กูรูชี้ คริปโต แหล่งพักเงินระยะสั้นจากวิกฤตธนาคาร

เทรด บิตคอยน์ คริปโต การเทรด ตลาด
Photo by Behnam Norouzi on Unsplash

คริปโตเคอร์เรนซีราคาพุ่งยกแผง มูลค่าตลาดเพิ่ม 30% หลังเกิดวิกฤตธนาคาร SVB-Signature ล้ม กูรูชี้เงินกว่าพันล้านไหลมาพักชั่วคราว ระยะยาวยังไม่แน่นอน

วันที่ 20 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีวันนี้ปิดแท่งวันที่ 19 มีนาคม 2566 ในระดับทรงตัว หลังพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์หลังเกิดวิกฤตธนาคาร Silicon Valley Bank และ Signature Bank ล้มละลาย โดยมูลค่าตลาดปิดวันที่ 1.118 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 30% จากวันที่ 11 มีนาคมที่ 9 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่บิตคอยน์เจ้าตลาดราคาปิดที่ 27,300 เหรียญสหรัฐ อีเทอเรียม ปิดที่ 1,750 เหรียญสหรัฐ (ข้อมูลจาก Coin Market Cap/Trading View)

CNBC ได้สัมภาษณ์ 2 กูรูในวงการคริปโตเคอร์เรนซี ถึงการเคลื่อนไหวดังกล่าวในตลาดคริปโต

นายเจคอบ ซิลเวอร์แมน บรรณาธิการข่าว เดอะนิวรีพับลิก ได้เปิดเผยว่า เงินที่ไหลเข้ามาไม่ใช่เงินที่จะอยู่ในตลาดระยะยาว เงินที่ไหลเข้าตลาดคริปโตในช่วงนี้เป็นเหมือนการหลบหนีจากปัญหามาพักในตลาดคริปโตชั่วคราว ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา Tether ได้สร้างเหรียญ Stable Coin ที่อิงกับดอลลาร์สหรัฐ (USDT) กว่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ TUSD สร้างขึ้นอีกกว่า 1 พันล้านเหรียญในตลาดคริปโต

“เงินเหล่านี้ไหลมาจากนักลงทุนรายใหญ่นอกตลาดที่เคลื่อนไหว แต่ถ้าพวกเขาไม่สามารถเข้าถึงการเงินกระแสหลัก หรือเงินเฟียตดอลลาร์ได้ พวกเขาจะย้ายเงินเข้ามาสู่ Stable Coin ก่อน ผมไม่รู้ว่าพวกเขากำลังจะทำอะไรในระยะยาว”

ในขณะที่ นางสาวเมลตัม ดีมีร์เออร์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ยุทธศาสตร์ CoinShares บริษัทบริหารจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล ระบุว่า ธนาคารยังคงเป็นธนาคารให้คริปโตด้วยเหตุผลที่ Silvergate (ธนาคารคริปโตที่ล้มก่อนหน้า) และ Signature Bank ทั้งสองธนาคารนี้มีความสำคัญต่อระบบนิเวศของคริปโตมาก เพราะพวกเขาทำให้คริปโตเข้ากับระบบธนาคารดั้งเดิมและระบบเงินดอลลาร์ได้

พวกเขาทั้งสองมีเครือข่ายภายในที่อนุญาตให้ทำธุรกรรม 24 ชม. 7 วัน ตลอด 365 วัน และถือว่าให้บริการแบบ Real Time นั่นก็เป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญอย่างยิ่งต่อสภาพคล่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการซื้อขายบนระบบนิเวศคริปโต

เหรียญ Stable นั้นสำคัญมาก เพราะพวกมันช่วยให้คุณสามารถจ่ายเงินดอลลาร์แบบเรียลไทม์ในลักษณะคริปโต นี่คือความแตกต่างของเทคโนโลยีพื้นฐานการโอนเงินระหว่างธนาคาร ซึ่งใช้เวลาสองถึงสามวันในการดำเนินการมันเคลื่อนไหวค่อนข้างช้า สิ่งสำคัญมากคือบริษัทคริปโตสามารถอำนวยความสะดวกให้เข้าถึงแบบเรียลไทม์ ในขณะที่วิธีแบบธนาคารถูกตัดขาดในช่วงธนาคารล้ม 

“เราจึงเห็นการเคลื่อนไหวจำนวนมากที่ย้ายเงินไปสู่เหรียญที่มีเสถียรภาพ และอีกมากมายเป็นการเก็งกำไรเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน”

“ฉันคิดว่าเรากำลังเห็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนแพลตฟอร์ม Uniswap ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ (DEX) ที่ใช้แลกเปลี่ยนระหว่างคริปโตกับคริปโต โดย Uniswap มีปริมาณการซื้อขายสูงสุดเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว”

“เราเห็นว่าการเติบโตของโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ อย่างบน Uniswap นั้นเป็นรายย่อย ในขณะที่ความสนใจของสถาบันที่ไม่ใช่คริปโตจำนวนมากโฟกัสที่การพยายามถอนและเข้าถึงเงินดอลลาร์ ซึ่งจำเป็นต้องใช้ทั้งเทคโนโลยีและเงินขนาดใหญ่ (big hot ball of money) เมื่อใช้ Stable Coin จะเคลื่อนย้ายเงินมันทำได้เร็วมากผ่านโทรศัพท์ที่เพียงการคลิกปุ่ม รอบดังนั้นความเร็วนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกระจายไปสู่อุตสาหกรรมอื่น ๆ ฉันคิดว่าเราจะยังคงเห็นความผันผวนนี้ต่อไป เมื่อธนาคารและเสถียรภาพของธนาคารยังไม่มีความแน่นอน”