัญ เราจึงมีเทคโนโลยีสแกนเนอร์ที่ดีเพื่อตอบสนองส่วนนี้ สแกนเนอร์เป็นกุญแจหลักของการแปลงเอกสารสู่ดิจิทัล นอกจากนี้ในเรื่องของความยั่งยืน เรายังมีโซลูชั่นการรีไซเคิลกระดาษแบบครบวงจรแห่งแรกของโลก ด้วยเทคโนโลยีที่มีสุดท้ายแล้วมันจะเกื้อกูลกันและกัน ในเรื่องการพิมพ์หรือการใช้กระดาษ เราย้ำเสมอว่าพิมพ์เท่าที่จำเป็น และใช้โซลูชั่นรีไซเคิล”

ด้านนายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สัดส่วนตลาดเครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ และเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่มักจะมีสัดส่วนเครื่องพิมพ์เลเซอร์มากกว่า 50% หรือ 70% กรณีประเทศไทยมีสัดส่วนเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทมากกว่า คือ มี 70%

การที่เอปสันที่ใช้เทคโนโลยี Heat-Free จะทำให้เครื่องพิมพ์อิงเจ็ทมีประสิทธิภาพในด้านความรวดเร็วและความละเอียดเทียบเท่าหรือดีกว่าเครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ และยังได้รับความนิยมอย่างมากจากทุกตลาดในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ จนครองส่วนแบ่งตลาดเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทมากเป็นอันดับหนึ่งในปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงเทรนด์ของตลาดที่ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นอีกด้วย