เจ เวนเจอร์ส ดัน JFIN Chain สร้างธุรกิจดิจิทัลทรานส์ฟอร์มเมชันโต

ธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ เจ เวนเจอร์ส
นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (J Ventures)

เจ เวนเจอร์ส ปักธง ปี 2566 สร้างการเติบโตจากธุรกิจดิจิทัลทรานสฟอร์เมชัน บนโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชน ด้วยโซลูชันแบบ End-to-end

วันที่ 20 ธันวาคม 2565 นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (J Ventures) ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยี และดิจิทัล ทรานสฟอร์เมชัน ในกลุ่มเจมาร์ท กรุ๊ป (JMART) เปิดเผยว่า ธุรกิจของเจ เวนเจอร์สเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2565 บริษัททำรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นราว 27% จาก 2 ส่วน ได้แก่ J-DX (Jaymart Digital Transformation) ซึ่งเป็นต้นฉบับของการทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน (Original DX) ในการสร้าง และปรับปรุงระบบต่าง ๆ ให้กับเจมาร์ท กรุ๊ป

การเติบโตอีกส่วนหนึ่งมาจากรายได้ของบล็อกเชน JFIN Chain ที่เริ่มนำมาใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจ หลังจากเปิดตัวไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา สำหรับในปี 2566 มองว่าเป็นปีแห่งการทำ Digital Transformation หรือ DX บริษัทได้วางแผนตั้งใจที่จะเติบโตด้วยการทำทรานส์ฟอร์มให้กับองค์กร (C-DX: Corporate Digital Transformation)

โดยเร่งสร้างการรับรู้ให้ตลาดเข้าใจว่าการทำทรานส์ฟอร์เมชันในแบบ DX เป็นอย่างไร ในฐานะผู้นำในด้าน DX (Digital Transformation) เน้นย้ำด้วยการขยายความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่จะช่วยขับเคลื่อนอีโคซิสเต็มได้อย่างเต็มรูปแบบ

การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล หรือ Digital Transformation (DX) มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนองค์กรในปัจจุบัน เห็นได้ชัดว่าทุกองค์กรต่างตื่นตัวและพร้อมก้าวสู่การเปลี่ยนแปลง แต่ในตลาดยังขาดผู้ที่จะมาให้บริการ เพื่อสร้าง DX ให้เกิดขึ้นได้จริง โดยทุกคนกำลังมองหาว่ามีโซลูชันประเภทอะไรบ้าง และผู้ขายมีข้อเสนออะไร

ซึ่งเจ เวนเจอร์สมีความเชื่อในเรื่องของบล็อกเชน และต้องการที่จะพัฒนาธุรกิจเป็นแนวทางใหม่ โดยร่วมพัฒนา dApps (Decentralized Application) บน JFIN Chain ซึ่งจะเป็นการร่วมสร้างโซลูชันที่สมบูรณ์ในการทำ DX (Digital Transformation) ได้

ADVERTISMENT

ขณะที่ธุรกิจด้าน Ventures Builder ปัจจุบัน เจ เวนเจอร์สมีพันธมิตรที่เป็นกลุ่มเทคโนโลยีที่จะมาช่วยขับเคลื่อนเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มจำนวน 14 ราย ได้แก่ ทีทูพี พระอินทร์ ฟินเทค ดีพสปาร์คส์ Todaq Holding ซาโตชิ (KULAB) เจพีทูพี ฮับบา เค อินโนเวชัน โทเคไนน์ เซฟบีเอสซี SMILE MONEY เจดีเอ็น เอ็กซ์เชน เน็ตเวิร์ค Kogo Pay และ เอวานทิส แลบบอราทอรี (ประเทศไทย)

ซึ่งในอนาคตมีแพลนที่จะร่วมมือกับพันธมิตรอีกหลายรายเพื่อมาร่วมสร้าง DX (Digital Transformation) ให้เกิดขึ้น โดยมุ่งเน้นขยายพันธมิตรใน 2 ด้าน ได้แก่ พันธมิตรด้านเทคนิค (Tech Partner) สร้างเทคโนโลยีและโซลูชันต่าง ๆ และพันธมิตรธุรกิจ (Business Partner) ที่เจ เวนเจอร์ส จะเข้าไปช่วยทำ DX (Digital Transformation) เพื่อสร้างการเติบโตให้ธุรกิจ

ADVERTISMENT

นายธนวัฒน์ ยังกล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้หลายองค์กรที่ต้องการทำการทรานสฟอร์ม โดยเฉพาะที่ต้องการใช้บล็อกเชน หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ แล้วคิดว่าองค์กรจะดีขึ้น แต่ความจริงแล้วการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ มีความซับซ้อนและมีหลากหลายมิติที่ต้องพิจารณา เจ มาร์ท ได้ทำการทรานสฟอร์มองค์กรอย่างต่อเนื่องมา 5 ปี และคิดว่าสามารถนำโซลูชั่นที่ใช้เอง ที่สร้างขึ้นเองนี้ ไปช่วยองค์กรอื่นๆ ได้

“อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้แม้จะมีลูกค้าที่เชี่อว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนจะมาเป็นเทคโนโลยีสำคัญในอนาคต แต่ เจ เวนเจอร์ส ยังไม่สามารถตอบสนองได้อย่างเต็มที่เนื่องจากเรายังไม่มีโครงสร้างพื้นฐาน หรือ “ถนน” ให้องค์กรต่างๆ ใช้ร่วมกัน แต่ตอนนี้เรามีบล็อกเชนของตัวเอง บล็อกเชนของคนไทย แล้วมีถนนที่พร้อมแล้ว ดังนั้นการทำโซลูชั่นอื่นๆ เพื่อให้คนใช้ถนนร่วมกันจึงเป็นรื่องที่ทำได้”

นายธนวัฒน์ ทิ้งท้ายว่า เป้าหมายในปี 2566 ยังคงตอกย้ำจุดยืนของ เจ เวนเจอร์ในการทำ DX ผู้นำเสนอโซลูชันที่สมบูรณ์ ครบทั้งแนวความคิด การวางกลยุทธ์ และการดำเนินการ ในมุมมองของเทคโนโลยีการทำ DX ตามสโลแกน We Make The Real Corporate Digital Transformation

“เรากำลังสร้างการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลเพื่อองค์กรอย่างแท้จริง เห็นได้จากช่วงที่ผ่านมา เราได้สร้างแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทำให้มีเครื่องมือพร้อมในการ Make the Real DX นั่นคือ สร้างการเปลี่ยนแปลงได้อย่างแท้จริง”

“นอกจากนี้ เราจะทยอยเปิดตัวพาร์ทเนอร์ที่สำคัญ ทั้งพาร์ทเนอร์ธุรกิจ และพาร์ทเนอร์ทางด้านเทคนิค ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่มีชื่อเสียงมานาน เพื่อจะมาร่วมมือกันทำ DX (Digital Transformation) ให้กับองค์กรในประเทศไทย รวมถึงเน้นไปยังการชวนพาร์ทเนอร์ต่าง ๆ มาร่วมสร้าง dApps ใน JFIN Chain ด้วย”