การรถไฟ พร้อมเยียวยาเจ้าหน้าที่ เหตุระเบิดระหว่างเก็บกู้ขบวนรถไฟ

การรถไฟ ระเบิด เก็บกู้รถไฟ
ภาพจาก Facebook ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย

การรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมเยียวยาเจ้าหน้าที่ผู้บาดเจ็บ-ครอบครัวผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์ระเบิดระหว่างเก็บกู้ขบวนรถไฟที่เกิดเหตุเมื่อ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา

วันที่ 6 ธันวาคม 2565 จากกรณีเหตุลอบวางระเบิดรางรถไฟระหว่างสถานีคลองแงะ-ปาดังเบซาร์ บริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุเมื่อ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา และทำให้มีเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น

การรถไฟแห่งประเทศไทย ระบุว่า การรถไฟฯ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และพร้อมดูแลเยียวยาเจ้าหน้าที่และครอบครัวเจ้าหน้าที่ผู้เสียชีวิต จากเหตุระเบิดขณะกำลังเก็บกู้รถพ่วงตกราง ระหว่างสถานีคลองแงะ-ปาดังเบซาร์

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2565 เวลาประมาณ 06.24 น. การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้รับรายงานเกิดเหตุระเบิดบริเวณ สทล.ที่ 955/4-8 ระหว่างสถานีคลองแงะ-ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ขณะเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ 7 ราย กำลังเข้าปฏิบัติงานเก็บกู้ขบวนรถสินค้าคอนเทนเนอร์บรรทุกยางพารา ที่ 707 (หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์) ตกรางเมื่อวันก่อน

เบื้องต้นได้รับรายงานมีเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 4 ราย ซึ่งได้ส่งตัวเข้าพักรักษาที่โรงพยาบาลสะเดาแล้ว ประกอบด้วย นายนพดล ปานมา หัวหน้าช่างแขวงสารวัตรรถจักรทุ่งสง นายดีเด่น คงสม หัวหน้าช่างแขวงสารวัตรรถจักรหาดใหญ่ นายฉัตรชัย นิตรจรานนท์ ลูกจ้างแขวงรถจักรหาดใหญ่ และนายธีรพงศ์ หนูคง ลูกจ้างแขวงรถจักรหาดใหญ่

และมีผู้เสียชีวิต 3 ราย ซึ่งทราบชื่อเบื้องต้นคือ นายภูมิพันธ์ เพชรสุก ผู้ช่วยสารวัตรแขวงรถจักรหาดใหญ่ นายยิ่งศักดิ์ ชุมตรี ลูกจ้างแขวงรถจักรหาดใหญ่ และนายนวฤทธิ์ สุวรรณชาตรี ลูกจ้างแขวงรถจักรหาดใหญ่ โดยขณะนี้ฝ่ายความมั่นคงอยู่ระหว่างการตรวจค้นเพิ่มเติมซึ่งได้มีการกันพื้นที่ห้ามไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าในพื้นที่เกิดเหตุอย่างเด็ดขาด

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การรถไฟฯ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อพนักงานรวมถึงครอบครัวผู้ปฏิบัติหน้าที่ในเหตุครั้งนี้ โดยการรถไฟฯ พร้อมให้ความช่วยเหลือ เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างเต็มกำลังตามระเบียบของการรถไฟฯ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

ซึ่งในเบื้องต้นตนได้มอบเงินช่วยเหลือเป็นการส่วนตัวให้แก่เจ้าหน้าที่และครอบครัวผู้ปฏิบัติหน้าที่ พร้อมทั้งสั่งการให้กองพนักงานสัมพันธ์และสวัสดิการ ฝ่ายทรัพยากรบุคคล และฝ่ายการช่างโยธา ติดต่อให้ความช่วยเหลือกับครอบครัวเป็นการเร่งด่วน

นอกจากนี้ การรถไฟฯ ได้ประสานขอความร่วมมือกับหน่วยงานฝ่ายความมั่นคง ในการเข้าเร่งตรวจสอบพื้นที่เพื่อหาสาเหตุจากการเกิดเหตุครั้งนี้ ตลอดจนเพิ่มความเข้มงวดการดูแลรักษาความปลอดภัยต่อพนักงานผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ตลอดจนประชาชนผู้โดยสารที่เข้ามาใช้บริการเพื่อให้เกิดความปลอดภัยและความเชื่อมั่นสูงสุดในการเดินทาง