ประยุทธ์ ปล่อยกู้ สร้างสะพานไทย-ลาว แห่งที่ 5 –พัฒนาเมืองเมียวดี

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบให้สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) ดำเนินการให้การช่วยเหลือทางการเงินแก่เมียนมา เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับโครงการพัฒนาเมืองภายใต้ระเบียงเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ระยะที่3 ในส่วนของเมืองเมียวดี (การปรับปรุงระบบน้ำประปา และการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขยะ) ในรูปแบบเงินกู้เงื่อนไขผ่อนปรน วงเงิน 777 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.5 อายุสัญญา 30 ปี (รวมระยะเวลาปลอดหนี้ 10 ปี) มีการใช้สินค้าและบริการจากประเทศไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของมูลค่าสัญญา ผู้รับเหมาก่อสร้างและที่ปรึกษาเป็นนิติบุคคลสัญชาติไทย และใช้กฎหมายไทยเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับสัญญาเงินกู้

น.ส.รัชดากล่าวว่า ความสำคัญชองเมืองเมียวดี คือเป็นพื้นที่สำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของเมียนมาและไทยเนื่องจากเป็นพื้นที่การค้าชายแดนกับไทยผ่านอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ที่มีมูลค่าการค้าชายแดนสูงประมาณ 7หมื่นล้านบาทต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เป็นเส้นทางการสัญจรของสินค้าและผู้คนจากไทยไปยังเมืองสำคัญต่างๆของเมียนมา การให้การช่วยเหลือในโครงการฯนี้จะเสริมสร้างระบบสาธารณูปโภคของเมียวดีให้สามารถรองรับการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งในระดับเมือง และระดับประเทศบนเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก ดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ประชาชนที่อาศัยในเมืองเมียวดีจะสามารถเข้าถึงน้ำประปาได้อย่างทั่วถึงและประชาชนชาวไทยที่อาศัยอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเมยจะมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น โดยเฉพาะการได้รับผลกระทบจากมลพิษทางขยะที่น้อยลง

น.ส.รัชดากล่าวว่า นอกจากนี้ ครม.ยังมีมติเห็นชอบการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สำหรับโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ – บอลิคำไซ) สำหรับงานในฝั่ง สปป.ลาว ในรูปแบบเงินกู้เงื่อนไขผ่อนปรนทั้งจำนวนวงเงินรวม 1,380,067,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.50 ต่อปี อายุสัญญา 30 ปี รวมระยะเวลาปลอดหนี้ 7 ปี