“บิ๊กตู่” เผยคืบหน้า ม.44 อุ้มค่ายมือถือ-ทีวีดิจิทัล เร่งหาทางแก้ ยันปท.ต้องไม่เสียหาย-ไม่เอื้อประโยชน์ใคร

24 เม.ย.2561 เวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเเละหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ ถึงกรณีความคืบหน้ากรณีใช้คำสั่งมาตรา 44 เพื่อช่วยเหลือการประมูลคลื่นความถี่โทรคมนาคม และการประมูลทีวีดิจิทัล

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้ได้มีการหารือพูดคุยกันว่าจะมีมาตรการอย่างไร ที่เหมาะสมออกมาที่จะดูแลในเรื่องนี้ โดยตรงแยกออกเป็น 2 ประเด็น อันเเรกคือทีวีดิจิทัล อันที่สองคือคลื่นความถี่ ซึ่งจะต้องดูบริบทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหา ความเดือดร้อน ความพร้อมไม่พร้อมของระบบต่างๆ มันต้องมาหาวิธีการแก้ไข

“ถ้าจะบอกว่าทำอันนู้นไม่ได้ อันนี้ไม่ได้ มันก็แก้ไม่ได้สักอย่าง รัฐบาลยืนยันอยู่เเล้วว่าประเทศชาติต้องไม่เสียผลประโยชน์ ทุกอย่างมันต้องมีหนทางแก้ไข หากสังคมเข้าใจว่ารัฐบาลนี้เข้ามาโดยไม่เอื้อประโยชน์กับใคร แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลย มันจะเสียหายหรือเปล่านั้น ต้องว่ากันอีกเรื่อง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าวและว่า

มันก็เหมือนกับเรื่องคดีบ้านพักตุลาการที่เชียงใหม่ มันมีเหตุและผลเหมือนกัน รัฐบาลยืนยันว่าจะหาทางออกให้ดีที่สุดในเรื่องนี้ และหารายละเอียดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอยู่ในขั้นตอนทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวถามว่า การหารือได้ออกผลมาแล้วหรือยัง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การหารือยังไม่ออก แต่จะทำให้เร็วที่สุด ยกตัวอย่างง่ายๆ “เค้กมีอยู่ 1 ก้อน แต่มีคนกินเป็นสิบ ขณะนี้มีคนจะกินเค้ก 20-30 คน มันจะพอกินไหม ในเมื่อสปอนเซอร์มีเท่าเดิม วันนี้มันตกไปหมด ไม่ว่าจะเป็น ค่าใช้จ่าย โครงสร้าง ค่าความถี่ ตกหมด ไม่มีคนจ่าย

“อีกหน่อยช่องก็จอดำมืด แล้วจะทำอย่างไร รัฐบาลนี้เข้ามาแก้นะ เเต่ถ้าอันนี้ก็ไม่ได้ อันนั้นก็ไม่ได้ มันจะเเก้ได้ไหม ก็ไม่ได้ เราก็เห็นใจเขา เเต่ต้องยอมรับว่าทุกอย่างมันเป็นไปตามความสมัครของเขาตั้งแต่ต้น เมื่อมีปัญหารัฐบาลต้องหามาตรการมาแก้ให้เหมาะสม ไว้ใจกันหน่อยนะ ไม่เอื้ออะไรใครทั้งนั้น มันจะเสียหายอะไรตรงไหน ต้องดูที่เหตุผลเเละความจำเป็น แล้วแก้ให้ได้”

โดยนายกฯ กล่าวว่า ในวันนี้ได้เรียกประชุม อาทิ ช่องทั้งหมดกว่า 20 ช่อง ประชุม คสช. มีคณะกรรมการฝ่ายกฎหมายเข้าไปดู เเละหามาตรการที่เหมาะสมมา เพื่อแก้ปัญหาให้ตามที่เหมาะสม หาทางออกที่ดีที่สุด แต่สังคมต้องยอมรับด้วยว่ามันควรแก้ไขไหม “ถ้าต้องแก้ต้องช่วยคิด ว่าจะแก้อย่างไร ไม่ให้เสียผลประโยชน์”

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า ได้มีการคัดสรรคณะกรรมการเข้ามาตรวจสอบแล้วหรือยัง นายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังหารือว่ามีวิธีการไหนที่เหมาะสม มันจำเป็นที่จะต้องเดินต่อไป ในระหว่างนี้ยังคัดสรรไม่ได้ เเละไม่รู้ว่าจะคัดสรรแล้วเสร็จเมื่อไหร่ มันจะมีการประมูลอะไรหรือไม่ ใครจะเป็นคนทำ อย่างนั้นต้องมีมาตรา 44 หรือเปล่า ก็ต้องพิจารณาอีกที นอกจากนี้ก็ต้องทำให้คณะกรรมการทำงานต่อได้จนกว่าจะมีการคัดสรรใหม่

“ต้องไปดูกฎหมายต่างๆ ของ กสทช. ดูว่า พ.ร.บ.ต้องแก้อะไรหรือเปล่า เพราะมันเป็นเรื่องของการสรรหา มันมีแต่คำว่า และ และ และ ไม่มีคำว่า หรือ หรือ หรือ ก็ตีความกันไปคนละทางสองทาง ภาษากฎหมายนั้นต้องมาดู ถ้าตั้งเเล้วไม่ครบจะเกิดอะไร ตรงนี้เราไม่ได้อยู่ฝ่ายกฎหมาย แต่เราปรึกษากฎหมายมาเเล้ว”