ซีอีโอ แฟลชกรุ๊ป เล่าประสบการณ์ผู้บริหารโดนจับเรียกค่าไถ่

ซีอีโอ แฟลชกรุ๊ป เล่าประสบการณ์สุดระทึก ขยายธุรกิจในฟิลิปปินส์ เผยทั้งบริษัททั้งลูกค้าเคยโดนขโมยเงินเสียหายเดือนละ 60 ล้านบาท จนต้องเปลี่ยนขนาดตู้เซฟเป็นขนาด 100 กิโล ให้มิจฉาชีพยกไม่ไหว แต่หนักสุดผู้ช่วย ‘ซีอีโอ’ โดนจับเรียกค่าไถ่ 

วันที่ 26 มีนาคม 2566 นายคมสันต์ ลี ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจแฟลช หนึ่งในวิทยากรในงานสัมมนา “New Era Economy”อนาคตประเทศไทย จัดโดย “ประชาชาติธุรกิจ” ได้บอกเล่าประสบการณ์หลังขยายธุรกิจ “แฟลชเอ็กเพรส” ไปยังประเทศฟิลิปปินส์ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา

“การลงทุนที่ฟิลิปปินส์ก็ได้รสชาติอีกรสชาติหนึ่ง ฟิลิปปินส์ต้องบอกว่าพื้นฐานแล้วเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา มีประชากรร้อยล้านคน แต่มีเอกสาร 40 ล้านคน แล้วที่เหลือรัฐบาลกำลังเร่งทำเอกสาร แล้วเกิดอะไรขึ้นกับแฟลช พนักงานแฟลช 1.5 หมื่นคน มีเอกสารถูกต้องแค่ 3-4 พันคน”

“สิ่งที่เราเจอ คือมีปัญหาการขโมยเงินลูกค้าบ้าง ขโมยเงินบริษัทบ้าง เสียหายเดือนละ 60 ล้านบาท ขนาดตู้เซฟสำหรับเก็บเงินสดของเราเดิมมีขนาดแค่ 50 กิโลกรัม ต้องเปลี่ยนเป็นตู้ขนาด 100 กิโลกรัม เพื่อให้คนขโมยเอากลับบ้านไม่ได้ นั่นก็เป็นเรื่องที่สนุกแล้วก็ท้าทายดี’

ซีอีโอ แฟลชกรุ๊ปเล่าต่อด้วยว่า เนื่องจากธุรกิจคาสิโน เป็นธุรกิจถูกกฎหมายในฟิลิปปินส์ ทำให้บรรดาคอลเซ็นเตอร์ที่มีปัญหา อาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ตเดิมจะอยู่ที่ลาว กัมพูชาย้ายมาไทยบ้าง แต่ย้ายไปเยอะสุดเลยคือที่ ฟิลิปปินส์

เมื่อเร็วๆ นี้ ซีอีโอ แฟลชกรุ๊ปที่ฟิลิปปินส์ก็เพิ่งลาออก ด้วยเหตุผลว่า เขากับผู้ช่วยของเขา ไปทานข้าวด้วยกันที่ร้านอาหาร แล้วเกิดเหตุการณ์ผู้ช่วยของเขาโดนจับเป็นตัวประกันเพื่อเรียกค่าไถ่ เป็นเงิน 200,000 บาท

Advertisment

“พอภรรยาของซีอีโอรู้เรื่องนี้ก็ ไม่อยากให้อยู่แล้ว อยากให้กลับบ้าน”

สำหรับเหตุผลที่ว่าทำไมเลือกขยายธุรกิจไปยังฟิลิปปินส์นั้น นายคมสันต์ กล่าวว่า ไม่ได้เป็นเพราะมีขนาดตลาดที่ใหญ่จากการมีประชากรมากเพียงอย่างเดียว พาร์ตเนอร์ชิปเชิญเข้าไปลงทุนธุรกิจก็มีส่วนสำคัญมาก อีกทั้งยังมีโอกาสอีกมากด้านอีคอมเมิร์ซเพราะฟิลิปปินส์เป็นประเทศอันดับหนึ่งของภูมิภาคนี้ด้านการเติบโตอีคอมเมิร์ซ นั่นคือเหตุผลที่เข้าไป

Advertisment