เจ้าของซิมเกิน 100 เลขหมายขึ้นไป ยืนยันตัวตนใหม่แล้วกว่าล้านราย

สำนักงาน กสทช.เผยยอดลงทะเบียนซิมเกิน 6 เลขหมายแล้วกว่า 1.28 ล้านเลขหมาย คาดยอดลงทะเบียนต่อเนื่องก่อนระงับใช้ซิมขีดเส้นตายผู้ถือครองมากกว่า 100 เบอร์ ให้ลงทะเบียนใหม่ภายใน 14 กุมภาพันธ์ 2567 ก่อนถูกเพิกถอนการใช้งาน

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีและความมั่นคงของรัฐ เปิดเผยว่า หลังจากที่สำนักงาน กสทช. กำหนดให้ผู้ถือครองซิมจำนวนมาก ตั้งแต่ 6 เลขหมายขึ้นไปมายืนยันตัวตน โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 ม.ค. 2567

จากข้อมูลผู้ใช้บริการยืนยันตัวตนที่สรุปจากผู้ประกอบการทุกราย ณ วันที่ 28 มกราคม 2567 มีผู้ที่ถือครองซิมตั้งแต่ 6 เลขหมายขึ้นไปมายืนยันตัวตนแล้วจำนวนทั้งสิ้น 1,285,855 เลขหมาย ซึ่งคาดว่าจะมีผู้มาลงทะเบียนซิมอีกต่อเนื่อง

สำหรับรายละเอียดการยืนยันตัวตน แบ่งเป็นผู้ถือครองตั้งแต่ 6-100 เลขหมาย จำนวน 68,414 เลขหมาย จากจำนวนทั้งหมดที่ต้องมายืนยันตัวตนจำนวน 3,848,375 เลขหมาย โดยกลุ่มดังกล่าวสามารถมายืนยันตัวตนได้ถึงวันที่ 13 กรกฎาคม 2567

ส่วนผู้ที่ถือครอง 100 เลขหมายขึ้นไป มายืนยันตัวตนแล้ว 1,247,441 เลขหมาย จากจำนวนทั้งหมด 7,110,513 เลขหมาย โดยกลุ่มที่ถือครอง 100 เลขหมายขึ้นไปจะต้องมายืนยันตัวตนภายในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 หากไม่มีการยืนยันตัวตนภายในระยะเวลาที่กำหนดจะถูกระงับการใช้งานและถูกเพิกถอนไปในที่สุด

พล.ต.อ.ดร.ณัฐธรกล่าวว่า ปัจจุบันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้เครื่อง GSM Gateways (Simbox) เป็นเครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์แบบใส่ซิมการ์ด ที่สามารถจุซิมได้จำนวนมากทำให้ โทร.ได้จำนวนมาก ซึ่งมาตรการยืนยันตัวตนดังกล่าวจะเป็นการกำจัดเบอร์ที่น่าสงสัย ว่าอาจเป็นมิจฉาชีพออกจากเบอร์ใช้งานปกติ ป้องกันมิจฉาชีพนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรมออนไลน์ ทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ บัญชีม้า และภัยจากออนไลน์ทุกรูปแบบที่ต้องผ่านการใช้ซิมโทรศัพท์จำนวนมาก

ดังนั้น หากผู้ที่เข้าข่ายถือครองซิมจำนวนดังกล่าวไม่มายืนยันตัวตน เบอร์เหล่านี้ก็จะโดนระงับและเคลียร์ออกจากระบบ

“กสทช.และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ได้มีการทำงานร่วมกันเพื่อหาแนวทางป้องกัน รวมทั้งร่วมจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ตลอด แต่เนื่องจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์สรรหาวิธีหลอกลวงใหม่ ๆ มาหลอกลวงประชาชน จึงขอความร่วมมือประชาชนให้ระวังหากมีเบอร์แปลก โทร.มา อย่าโอนเงินโดยไม่ตรวจสอบให้ดี อย่าคุยกับคนไม่รู้จัก และติดตามข้อมูลข่าวสารขององค์กรที่น่าเชื่อถือ เหล่านี้จะเป็นกำแพงป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้” พล.ต.อ.ดร.ณัฐธรกล่าว

นอกจากนี้ ขอฝากประชาชนให้ระมัดระวังการหลอกลวงจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และภัยออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งการแอบอ้างว่าเป็นหน่วยงานรัฐ และองค์กรต่าง ๆ การหลอกให้โอนเงิน การให้ข้อมูลส่วนบุคคล การลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งการกดลิงก์จาก SMS

หากต้องการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องสามารถ โทร.กลับไปยังหน่วยงานที่ถูกแอบอ้างเพื่อสอบถามข้อมูลที่ถูกต้อง หรือสังเกตเบอร์ที่ โทร.เข้ามา หากมี +697 นำหน้าเบอร์ที่ โทร.เข้ามาจะเป็นสายจากต่างประเทศที โทร.ผ่านอินเทอร์เน็ต และหากมี +698 หรือ +66 นำหน้าสายที่ โทร.จะเป็นเบอร์โทรศัพท์ของไทยที่ใช้บริการโรมมิ่ง โทร.กลับมาจากต่างประเทศ

หากไม่มีธุระหรือคนรู้จักอยู่ต่างประเทศ สามารถปฏิเสธการรับสายดังกล่าว รวมทั้งการกด *138 แล้ว โทร.ออก เพื่อบล็อกสายจากต่างประเทศ และ *137 แล้ว โทร.ออก เพื่อปฏิเสธ SMS โฆษณา