เปิดเหตุผล ทำไม Taobao เป็นอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ?

วันที่ 14 เมษายน 2567 - 20:11 น.

“ประชาชาติธุรกิจ” ชวนสำรวจเหตุผลว่าทำไม “Taobao” ในเครือบิ๊กเทคจีน “อาลีบาบา” มีผู้ใช้มากกว่า 892 ล้านคน ขึ้นแท่นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก

วันที่ 14 เมษายน 2567 จากกรณีที่เพจ Taobao Thailand ได้มีการโพสต์ข้อความ ระบุว่า เตรียมพบกับ Taobao Thailand ภาษาไทย 100% เปิดให้ใช้บริการ สั่งสินค้าด้วยตัวเองได้แล้ว ในวันที่ 22 เมษายน 2567 นี้ และสร้างความสงสัยให้กับชาวเน็ตเป็นจำนวนมากว่ามีความเกี่ยวข้องกับ “เถาเป่า” (Taobao) แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ในเครือของบิ๊กเทคสัญชาติจีนอย่าง “อาลีบาบา” (Alibaba) อย่างไร

โดยเพจ Taobao Thailand ได้แถลงการณ์โดยชี้แจงว่า บริษัท เถาเป่า (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Taobao Thailand เป็นแพลตฟอร์ม ที่เชื่อมต่อร้านค้าออนไลน์ใน Taobao Official ของเครืออาลีบาบา โดยได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องในการใช้ฐานข้อมูลหลัก (OpenAPI) โดยตรงของ “Taobao Official” เพื่อแสดงผลข้อมูลของสินค้า บริการ และร้านค้าเพื่อผู้ใช้บริการคนไทย ในประเทศไทย และให้บริการผู้ใช้บริการ (เฉพาะที่อยู่การจัดส่งปลายทางในไทย) ได้ทำธุรกรรมซื้อขายในรูปแบบออนไลน์ ภาษาไทย

และบริษัทได้พัฒนาเว็บไซต์ Taobao.co.th ให้เป็นภาษาไทยเพื่อแก้ไขปัญหาให้ผู้ใช้ชาวไทย ให้ใช้งานง่ายสั่งซื้อด้วยตัวเอง และยังเพิ่มบริการเสริม ดังนี้

1.เพิ่มฟังก์ชั่นการตรวจสอบสินค้าก่อนการจัดส่งระหว่างประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้บริการได้รับสินค้าที่ไม่ตรงกับคำอธิบายสินค้า (สามารถคืนสินค้าได้)

2.ดูแลคำสั่งซื้อ ไม่ให้เกิดการสูญหายของสินค้าระหว่างการขนส่ง เป็นต้น บริษัทคำนึงถึงความรวดเร็วในการจัดส่งสินค้า จึงจับมือเป็นพันธมิตรกับบริษัทขนส่งระหว่างประเทศ (shipping) มากกว่า 3 บริษัท

จากแถลงการณ์บนเพจ Taobao Thailand เท่ากับว่า บริษัท เถาเป่า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเว็บภาษาไทยเพื่อให้บริการดูแลคำสั่งซื้อ ตรวจสอบสินค้า และประสานการจัดส่งสินค้าบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในจีน ถือเป็นคนละส่วนกันกับ Taobao Official

และจากการตรวจสอบในฐานข้อมูลของ Creden Data ที่มีการรวบรวม ข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทย พบว่า บริษัท เถาเป่า (ประเทศไทย) จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2565 ด้วยทุนจดทะเบียน 2,000,000 บาท ในหมวดธุรกิจการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า

โดยมีวัตถุประสงค์เป็นตัวแทนผู้รับจัดการขนส่งสินค้าและตัวแทนออกของ (ตัวแทนดำเนินพิธีการศุลกากร)

ทั้งนี้ ผู้ที่เป็นกรรมการและผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท เถาเป่า (ประเทศไทย) จำกัด มีตำแหน่งเป็นกรรมการอีก 2 บริษัท หนึ่งในนั้นคือ บริษัท วีอาร์ ไชน่า เอ็กซ์เพรส จำกัด ประกอบกิจการให้บริการขนส่ง

อย่างไรก็ตาม การที่ชาวเน็ตจำนวนมากให้ความสนใจกับการเปิดตัวของเพจ Taobao Thailand น่าจะสะท้อนถึงความนิยมของแพลตฟอร์ม “Taobao” ในหมู่คนไทยได้เป็นอย่างดี

