นายกฯ อบจ.ภูเก็ต ร่อนหนังสือถึงประยุทธ์ ดึงงบกลาง เยียวยาเหยื่อน้ำท่วม

ดินโคลนถล่มภูเก็ต

นายกฯ อบจ.ภูเก็ต ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงประยุทธ์ ดึง “งบกลาง” กรณีพิเศษเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม ดินโคลนถล่มภูเก็ต แจงงบท้องถิ่นไม่เพียงพอ

วันที่ 21 ตุลาคม 2565 นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 17 ตุลาคม 2565 เรื่อง การช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย วาตภัยและดินโคลนถล่มในจังหวัดภูเก็ต

สืบเนื่องจากตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2565 จนถึงปัจจุบันได้เกิดสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ทำให้พื้นที่เกษตรกรรมได้รับความเสียหายครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง มีผลกระทบต่อพืชผล การเกษตรรุนแรงอย่างมาก ส่งผลให้สิ่งปลูกสร้าง บ้านเรือน ที่อาศัยอยู่ประจำได้รับผลกระทบในพื้นที่ทั้ง 3 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเมือง อำเภอกะทู้ และอำเภอถลาง 16 ตำบล 80 ชุมชน หมู่บ้านประมาณ 6,080 คน 1,850 ครัวเรือน

ถนนได้รับความเสียหาย จำนวน 5 สาย สะพานได้รับความเสียหาย จำนวน 3 แห่ง ระบบไฟฟ้าและประปาได้รับผลกระทบจากการสไลด์ของดิน

แยกเป็นอำเภอถลาง ได้รับผลกระทบ 6 ตำบล 29 ชุมชน/หมู่บ้าน 950 ครัวเรือน ประมาณ 2,800 คน, อำเภอกะทู้ ได้รับผลกระทบ 3 ตำบล 11 ชุมชน/หมู่บ้าน 100 ครัวเรือน ประมาณ 280 คน และอำเภอเมืองภูเก็ต ได้รับผลกระทบ 7 ตำบล 40 ชุมชน/หมู่บ้าน 800 ครัวเรือน ประมาณ 3,000 คน

ถึงแม้ว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จะพิจารณาตั้งงบประมาณรายจ่าย งบกลาง ประเภทเงินสำรองจ่าย ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยและใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉินเพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบสาธารณภัยเป็นลำดับแรกไปแล้วนั้น ก็ยังไม่เพียงพอต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น

ซึ่งหากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นขออนุมัติจ่ายขาดเงินสะสมช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนก็ยังมีข้อจำกัดของฐานะทางการเงินการคลังของแต่ละแห่ง ซึ่งคาดว่าไม่เพียงพอต่อการช่วยเหลือ

จึงมีข้อเสนอขอให้พิจารณาอนุมัติงบประมาณปี 2565 เป็นกรณีพิเศษจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยใช้หลักเกณฑ์ วิธีการ ตามเห็นสมควร ครอบคลุมการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัยและตินโคลนถล่มในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตทุกมิติอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมอบหมายส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาทุกมิติ

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาและโปรดนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย วาตภัยและดินโคลนถล่มในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตต่อไป