
Amity Solutions ปิดดีลระดมทุน ซีรีส์ ซี 2.2 พันล้านบาท เสริมแกร่งการวิจัย AI เดินหน้าสู่ธุรกิจ GenAI ระดับภูมิภาคและระดับโลก พร้อมตั้งเป้าเป็น “AI Champion” เติมเต็มอีโคซิสเต็มดิจิทัลของไทย
วันที่ 17 กรกฎาคม 2567 รายงานข่าวจากอะมิตี้ โซลูชั่นส์ (Amity Solutions หรือ ASOL) ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์สร้างสรรค์ (GenAI) เปิดเผยว่า “Amity Solutions” พร้อมด้วย “อะมิตี้ คอร์ปอเรชั่น” (Amity Corporation) บริษัทแม่ ประสบความสำเร็จในการระดมทุนรอบซีรีส์ ซี (Series C) ปิดดีลที่ 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.2 พันล้านบาท) เพื่อก้าวสู่การเป็นหนึ่งในธุรกิจ GenAI ระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาประเทศไทยให้เป็น “ฮับการพัฒนา GenAI”
โดยการระดมทุนรอบนี้แบ่งออกเป็น
- Amity Solutions ระดมทุนได้ 41.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.52 พันล้านบาท) นำโดย Insight Capital พร้อมด้วยนักลงทุนใหม่ และนักลงทุนเดิมอีกหลายราย
- Amity Corporation ระดมทุนได้ 18.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 681.41 ล้านบาท) นำโดย SMDV ซึ่งเป็นนักลงทุนเดิม พร้อมด้วย Gobi Partners และนักลงทุนเดิมอีกหลายราย
- การระดมทุนนี้รวมถึงการกู้ยืม ซึ่งนำและจัดโครงสร้างโดย AlteriQ Global บริษัทให้สินเชื่อเอกชน (Private Credit) ที่เน้นการดำเนินการในทวีปเอเชีย
รายงานระบุว่า การลงทุนครั้งนี้จะเป็นเงินทุนที่ช่วยสนับสนุน Amity Solutions ด้านปฏิบัติการวิจัย AI หรือ “เอไอ แล็บส์” (AI Labs) ซึ่งตั้งอยู่ในไทย โดยมุ่งสร้างและพัฒนาแอปพลิเคชั่นที่ขับเคลื่อนด้วย GenAI อีกทั้งเงินทุนดังกล่าวยังจะช่วยสนับสนุนความพยายามของบริษัทในการแข่งขันกับผู้เล่นในระดับภูมิภาคและระดับโลก รวมถึงการเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศที่สามารถเสริมประโยชน์ให้กันและกัน
โดยตั้งแต่ต้นปี 2566 AI Labs ของ Amity Solutions สามารถให้บริการลูกค้าในหลากหลายด้าน เช่น อะมิตี้ บอตส์ พลัส (Amity Bots Plus) แพลตฟอร์มสำหรับองค์กรที่มีแชตบอตเลียนแบบการสนทนาของมนุษย์ผ่านการเรียนรู้ของ GenAI ส่งผลให้การให้บริการลูกค้าและผลกำไรดีขึ้นภายในเวลา 1 ปีหลังจากเปิดตัว ไม่เพียงแต่มีการเติบโตของรายได้ประจำปี (Annual Recurring Revenue หรือ ARR) เพิ่มขึ้น 8 เท่า แต่ยังคิดเป็น 27% ของ ARR ในกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้ด้วย
ตัวอย่างขององค์กรในประเทศไทยที่ใช้โซลูชั่น GenAI ของ Amity Solutions เช่น ทรู คอร์ปอเรชั่น (True Corporation) ปตท. (PTT) นกแอร์ (Nok Air) และเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group) เป็นต้น
นายกรวัฒน์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง Amity Solutions กล่าวว่า การระดมทุนรอบนี้ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของ Amity Solutions รวมถึงอีโคซิสเต็ม AI ของประเทศไทย หวังว่าเราจะสามารถช่วยให้ประเทศไทยกลายเป็นฮับนวัตกรรม GenAI ระดับโลกได้
“วิสัยทัศน์ของเรา คือการใช้ประโยชน์จากความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยเพื่อแก้ปัญหาที่ซับซ้อนในระดับโลกด้วยเทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัย”
ด้านนายเคง เถ็ก ก๋วย (Keng Teik Koay) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท Amity Solutions กล่าวเสริมว่า ความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมอบให้เรา สะท้อนถึงศักยภาพอันมหาศาลของ GenAI การลงทุนครั้งนี้จะช่วยให้เราสามารถดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถสูง และใช้กลยุทธ์ในการเข้าซื้อสินทรัพย์ ซึ่งจะช่วยให้เราก้าวสู่การเป็น AI Champion ของประเทศไทยได้
“เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะเข้ามาช่วยเร่งการวิจัยและพัฒนาด้าน AI ตลอดจนการขยายโซลูชั่น AI เพื่อให้บริการธุรกิจในประเทศไทยรวมถึงที่อื่น ๆ มากขึ้น”
ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า Amity Solutions เป็นกลุ่มบริษัทซอฟต์แวร์ที่ก่อตั้งเมื่อปี 2555 มีผลิตภัณฑ์ที่ให้บริการในองค์กรต่าง ๆ มากมาย เช่น อะมิตี้ บอตส์ (Amity Bots) แพลตฟอร์มแชตบอตสำหรับองค์กรอะมิตี้ วอยซ์ (Amity Voice) แพลตฟอร์มวอยซ์บอต และเอโค่ (Eko) แพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันสำหรับพนักงานแบบ Nondesk เป็นต้น
จนกระทั่งปี 2566 Amity Solutions ได้แยกออกมาจากบริษัทแม่ Amity Corporation เพื่อเตรียมแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยภายในปี 2567 และปรับโฟกัสไปที่การพัฒนาแอปพลิเคชั่นและโซลูชั่น GenAI นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ SaaS ที่มีอยู่เดิม
ก่อนหน้านี้ นายกรวัฒน์เคยให้สัมภาษณ์เมื่อเดือน มี.ค. 2566 ว่า ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท Amity ระดมทุนมาแล้วมากกว่า 1 พันล้านบาท มีพนักงานกว่า 250 คน จากกว่า 30 ชาติ เทียบกับจุดเริ่มต้นเมื่อ 8-9 ปีที่ก่อน นับได้ว่าธุรกิจเติบโตขึ้นมากแล้ว