แล้ว “Taobao” มีจุดเด่นที่แตกต่างจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอื่น ๆ อย่างไร ? “ประชาชาติธุรกิจ” รวบรวมข้อมูลมาสรุปไว้ดังนี้

จากข้อมูลของหนังสือ “It’s Live Time รวยด้วย Live Commerce ทะลุล้าน” เขียนโดย “กุลธิรัตน์ ภควัชร์ไกรเลิศ” นายกสมาคมอีคอมเมิร์ซแห่งประเทศไทย ระบุว่า Taobao คือแพลตฟอร์มซื้อของออนไลน์ C2C ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยจำนวนผู้ใช้งานมากกว่า 892 ล้านคน มีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นคนรุ่นใหม่อายุไม่เกิน 30 ปี ซึ่งมีสัดส่วนมากกว่า 70% ของผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม

ร้านค้าส่วนใหญ่เป็นร้านค้าท้องถิ่น ขนาดเล็กถึงกลาง จนถึงร้านขายของมือสอง เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการลองตลาดในประเทศจีน และต้องการเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์

นอกจากนี้ รายงานจาก Alibaba Group ระบุด้วยว่า Taobao เปิดตัวในปี 2546 เพื่อให้บริการผู้บริโภคชาวจีนในพื้นที่เมืองใหญ่และเมืองเล็ก พร้อมทั้งพัฒนาประสบการณ์การช็อปปิงให้เข้ากับแต่ละบุคคลด้วยดาต้าและเทคโนโลยี ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลของผลิตภัณฑ์และเทรนด์ใหม่ ๆ ได้แบบเรียลไทม์ รวมถึงมีฟีเจอร์ไลฟ์และการสร้างวิดีโอสั้นที่ช่วยให้ผู้ขายสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยผู้ขายส่วนใหญ่บน Taobao จะเป็นกลุ่มบุคคลธรรมดาและธุรกิจขนาดเล็ก (SMEs)

จุดเด่นที่สำคัญของ Taobao คือผู้ขายสามารถนำสินค้ามาเปิดร้านขายบนเว็บไซต์ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการเปิดร้านค้าออนไลน์ ทำให้สินค้ามีราคาถูกมาก เพราะนอกจากจะลดต้นทุนค่าเปิดร้านยังเป็นการซื้อโดยตรงจากผู้ผลิต และเจ้าของโรงงาน ช่วยให้เข้าถึงสินค้า SMEs และร้านค้าปลีกทั่วไปได้สะดวกขึ้น รวมถึงมีรายการสินค้าบนแพลตฟอร์มมากกว่า 2 ล้านรายการ ครอบคลุมสินค้าทุกหมวดหมู่ เช่น สินค้าออริจินัล สินค้าจากแบรนด์ชั้นนำ พืชผลทางการเกษตร เป็นต้น

ปัจจุบัน Taobao ไม่ได้เป็นเพียงแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสำหรับสั่งซื้อสินค้าเท่านั้น แต่ยังเป็น “One-Stop Super App” ที่ครอบคลุมบริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน เช่น ซื้อสินค้า สั่งอาหาร จองตั๋วเครื่องบิน เป็นแพลตฟอร์มความบันเทิง และพื้นที่สำหรับพูดคุยกับ KOL คนโปรด

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” ได้สำรวจราคาสินค้าที่จำหน่ายบน Taobao พบว่า สินค้าส่วนใหญ่อยู่ในเรทราคาที่จับต้องได้ เช่น เสื้อยืดของ IODLI Vintage ราคา 59 หยวน (298 บาท), พัดลมหน้ากว้าง 33 เซนติเมตร ราคา 45 หยวน (227 บาท) และหม้อต้มซุปราคา 79 หยวน (399 บาท) เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม การที่สินค้าบน Taobao มีราคาถูกมาก ย่อมทำให้ผู้บริโภคชาวไทยบางส่วนตัดสินใจซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มเพื่อใช้ส่วนตัวและจำหน่ายให้ผู้บริโภครายอื่น ๆ แต่ความยากของการซื้อสินค้าบน Taobao คือหน้าเว็บไซต์มีแต่รายละเอียดภาษาจีน

ด้วยข้อจำกัดทางภาษา ทำให้มีการแต่งตั้ง B2B Reseller หรือพาร์ตเนอร์ในไทยประมาณ 3-4 ราย ไปจนถึงการมาของธุรกิจ “ชิปปิ้ง” หรือตัวแทนนำเข้าสินค้าจากจีน ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ เช่น ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้านค้า และให้คำแนะนำในการนำเข้าสินค้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย