เปิดหน้า Circle งัด Binance เบื้องหลังศึกคริปโต

เปิดชื่อผู้ร้องเรียน Paxos ผู้ออก Stable Coin ให้ Binance คือ Circle ผู้ออกเหรียญ USDC เผยยักษ์สองรายเคยมีปัญหากันในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ด้าน CZ เผยไม่มีส่วนในการออกเหรียญ BUSD พร้อมเล็งใช้เงินสกุลอื่นแทนดอลลาร์

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า มีการเปิดเผยรายชื่อผู้ร้องเรียนต่อหน่วยงานตรวจสอบเงินสหรัฐแห่งนิวยอร์ก (New York Department of Financial Services) เป็นเหตุให้มีการตรวจสอบบริษัท Paxos ผู้ออกเหรียญ Stable Coin ที่ตรึงมูลค่ากับดอลลาร์สหรัฐสกุล Binance USD (BUSD) ให้กับระบบนิเวศของ Binance ซึ่งนำไปสู่การสั่งระงับการออกเหรียญดังกล่าวในที่สุด

สื่อคริปโต Coindesk รายงานว่า การร้องเรียนต่อหน่วยงานดังกล่าว ได้รับการยืนยันจาก New York Department of Financial Services ว่าเริ่มต้นในเดือน ต.ค. 2565 นำโดย บริษัท Circle ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีการชำระเงินแบบ peer-to-peer ที่จัดการ Stablecoin ยอดนิยมที่รู้จักกันในชื่อ USDC ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตรงกับดอลลาร์สหรัฐ หรือเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Paxos ที่ออกเหรียญ BUSD และ Tether ที่ออกเหรียญ USDT

นอกจากนี้ Circle เป็นบริษัทที่มีผู้สนับสนุนรายใหญ่จำนวนมากไม่ว่าจะเป็นธนาคารยักษ์ Goldman Sachs. หรือกองทุนใหญ่ BlackRock, Fidelity Investments, Marshall Wace LLP และ Fin Capital

โดยข้อกล่าวหาที่ Circle รายงานกับ NYDFS คือ BUSD ที่ Paxos สร้างขึ้นมานั้นไม่มีการสำรองเงินโดยสมบูรณ์ (Fully-Backed) โดย Binance นั้นไม่มีทุนสำรอง (Reserve) ที่เพียงพอกับจำนวนของ BUSD ที่ปล่อยสู่ตลาดและระบบอุปทานหมุนเวียน

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีข่าวการดำเนินการสอบสวนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับ การส่งจดหมายเตือนจาก ก.ล.ต. สหรัฐ ถึง Paxos ว่าการออกเหรียญ BUSD นั้นขัดต่อกฎหมายหลักทรัพย์ เพราะถือว่า BUSD เป็นหลักทรัพย์ที่ไม่จดทะเบียน นำมาสู่การสั่งห้ามออกเหรียญ BUSD ในที่สุด ซึ่ง Paxos ไม่เห็นด้วยและกำลังดำเนินการโต้แย้งภายใน 30 วัน

ย้อนไปก่อนหน้านี้ Circle และ Binance เคยมีปัญหากระทบกระทั่งกัน โดยในช่วงเดือนกันยายน 2565 Binance ได้ประกาศระงับการใช้ Stable Coin 3 สกุล ได้แก่ USDC, TUSD และ USDP โดยการแปลง (Swap) เหรียญดังกล่าวเป็น Stable Coin ของตนคือ BUSD ส่งผลให้หลายฝ่ายมองว่าเป็นการกีดกันสกุล Stable Coin อื่น และอาจเป็นเหตุผลให้ Circle ต้องออกมาร้องเรียนข้อผิดพลาดของผู้ออกเหรียญ BUSD ของ Binance

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวส่งผลต่อระบบนิเวศของ Binance โดยตรง เพราะ BUSD เป็นสกุลเงินแลกเปลี่ยนหลักถึง 35% บนกระดานเทรด Binance กระดานเทรดอันดับหนึ่งที่กินส่วนแบ่งตลาดคริปโต ถึง 70% และหาก Binance ได้รับผลกระทบเป็นลูกโซ่ ย่อมทำให้ตลาดคริปโต ทั้งหมดถูกเขย่าจนเกิดวิกฤตอีกรอบได้

ล่าสุด นายฉางเผิง จ้าว ซีอีโอของ Binace เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี อาจต้องเปลี่ยนจาก Stable coins ที่เชื่อมโยงกับดอลลาร์ หรืออาจต้องกลับไปสู่ เหรียญอัลกอริทึมแบบเดียวกับ Terra LUNA ที่ล่มสลายก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดการปราบปรามด้านกฎระเบียบจากหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐ ในปัจจุบัน

เขากล่าวว่า เหรียญ Stable coin เช่น BUSD, USDT ของ Tether และ USDC ของ Circle เป็นโทเค็นที่ได้รับการสนับสนุนจากเงินสำรอง เช่น เงินสดและพันธบัตร นักลงทุนจึงมักจะวางเงินไว้ใน Stable coin ขณะที่พวกเขาแลกเปลี่ยนหรือเคลื่อนย้ายคริปโต โดย Stable coin มีเงินหมุนเวียนประมาณ 1.36 แสนล้านเหรียญสหรัฐในปัจจุบัน

“ผมคิดว่าเราควรจะเห็นสกุลเงินยูโร หรือ สกุลอื่น ๆ มากขึ้นในการซื้อขายหรือสำรองบนอุตสาหกรรมคริปโต เช่น เยนญี่ปุ่น หรือเหรียญ Stable coins ที่ใช้สกุลเงินดอลลาร์สิงคโปร์” นายจ้าว กล่าวเสริม

ปัจจุบัน Stable coins ครอบงำตลาด โดยได้รับการหนุนหลังด้วยสกุลเงินดอลลาร์ เฉพาะ Tether หรือ USDT คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50% ของตลาด ในขณะที่เหรียญ Stable coin ที่ได้รับการหนุนหลังด้วยสกุลเงินยูโร กลับมีอำนาจในตลาดเพียงเล็กน้อย

นายจ้าว ยังกล่าวด้วยว่า BUSD ไม่ใช่ความคิดของเขาหรือทีมของเขา แต่เป็นความคิดที่มาจาก Paxos และเขาย้ำว่า Binance ไม่ใช่ผู้ออก Stable coin

“BUSD ไม่เคยเป็นธุรกิจที่ดีสำหรับเรา” เขากล่าว