
“เชียงใหม่” รุก 8 มาตรการรับมือฝุ่น PM 2.5 เล็งคุยเมียนมา-ลาว แก้ฝุ่นควันข้ามแดน
วันที่ 12 มีนาคม 2567 นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า มาตรการรับมือฝุ่นควันที่จังหวัดเชียงใหม่ได้ดำเนินการไปแล้วมีทั้งสิ้น 8 มาตรการ ได้แก่
- ควบคุมการเผาในพื้นที่เกษตรได้กว่า 2 แสนไร่
- ปิดป่าอนุรักษ์ 19 ป่า ป้องกันการเข้าไปจุดไฟ
- หางานให้คนหาของป่า ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน
- ตั้งรางวัลนำจับ การแจ้งหรือการนำจับคนที่เผาป่าคดีละ 10,000 บาท โดยเมื่อพนักงานสอบสวนรับดำเนินคดี ถ้ามีตัวผู้กระทำผิดมาก็จะจ่ายทันที
- ลมตะวันตกที่พัดพาฝุ่นประเทศเพื่อนบ้านเข้ามา ได้ใช้มาตรการลดการเผา งดการบริหารจัดการเผาในพื้นที่เชียงใหม่
- เพิ่มปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อระบายฝุ่นขึ้นบนชั้นบรรยากาศทุกวัน
- ควบคุมการเผาในเขตชุมชน 100% ทุกเขตเทศบาล
- ห้ามการเผาในเขตริมทาง 100%
สำหรับสถานการณ์ไฟป่าและ PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พบว่าขณะนี้มีลมจากตะวันตกพัดพาฝุ่นจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามา ทำให้ 5 อำเภอที่ติดแนวชายแดนคือ อำเภอแม่อาย ฝาง เชียงดาว ไชยปราการ และเวียงแหง มีค่าฝุ่นสูงทุกวัน โดยจะเบาบางลงในช่วงบ่าย ซึ่งอยู่ในสภาวะนี้มาประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว
ขณะที่การเผาก็ยังสามารถควบคุมได้ และได้สั่งงดเว้นการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่ป่าทั้งหมดในห้วงนี้ รวมถึงปิดป่าอนุรักษ์ไปแล้ว 19 ป่า ส่วนการลักลอบเผาได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่โดยเร็วและดับให้ได้ภายใน 1 วัน
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างวันที่ 14-16 มีนาคม 2567 จะต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นอีกครั้ง เนื่องจากลมจะค่อนข้างนิ่ง อัตราการระบายอากาศค่อนข้างต่ำ และจะมีลมพัดมาจากภาคตะวันตกและภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ทำให้ฝุ่นจากประเทศเพื่อนบ้านจะเข้ามาในประเทศไทยอีกครั้ง โดยเฉพาะจังหวัดที่ติดแนวชายแดนที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด
นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ซึ่งได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เปิดเผยว่า ในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จังหวัดเชียงใหม่ได้มีค่าฝุ่นควันสูงเป็นอันดับ 1 ของโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 5 ซึ่งรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด โดยนายกรัฐมนตรีได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ตั้งคณะกรรมการศึกษา PM 2.5 แห่งชาติ เพื่อทำงานเชิงรุกแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน
ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดหารือร่วมกับรัฐบาลเมียนมา ในการแก้ปัญหาฝุ่นควันข้ามพรมแดนร่วมกัน ซึ่งหากสามารถลดหย่อนการเผาพื้นที่การเกษตรของประเทศเพื่อนบ้านได้ ก็สามารถทำให้สถานการณ์ฝุ่นควันในเชียงใหม่ดีขึ้น อีกทั้งได้พยายามขับเคลื่อนให้มีการประชุมหมอกควันข้ามพรมแดนร่วมกันระหว่างเมียนมา และ สปป.ลาว โดยประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในเร็ว ๆ นี้
ทั้งนี้ จากการพยายามของทุกภาคส่วน ทั้งในระดับชุมชน ตำบล จังหวัด และในระดับประเทศ หวังว่าปีนี้จะเป็นปีสุดท้ายที่ฝุ่นควันเชียงใหม่จะขึ้นอันดับ 1 ของโลก