“บิตคอยน์-คริปโต” โตแรงต้นปี เตือนมีอันตรายรออยู่ข้างหน้า

บิตคอยน์17ธันวาคม65
ภาพจาก pixabay

บิตคอยน์-คริปโต ส่งสัญญาณพักตัว หลังราคาขึ้นแต่โวลุ่มเริ่มลดลง ด้านนักวิเคราะห์ชี้ สถานการณ์ยัง “อันตรายมาก” จากภาวะเศรษฐกิจมหภาคในปี 2566

วันที่ 25 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ราคาบิตคอยน์-คริปโตเคอร์เรนซีที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมกว่า 33% ดันมูลค่าตลาดจาก 7.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ กลับมาที่ 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา โดยบิตคอยน์เจ้าตลาดราคาเติบโตถึง 40% ยืนเหนือ 22,000 เหรียญสหรัฐ/BTC

อย่างไรก็ดี วานนี้ราคาบิตคอยน์และคริปโตเคอร์เรนซีเริ่มพักตัวนิ่ง ในขณะที่ปริมาณการซื้อขายได้ลดลงตั้งแต่วันที่ 15 มกราคมแล้ว ตามข้อมูลจาก livecoinwatch

Advertisement
"กราฟแสดงปริมาณซื้อขายลดลง จาก livecoinwatch"
“กราฟแสดงปริมาณซื้อขายลดลง จาก livecoinwatch”

นอกจากนี้ นางลินน์ อัลเดน นักเศรษฐศาสตร์ผู้ก่อตั้ง Lyn Alden Investment Strategy เปิดเผยกับสำนักข่าว Coin Telegraph ว่า บิตคอยน์ยังคงเสี่ยงต่อ “อันตรายอย่างมาก” ในปี 2566 นี้ เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่กำหนดการเคลื่อนไหวของราคา

“อัลเดน” อธิบายว่า การเติบโตกว่า 40% ของบิตคอยน์ตั้งแต่ต้นปีนี้ อาจเป็นสิ่งที่จะได้เห็นแค่เดือนมกราคมเท่านั้น เพราะราคาบิตคอยน์ที่ฟื้นตัวสัมพันธ์กับปริมาณสภาพคล่องที่ถูกโยกย้ายหลังจาก FTX ล่มสลาย บิตคอยน์ปริมาณมากถูกปล่อยสู่ตลาดและมันเริ่มเปลี่ยนสู่สถานะปกติ

“การล่มสลายของ FTX/Alameda ทำให้อุตสาหกรรมตกต่ำในช่วงครึ่งหลังของไตรมาสที่ 4/2565 แม้ว่าสินทรัพย์อื่น ๆ จะฟื้นตัว (ตราสารทุน ทองคำ ฯลฯ) และตอนนี้ดูเหมือนว่า BTC กำลังไล่ตาม และกลับมาที่จุดเดิม”

Advertisement

ดังนั้น สิ่งที่จะเกิดหลังจากการไล่ตามสินทรัพย์ชนิดอื่น ๆ อาจไม่ราบรื่นนักหลังจากนี้ เพราะขณะนี้ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ FED กำลังดำเนินการควบคุมปริมาณเงิน (QT) โดยขจัดสภาพคล่องออกจากระบบเศรษฐกิจ เพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งขณะนี้ดูจะค่อย ๆ ทำอย่างเบามือ เนื่องจากการเมืองภายในประเทศของสหรัฐ แต่หลังจากนั้น สถานะที่เป็นอยู่อาจเปลี่ยนกลับไปสู่อารมณ์ของการกำจัดสภาพคล่อง (การขึ้นดอกเบี้ย) ซึ่งเราเห็นได้ตลอดทั้งปีตลาดหมีของบิตคอยน์-คริปโต ในปี 2565 ที่ผ่านมา

นางอัลเดนระบุว่า มีอันตรายรออยู่ข้างหน้า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 “สภาพคล่องอยู่ในเกณฑ์ดีในขณะนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกระทรวงการคลังสหรัฐกำลังดึงเงินสดคงเหลือเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกินเพดานหนี้ และสิ่งนี้จะผลักดันสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงิน ดังนั้น กระทรวงการคลังได้ชดเชย QT บางส่วนที่ธนาคารกลางสหรัฐกำลังดำเนินการอยู่

เมื่อปัญหาเพดานหนี้ได้รับการแก้ไข กระทรวงการคลังจะเติมเงินในบัญชีเงินสด ที่จะดึงสภาพคล่องออกจากระบบ เมื่อถึงจุดนั้น ทั้งคลังและ Fed จะดูดสภาพคล่องออกจากระบบ และนั่นจะสร้างช่วงเวลาที่เปราะบางสำหรับสินทรัพย์เสี่ยงโดยทั่วไป ซึ่งรวมถึง BTC”

Advertisement