
“ลาซาด้า” ลุยบริการ “ส่งเร็วพิเศษ” รับสินค้าภายใน 2 วัน พร้อมตั้งศูนย์คัดแยกพัสดุเทพารักษ์ อัปสปีดการให้บริการ หนุนอีคอมเมิร์ซเติบโต
วันที่ 26 ตุลาคม 2566 นายเจมส์ มาร์แชนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายโลจิสติกส์ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า ลาซาด้า (Lazada) เชื่อว่าอีโคซิสเต็มด้านโลจิสติกส์ที่ครอบคลุมและทันสมัย ถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะช่วยให้อีคอมเมิร์ซเติบโตได้อย่างยั่งยืน
- MOTOR EXPO 2023 ยอดขายรถ 4 วันแรกทะลุ 8,300 คัน
- เช็กเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เงินเข้าบัญชีวันนี้ 38 จังหวัด
- สพฐ.ประกาศหยุดเรียน 4-8 ธ.ค.ให้นักเรียน ม.ปลายเตรียมสอบ TGAT/TPAT
ลาซาด้า โลจิสติกส์ จึงให้ความสำคัญกับการส่งมอบบริการที่รวดเร็วและไร้รอยต่อ รวมถึงการยกระดับศูนย์โลจิสติกส์ ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางและประสิทธิภาพของกระบวนการต่าง ๆ ไปจนถึงการนำเสนอบริการ “ส่งเร็วพิเศษ” (Priority Delivery) ซึ่งเป็นตัวเลือกในการจัดส่งสินค้าสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการได้รับสินค้าเร็วยิ่งขึ้น
“เราพบว่าลูกค้าที่ได้ใช้บริการส่งเร็วพิเศษมีแนวโน้มที่จะมีความพึงพอใจต่อการซื้อสินค้าชิ้นนั้น ๆ เพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตราการยกเลิกคำสั่งซื้อโดยรวมต่ำลง และทำให้ยอดขายของแบรนด์เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน โดยหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลาซาด้าสามารถขยายบริการส่งเร็วพิเศษได้อย่างต่อเนื่อง คือการมีศูนย์คัดแยกสินค้าในบริเวณที่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย”
ทั้งนี้ ลาซาด้าเปิดให้บริการ “ส่งเร็วพิเศษ” มาตั้งแต่เดือน ก.ย. 2565 โดยผู้ซื้อจะได้รับสินค้าภายใน 2 วันทำการหลังจากวันที่ทำการสั่งซื้อสินค้าจากร้านค้า LazMall หรือร้านค้าแนะนำ (LazPick) และผู้ขายมาร์เก็ตเพลสที่เข้าร่วมบริการ โดยไม่ต้องชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ปัจจุบันให้บริการครอบคลุม 23 จังหวัดทั่วประเทศ เช่น กรุงเทพฯ และปริมณฑล ชลบุรี และ นครราชสีมา เป็นต้น
โดยผู้ใช้สามารถเลือกซื้อสินค้าที่มีสัญลักษณ์บริการส่งเร็วพิเศษได้จากหน้าเพจสินค้าหรือเลือกผ่านตัวกรองในหน้าค้นหาสินค้า ซึ่งการจัดส่งสินค้าในวันถัดไปเปิดให้บริการสำหรับคำสั่งซื้อที่ดำเนินการจัดส่งโดยลาซาด้าเท่านั้น และต้องทำการสั่งซื้อสินค้าก่อนเวลา 20.00 น. สำหรับคำสั่งซื้อสินค้าจากร้านค้า LazMall, LazPick และร้านค้า Marketplace ที่เข้าร่วมบริการการจัดส่ง
ซึ่งหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยให้ลาซาด้าสามารถให้บริการส่งเร็วพิเศษได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น คือการเพิ่มศูนย์คัดแยกพัสดุ ซึ่งปัจจุบันลาซาด้ามีศูนย์คัดแยกพัสดุทั้งหมด 3 แห่ง ได้แก่ ศูนย์คัดแยกพัสดุสุขสวัสดิ์ ศูนย์คัดแยกพัสดุ จ.ฉะเชิงเทรา และศูนย์คัดแยกพัสดุเทพารักษ์ ที่เปิดให้บริการเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา
ศูนย์คัดแยกพัสดุเทพารักษ์เป็นศูนย์คัดแยกสินค้าขนาดใหญ่ที่สุดของลาซาด้า ประเทศไทย ด้วยพื้นที่กว่า 35,000 ตารางเมตร มีจุดเด่นตรงที่นำเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติมาเพิ่มความแม่นยำและความเร็วในการคัดแยกพัสดุ เช่น กล้อง AI ที่สามารถอ่านบาร์โค้ดได้ 360 องศา และเซ็นเซอร์คัดแยกขนาดและปลายทางจัดส่งพัสดุ เป็นต้น
นอกจากนี้ เทคโนโลยีระบบอัตโนมัติที่ใช้ภายในศูนย์คัดแยกพัสดุเทพารักษ์ครอบคลุมการปฏิบัติงานกว่า 75% ของศูนย์ฯ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ในหลายด้าน โดยระบบอัตโนมัติในการจัดเรียง คัดแยก และบรรจุพัสดุลงถุงเพื่อไปยังสถานีปลายทางต่าง ๆ ลดการพึ่งพาการใช้แรงงาน ช่วยให้พนักงานสามารถใช้เวลากับงานที่มีความสำคัญได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นการยกระดับความปลอดภัยให้แก่พนักงานด้วย
นายณัฏฐพล เกรียงชัยเวทย์ รองประธานอาวุโสฝ่ายโลจิสติกส์ ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า ศูนย์คัดแยกพัสดุเทพารักษ์จะช่วยเพิ่มกำลังคัดแยกพัสดุของทั้ง 3 ศูนย์ฯ รวมเป็นกว่า 2 ล้านชิ้นต่อวัน รองรับพฤติกรรมของผู้คนที่นิยมการช็อปปิงออนไลน์ สอดคล้องกับการเติบโตของอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซไทย
“เราพบว่าศูนย์คัดแยกพัสดุเทพารักษ์ที่มีการนำเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติมาใช้ตั้งแต่ขั้นตอนรับพัสดุเข้าระบบไปจนถึงส่งพัสดุแก่ผู้ซื้อ ช่วยให้เราประหยัดเวลาในการดำเนินงานกว่าการคัดแยกแบบใช้แรงงานคน 3-4 เท่า ซึ่งพัสดุจะอยู่ในศูนย์คัดแยกไม่เกิน 2 ชั่วโมง ทำให้เราสามารถส่งพัสดุได้เร็วขึ้น”