ไมโครซอฟท์ ยุบแผนกเมตาเวิร์ส-เริ่มเก็บค่าใช้ Microsoft Teams

Microsoft
REUTERS/ Mike Blake

ไมโครซอฟท์ ปรับแผนใหญ่ ปรับลดคน ยุบแผนกด้านเมตาเวิร์ส เตรียมปิดแอป Teams แบบฟรีที่ใช้สำหรับธุรกิจ โฟกัสพัฒนาเอไอแย่งผู้ใช้งานกลับคืน

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ในช่วง 2 สองวันที่ผ่านมามีรายงานเกี่ยวกับบริษัท Microsoft Corp. เรื่องแผนกที่อยู่ในแผนการปลดพนักงานครั้งใหญ่ 10,000 คน ภายในไตรมาสที่ 3/2566 ส่วนใหญ่แล้วอยู่ในแผนกการพัฒนาฮาร์ดแวร์สำหรับ Metaverse จากรายงานของ Bloomberg ระบุว่าปีที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ ต้องจ่ายให้กับพนักงาน 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ และไตรมาสที่แล้ว 800เหรียญสหรัฐ

Bloomberg ระบุว่า ไมโครซอฟท์จะปรับลดคนหน่วยแรก คือการยุบแผนก (Shutdown) หน่วยงานด้านฮาร์ดแวร์ผสมผสานระหว่างโลกเสมือนและโลกจริง เช่น Surface devices, HoloLens และ Xbox ซึ่งเหล่านี้ล้วนเป็นฮาร์ดแวร์ที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse กระทบพนักงาน 617 คน

การลดจำนวนพนักงานในทีมงาน HoloLens hardware นำไปสู่คำถามว่า บริษัทอาจยุบเพราะสภาคองเกรตไม่อนุมัติงบให้ซื้อแว่นตา iteration 3 ของ HoloLens สำหรับกองทัพสหรัฐ ทำให้ขาดลูกค้ารายใหญ่

นอกจากนี้ ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่า ในธุรกิจซอฟต์แวร์ อย่าง Microsoft team แบบฟรีที่ใช้สำหรับธุรกิจ ในชื่อ Teams Free (classic) โดยจะมีการปิดแอปฯ ดังกล่าวในวันที่ 12 เมษายนนี้ มีผลให้ข้อมูลเดิมทั้งข้อความแชท ไฟล์ และอื่น ๆ จะถูกลบทิ้งทั้งหมด ยกเว้นผู้ใช้งานเปลี่ยนไปใช้แบบชำระเงิน สองแบบคือ Microsoft Teams Essentials ราคา 4 เหรียญสหรัฐต่อเดือน ที่รองรับการประชุมโคตรยาวติดกันได้นานถึง 30 ชั่วโมง พร้อมกันได้ 300 คน บวกกับเนื้อที่บนคลาวด์คนละ 10GB

ตัวเลือกที่สองที่ต้องชำระเงินคือการอัพเกรดเป็น Microsoft 365 Business Basic ในราคา 6 เหรียญสหรัฐ/ผู้ใช้/เดือน ซึ่งจะได้รับทุกสิ่งที่ผู้ใช้ Essentials ได้รับ รวมถึงที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ 1TB ต่อผู้ใช้ การบันทึกการประชุมพร้อมการถอดเสียง ความสามารถในการจัดการการนัดหมายของลูกค้าด้วยการจอง และเข้าถึงเว็บและแอปมือถือ

การเคลื่อนไหวของไมโครซอฟต์ในช่วงที่ผ่านมา ทั้งการปรับลดคน ปรับลดแผนการพัฒนาฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์สำหรับโลกเสมือน รวมถึงการหารายได้เพิ่มเติมจากซอฟต์แวร์ที่มี เป็นไปตามกลยุทธ์ของบริษัทที่ต้องการจะโฟกัสที่ปัญญาประดิษฐ์ โดยการอัพเกรดใหญ่ในซอฟต์แวร์และผลิตภัณฑ์สำคัญอย่างเช่น Bing หรือ Edge ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Google Chrome โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา Bing มีผู้ดาวน์โหลดไปใช้งานเพิ่มขึ้น 10 เท่า