“เชียงราย” เปิดท่าเรือท่องเที่ยว แห่งแรกภาคเหนือ

แฟ้มภาพ

นิวเชียงแสนกรุ๊ปเปิดท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ 1 เป็นท่าเรือท่องเที่ยว ทุ่ม 35-40 ล้าน ปรับปรุงภูมิทัศน์ ตั้งเป้าปี2561 นักท่องเที่ยวจีนทะลัก 2 หมื่นคน เตรียมจับมือเมืองต้นผึ้ง สปป.ลาว-ท่าขี้เหล็ก เมียนมา เชื่อมโยงท่องเที่ยว หวังอนาคตเป็นท่าเรือนานาชาติ-จำหน่ายสินค้าปลอดภาษี

นายภาสกร บุญญลักษม์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ปี 2554 กรมเจ้าท่าได้ก่อสร้างท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ 1 ขึ้น เป็นท่าเรือพาณิชย์ ซึ่งในปี 2556 มอบหมายให้หน่วยงานในพื้นที่เป็นผู้ดำเนินการ แต่ยังไม่ชัดเจน และปี 2560 คณะรัฐมนตรีมีมติให้เทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน จ.เชียงราย เป็นผู้ดูแล และเทศบาลได้ตั้งคณะกรรมการบริหารขึ้นมา โดยให้บริษัท นิว เชียงแสน กรุ๊ป จำกัด เข้ามาเป็นผู้ดำเนินการบริหารท่าเรือ ขณะที่จังหวัดมีนโยบายให้ความสำคัญด้านการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ เนื่องจากเชียงรายมีภูมิประเทศเหมาะกับการท่องเที่ยว รวมถึงมีพื้นที่ติดกับ สปป.ลาว 155 กม. และเมียนมา 153 กม.

ปัจจุบัน จ.เชียงราย นอกจากการจราจรทางบก ทางอากาศที่มีเที่ยวบินมากกว่า 50-60 เที่ยวบิน/วันแล้ว ล่าสุดมีทางเรือ คือ ท่าเรือเทศบาลเวียงเชียงแสน (ท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ 1) อ.เชียงแสน ที่จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว จ.เชียงราย และกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบนได้อย่างดี ในอนาคตอาจจะยกระดับเป็นท่าเรือนานาชาติ และมีการจำหน่ายสินค้าปลอดภาษี ขณะนี้ คณะกรรมการบริหารท่าเรือกำลังเสนอแผนให้กรมธนารักษ์ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้เห็นชอบแผน จากนั้นจะหาแหล่งเงินทุน เพื่อพัฒนาพื้นที่ท่าเรือและพื้นที่รอบข้างให้เป็นแลนด์มาร์กของ อ.เชียงแสน ต่อไป

นายคงเก่ง ประชากริช ประธานบริหาร บริษัท นิว เชียงแสน กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันได้ดัดแปลงท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ 1 เป็นท่าเรือท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในละแวกสามเหลี่ยมทองคำ และต่อไปจะขยายเป็นสี่เหลี่ยมทองคำ รวมถึงประเทศจีน ซึ่งท่าเรือแห่งนี้เป็นท่าเรือท่องเที่ยวแห่งแรกของภาคเหนือ โดยทุ่มงบฯ 35-40 ล้านบาท ในการปรับปรุงภูมิทัศน์ ดำเนินการร้านอาหารท่าเรือ จัดตั้งศูนย์โอท็อปให้กับประชาชนในพื้นที่ และทำโป๊ะเรือสำหรับเรือขนาดเล็กวิ่งข้ามฝั่ง ปัจจุบันเรือที่เข้ามาจะมีการเก็บค่าระวางจอดเรือ 900 บาท โดยไม่จำกัดเวลา ส่วนใหญ่เป็นเรือขนาดใหญ่ จอดเพียง 2-3 วันเท่านั้น

ขณะนี้ได้มีการประสานกับเมืองต้นผึ้ง สปป.ลาว และท่าขี้เหล็ก เมียนมา เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวสามประเทศ เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ขณะที่อนาคตจะประชาสัมพันธ์ให้มีคนไทยล่องเรือไปเที่ยว โดยจะสิ้นสุดจะที่ท่าเรือกวนเหล่ยและจิ่งหง ประเทศจีน ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 ชั่วโมง หรือจะเป็นการท่องเที่ยวระยะสั้น เช่น สปป.ลาว เมียนมาตั้งเป้าว่าภายในปี 2561 จะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาถึง 20,000 คน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งข้อมูลของ ททท.ระบุว่าที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาโดยทางเรือเพียง 2,000 คนต่อปี โดยในช่วงที่ 2 เดือนที่มีการเปิดท่าเรือแห่งนี้ มีนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วกว่า 2,000 คน ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนยูนนาน ที่ซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยวจากเอเย่นต์ชาวไทยทั้งในพื้นที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ และขากลับเดินทางกลับโดยรถยนต์ผ่านอาร์สามเอ

รายงานเพิ่มเติมว่า ท่าเรือเทศบาลเวียงเชียงแสน เป็นท่าเรือท่องเที่ยวแห่งแรกของภาคเหนือ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง อยู่ในเขตพื้นที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เนื้อที่ประมาณ 9 ไร่ ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่ สปป.ลาว