เชียงรายจับจริง ! พบคนเผาป่า เตรียมดำเนินคดี 15 คดี

ไฟไหม้เชียงราย
รูปภาพสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

เชียงรายจับจริง ! พบคนเผาป่าเตรียมดำเนินคดี 15 คดี ระบุทั้งหมดเกิดขึ้นในผืนป่าอนุรักษ์จำนวน 9 คดี ป่าสงวนแห่งชาติจำนวน 6 คดี

วันที่ 30 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เกิดเหตุไฟป่าในหลายพื้นที่ของ จ.เชียงราย และทำให้เกิดปริมาณฝุ่นละอองและหมอกควันมากติดต่อกันหลายวัน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เร่งป้องกัน และปราบปรามผู้กระทำความผิด “ห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิดโดยเด็ดขาดช่วง 60 วัน ปลอดการเผา” นั้น

ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้เชียงของ และหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชร.4 (หาดไคร้) ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบพบมีจุดความร้อนบริเวณป่าทิศเหนือของบ้านกิ่วกาญจน์ หมู่ที่ 6 ตำบลริมโขง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย จึงได้ร่วมกันไปตรวจสอบ ปรากฏว่าได้พบกลุ่มคนจำนวน 3 คน คือ นางสาวปาริตา นางหมี่เคอะ และนายวุฒิไกร ทั้งหมดกำลังใช้มีดตัดต้นไม้และแผ้วถางป่าบริเวณดังกล่าว

เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบพบว่ามีการตัดต้นไม้เป็นบริเวณกว้าง ขณะที่พื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่น้ำโขงฝั่งขวา และเป็นแปลงเป้าหมายปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ (FPT) รวมถึงเป็นพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

จึงได้ตั้งข้อหาทั้ง 3 คนว่ากระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 54 ฐาน “บุกรุก แผ้วถาง ครอบครอง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่า” ประกอบมาตรา 55 และ 72 ตรี และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 ฐาน “ยึดถือครอบครอง แผ้วถาง เผาป่า” ประกอบมาตรา 31 จากนั้นได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงของ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวนหลายจุดจนพบผู้ต้องสงสัยพร้อมอาวุธปืน ไฟแช็ก และยานพาหนะ จับ ปรับ และดำเนินคดีไปแล้วหลายราย จำนวนคดีเกี่ยวกับการเผา ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย จำนวนทั้งสิ้น 15 คดี

โดยเป็นคดีที่จับกุมผู้กระทำผิดได้ 5 คดี เกิดขึ้นในท้องที่ อ.แม่สรวย 2 คดี, อ.เมืองเชียงราย อ.แม่ลาว และ อ.พาน อำเภอละ 1 คดี และมีคดีร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน แต่ยังจับตัวไม่ได้ 10 คดี ทั้งหมดเกิดขึ้นในผืนป่าอนุรักษ์จำนวน 9 คดี ป่าสงวนแห่งชาติจำนวน 6 คดี

ซึ่งก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ทหารมณฑลทหารบกที่ 37 สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 โดยหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ยาว สำนักจัดการป่าไม้ที่ 2 องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันลาดตระเวนเพื่อดับไฟป่า และพบชาย 1 คน ทราบชื่อต่อมาว่านายจันทัน (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี ชาว ต.แม่ยาว ลักษณะมีพิรุธ โดยขับขี่รถจักรยานยนต์วนเวียนอยู่เปลวไฟที่กำลังลุกไหม้พงหญ้า และป่าละเมาะที่แห้ง ทำให้เกิดการลุกลามไปอย่างรวดเร็วเต็มขุนเขา