หยุดเดินรถไฟปาดังเซาร์ หาดใหญ่ ทุกขบวน หลังเหตุระเบิดซ้ำ ระดมเจ้าหน้าที่สแกนหาวัตถุต้องสงสัยละเอียดจนกว่าจะมั่นใจว่าปลอดภัยสูงสุด เผยระบุระเบิดลูกสองพบบรรจุในถังแก๊สปิคนิค ขนาด 4 กก.
วันที่ 7 ธันวาคม 2565 กรณีคนร้ายลอบวางระเบิดรางรถไฟ ระหว่างสถานีคลองแงะ-ปาดังเบซาร์ พื้นที่ ต.ท่าโพธิ์ อ.สะเดา จ.สงขลา 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2565 และเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ทำให้เจ้าหน้าที่รถไฟที่เข้าไปกู้ขบวนสินค้าและซ่อมแซมรางเสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 4 รายนั้น
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
วันนี้ (7 ธ.ค. 65) เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี) ได้ลงพื้นที่ต่อเนื่องและสแกนตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุอย่างละเอียด โดยขยายพื้นที่ตรวจเส้นทางรถไฟออกไปจากจุดเกิดเหตุอีกประมาณ 1 กม. ตามคำร้องของเจ้าหน้าที่รถไฟ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีระเบิดหลงเหลืออยู่
นอกจากนี้มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธร จ.สงขลา (นปพ.) ร่วมกันลงพื้นที่ปูพรมตรวจเส้นทางรถไฟ ตั้งแต่สถานีรถไฟคลองแงะ อ.สะเดา จนถึงจุดที่เกิดระเบิดระยะทางประมาณ 3 กม.
และยังคงร่วมกับตำรวจในพื้นที่รวมทั้งฝ่ายปกครอง เข้าไปควบคุมพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมงต่อเนื่องไปจนกว่าการตรวจสอบพื้นที่และการซ่อมแซมรางรถไฟจะแล้วเสร็จ และกลับมาเดินรถตามปกติ
ทั้งนี้ผลพวงของการระเบิดซ้ำครั้งที่ 2 ทำให้แผนการเข้าไปกู้ขบวนรถไฟที่ตกรางและการซ่อมแซมรางต้องล่าช้าออกไปอีกอย่างน้อย 2 วัน เนื่องจากทางหน่วยซ่อมบำรุงทางและหน่วยยกรถของการรถไฟ ยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย
ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเคลียร์พื้นที่อย่างละเอียดจนมั่นใจว่าปลอดภัยสูงสุด ถึงจะเริ่มเข้าไปกู้ขบวนรถและซ่อมแซมรางได้ และขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่รถไฟได้ถอนกำลังออกจากพื้นที่ชั่วคราว เพื่อรอการส่งมอบพื้นที่จากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง
ในส่วนของระเบิดลูกสองเกิดขึ้นห่างจากหลุมระเบิดลูกแรกประมาณ 200 เมตร และอยู่ห่างจากทางข้ามทางไฟ 300 เมตร
โดยพบวัตถุพยานทั้งชิ้นส่วนถังแก๊สปิคนิค ขนาด 4 กก. แบตเตอรี่ ขนาด 1.5 โวลต์ สีแดง ชิ้นส่วนสายไฟสีขาว ชิ้นส่วนปลั๊กตัวผู้และปลั๊กตัวเมีย ชิ้นส่วนเหล็กเส้นตัดคละขนาด 8 มิลลิเมตร ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 ได้เก็บไปตรวจสอบแล้ว
ส่วนการเดินรถเส้นทางชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ยังคงต้องงดการเดินรถทุกขบวน รวมทั้งรถไฟท่องเที่ยวขบวนพิเศษของ KTM มาเลเซีย ระหว่างประเทศจากสถานีรถไฟกรุงกัวลาลัมเปอร์-หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ด้วย
นายณรงค์ฤทธิ์ การิกาญจน์ นายสถานีรถไฟหาดใหญ่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดเผยว่า ตามแผนเดิมรถไฟมาลายา (Keretapi Tanah Melayu หรือ KTM) จะจัดรถไฟขบวนพิเศษวิ่งตรงจากสถานีรถไฟ KL Sentral สถานีหลักกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย มาสิ้นสุดปลายทางที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ เทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ในเดือนธันวาคม 2565 มี อีก 3 ขบวน ระหว่างวันที่ 10 ธ.ค. 24 ธ.ค. และ 31 ธ.ค. 2565 จำนวน 12 ตู้ เพื่อนำชาวมาเลเซียเข้ามาท่องเที่ยว
สำหรับที่ผ่านมารถไฟขบวนพิเศษมาเลเซีย มีผู้ใช้บริการประมาณ 400 กว่าคน รวมทั้งพนักงานรถไฟ โดยออกเดินทางจากสถานีรถไฟ KL Sentral กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาถึงสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ ระยะเดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาถึงปลายทางที่สถานีชุมทางรถไฟหาดใหญ่ ประมาณ 12-13 ชั่วโมง
แต่เหตุระเบิดรางรถไฟที่เกิดขึ้นทำให้ต้องงดการเดินเที่ยวแรกในวันที่ 10 ธันวาคม 2565 โดยจะเปลี่ยนแผนให้นักท่องเที่ยวมาเลเซียเดินทางด้วยรถไฟ 12 ตู้จากกัวลาลัมเปอร์มาสิ้นสุดที่สถานีปาดังเบซาร์ รัฐเปอร์ลิส มาเลเซีย มาถึงจุดปลายทางที่สถานีปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา จากนั้นจะขนถ่ายผู้โดยสารลงรถบัสเดินทางมายัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทั้งขาเข้าและขาออกแทน
- การรถไฟ พร้อมเยียวยาเจ้าหน้าที่ เหตุระเบิดระหว่างเก็บกู้ขบวนรถไฟ
- รถไฟคว่ำเกือบทั้งขบวน ตู้สินค้า-รางเสียหายหนัก เร่งหาสาเหตุ
- ชี้เหตุบึ้มมุ่งป่วน ศก.ภาคใต้ แม่ทัพภาค 4 สั่งตรึงเข้ม สนามบิน-สถานีรถไฟ-ที่ท่องเที่ยว
- ส.โรงแรมรับบอมบ์รางรถไฟกระทบท่องเที่ยว มาเลย์จัดรถไฟเที่ยวพิเศษมา ธ.ค.นี้
- ระเบิดรางรถไฟหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ซ้ำจุดเดิม เสียชีวิต 3 คน เจ็บ 4 คน