“ดีอีเอส” เซ็นเอ็มโอยู 16 แบงก์ เพิ่มช่องทางแจ้งเตือนภัยออนไลน์ และเฟคนิวส์ผ่านแอปธนาคาร หวังเพิ่มความตระหนักรู้ให้ประชาชนรู้เท่าทันกลลวงอาชญากรรมออนไลน์-ลดความเสี่ยงจากภัยไซเบอร์
วันที่ 3 พฤษภาคม 2566 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้ร่วมเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การบูรณาการบริการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาการหลอกลวงทางสื่อออนไลน์ และการแจ้งเตือนภัยจากการหลอกลวงทางสื่อออนไลน์ และข่าวปลอมแก่ประชาชน ผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- ราคาทองวันนี้ (29 มี.ค. 67) พุ่งกระฉูด 600 บาท ทองรูปพรรณบาทละ 39,050 บาท
- เลิกอุ้มดีเซล 30 บาท จ่อขยับเพดานราคา 2 บาท มีผล 1 เมษายน 2567
โดยมีศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดีอีเอส และธนาคารทั้ง 16 แห่ง ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว พร้อมด้วยนางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นสักขีพยาน
เพื่อร่วมกันเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชน เผยแพร่ข้อมูล ข่าวสารที่ถูกต้องต่อประชาชน และสาธารณชน ผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารต่างๆ เป็นการเพิ่มช่องทางในการสร้างความตระหนักรู้เท่าทันการหลอกลวงออนไลน์ และข่าวปลอม ป้องกัน และยับยั้งการถูกหลอกลวง ลดความสูญเสียของประชาชนในการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพออนไลน์
นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงครั้งนี้ เป็นการขยายผลการดำเนินการป้องกันอาชญากรรมออนไลน์ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการรู้เท่าทันมิจฉาชีพ จากการที่กระทรวงดีอีเอส ได้นำร่องจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทยในการใช้แอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งมีประชาชนใช้งานกว่า 40 ล้านคน เป็นช่องทางแจ้งเตือนภัยออนไลน์ ในช่วงปลายปี 2565
โดยจะเชื่อมโยงข้อมูลจากฐานข้อมูลข่าวปลอม ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (AFNC) ที่ดําเนินงานโดยกระทรวงดีอีเอส ไปยังแอปพลิเคชันของธนาคารต่างๆ เพื่อให้มีการเผยแพร่การแจ้งเตือนภัยจากการหลอกลวงที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงทางการเงิน หรืออาชญากรรมทางการเงิน (Financial Fraud) ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งทางออนไลน์ และข่าวปลอมแก่ประชาชน เพื่อให้รับทราบ และเท่าทันต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
สำหรับ 16 ธนาคารที่เข้าร่วมลงนามครั้งนี้ ประกอบด้วย
-
- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารเกียรตินาคินจำกัด (มหาชน)
- ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารออมสิน
โดยเป็นความร่วมมือของกระทรวงดีอีเอส ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และ 16 ธนาคาร ในการลดอาชญากรรมออนไลน์ ต่อเนื่องจากการที่กระทรวงดีอีเอส ได้ออกพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 มีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งรัดการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ โดยออกมาตรการต่างๆ อาทิ ธนาคารงดส่งลิงก์ทุกประเภทผ่าน SMS อีเมล, ธนาคารต้องแจ้งเตือนบน Mobile Banking ก่อนทำธุรกรรมทุกครั้ง, กสทช. และผู้ให้บริการโทรศัพท์ปิดกั้น SMS และเบอร์ Call Center รวมกว่า 167,000 เบอร์, สำนักงาน ปปง. ได้ส่งรายชื่อบุคคลพฤติกรรมเสี่ยงสูง หรือต้องเฝ้าระวัง กรณีบัญชีม้า (รหัส HR-03) ผ่านระบบให้ธนาคารเฝ้าระวัง
“การเผยแพร่การแจ้งเตือนภัยจากการหลอกลวงออนไลน์จะนำไปสู่การลดความสูญเสียของประชาชนในการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นเครื่องมือในการหลอกลวงประชาชนและเชื่อมั่นว่าการนําเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการนําข้อมูลดิจิทัลไปใช้ประโยชน์ เพื่อขับเคลื่อนกลไกการสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ และการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างยั่งยืนได้”นายชัยวุฒิ กล่าว