KORAT STRONG รวมพลัง…โคราชต้องไปต่อ

ในทุกวิกฤต เราจะเห็นน้ำใจคนไทยสมานสามัคคีร่วมใจฟื้นสถานการณ์จากร้ายให้กลับมาดี ไม่ว่าจะเป็นเหตุสึนามิ น้ำท่วมใหญ่ ภัยพิบัติ และเหตุกราดยิงกลางเมืองโคราช เมื่อวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

เหตุการณ์นี้มีผู้ก่อเหตุคนเดียว แต่มีผู้เสียชีวิตถึง 30 ราย และผู้บาดเจ็บอีก 58 ราย สร้างความสูญเสียและบาดแผลทางใจแก่ชาวโคราช และชาวไทยเป็นอย่างมาก

หลังทุกอย่างสงบลง เราได้เห็นการสร้างขวัญกำลังใจ เห็นความพยายามของคนในพื้นที่ที่จะเร่งฟื้นคืนโคราช (จังหวัดนครราชสีมา) ให้กลับมาแข็งแกร่งดังเดิมในเร็ววัน

ไทม์ไลน์เริ่ม 19.00 น. วันที่ 9 ก.พ. หลังเหตุการณ์สงบไม่กี่ชั่วโมง ชาวโคราชกว่า 1,000 คน แต่งชุดไว้ทุกข์รวมตัวที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือ “ลานย่าโม” จุดเทียนอาลัยต่อผู้เสียชีวิต ภาวนาให้ผู้บาดเจ็บหายดี

วันที่ 10 ก.พ. ชาวโคราชรวมตัวจัดกิจกรรม “บิ๊กคลีนนิ่ง” ณ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 เครือแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์

วันที่ 11 ก.พ. วิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือ เยียวยา ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยตั้งคณะกรรมการและคณะทำงาน 6 ชุด คือ 1.คณะที่ปรึกษา 2.คณะกรรมการส่วนอำนวยการ 3.คณะทำงานด้านการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ผู้เสียชีวิต 4.คณะทำงานด้านการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ผู้บาดเจ็บ 5.คณะทำงานด้านการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ 6.คณะทำงานด้านการรับบริจาค

วันที่ 11 ก.พ. หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา หารือพาณิชย์จังหวัด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครราชสีมา เรื่องฟื้นฟูบรรยากาศเศรษฐกิจของโคราชให้กลับมาคึกคัก

โดย 1.ขอความร่วมมือหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศนำนักท่องเที่ยวมาเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา 2.นำเสนอคณะรัฐมนตรีจัดโครงการชิม ช้อป ใช้ ลงที่นครราชสีมา เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายในพื้นที่ 3.ททท.จัดแคมเปญเที่ยวนครราชสีมาตลอดปี 4.ขอความร่วมมือธนาคารปล่อยกู้ไม่มีดอกเบี้ย 1 ปี หรือคิดดอกเบี้ยต่ำ 0.01% ให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ 5.จัดกิจกรรมสร้างกำลังใจกระตุ้นเศรษฐกิจ

ขณะที่ห้างTerminal21 Korat Shopping Mall โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า พร้อมเปิดให้บริการตามปกติในวันนี้(13 กุมภาพันธ์ 2563) พร้อมเชิญชวนพี่น้องชาวโคราช และพื้นที่ใกล้เคียง ร่วมทำบุญเปิดศูนย์ฯ “สร้างขวัญกำลังใจ และก้าวต่อไปด้วยกัน”  ณ ชั้น G ไอเฟล สแควร์

พร้อมหมายเหตุการแต่งกายให้ชุดสุภาพตามสะดวก ยกเว้น โทนสีดำ

เวลา 8.30 – 9.30 น. พิธีเจริญพระพุทธมนต์

เวลา 9.30 – 10.30 น. ภิกษุสงฆ์รับบาตร ข้าวสารอาหารแห้ง 219 รูป มีการสวดนพเคราะห์ และทำพิธีบายศรี – สู่ขวัญ

เวลา 10.30 – 11.30 น. : ถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์

วันที่ 15 ก.พ. ทำบุญตักบาตรครั้งใหญ่บริเวณลานย่าโม นิมนต์พระสงฆ์ 1 หมื่นรูป และจัดบิ๊กคลีนนิ่งอีกครั้ง

ช่วงเวลาเดียวกันนี้ ความช่วยเหลือจากหลายภาคส่วนในไทยต่างหลั่งไหลเข้ามายังโคราช ผ่านหลายช่องทาง หลายรูปแบบ

วันที่ 9 ก.พ. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใย โปรดเกล้าฯให้องคมนตรีเชิญแจกันดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทาน มอบแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บในโรงพยาบาล

ในการนี้องคมนตรีเชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยผู้ได้รับบาดเจ็บและญาติ ทรงชื่นชมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ อาสาสมัครกู้ภัย ตลอดจนแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยคลี่คลายสถานการณ์

ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณทรงรับผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และทรงรับศพผู้ที่เสียชีวิตไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ด้วย

นฤมล ภิญโญสินวัตร โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการติดตามมาตรการเพื่อช่วยเหลือและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ นอกเหนือจากสิทธิพึงได้ตามกฎหมายของกระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลาง สำหรับข้าราชการและประชาชน รวมถึงกระทรวงยุติธรรม

โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงแรงงานโดยสำนักงานประกันสังคม รวมมาตรการอื่น ๆ จากทุกกระทรวง อาทิ ทุนการศึกษา การจ้างงาน การเยียวยาด้านจิตใจ โดยกรมสุขภาพจิตซึ่งกรอบมาตรการช่วยเหลือมี 4 ด้าน ได้แก่ ช่วยผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ช่วยเยียวยาและฟื้นฟูจิตใจญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ มาตรการสร้างขวัญกำลังใจให้กับประชาชน และเยียวยาลดผลกระทบของผู้ประกอบการ

“ท่านนายกฯเน้นให้ออกมาตรการเป็นแพ็กเกจเพื่อดูแลให้ครบถ้วน รวมถึงช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ ส่วนธนาคารพาณิชย์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กำลังหารือเรื่องช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง”

บุคคลทั่วไปบริจาคเงินผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย เลขที่ 678-9-97951-4 ชื่อบัญชี : ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเทอร์มินอล 21 โดยจังหวัดนครราชสีมาได้เปิดรับบริจาคช่วยเหลือเยียวยาผู้บาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิต ภาคธุรกิจธนาคารของรัฐเคลื่อนไหวเร็วสุด ทั้งธนาคารกรุงไทย ออมสิน อาคารสงเคราะห์ ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยและครอบครัว โดยยกหนี้ ลดดอกเบี้ย

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลมอบเงินช่วยผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บรายละ 5 หมื่นบาท บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(AIS) ให้ทุนการศึกษาบุตรผู้เสียชีวิตจนจบปริญญาตรี ครอบครัวละ 1 ทุน สูงสุดทุนละ 200,000 บาท และอีก 1 ล้านบาทช่วยผู้ประสบเหตุผ่านผู้ว่าฯโคราช

ขณะที่หลายภาคส่วนกำลังโฟกัสไปกับการเยียวยาก็มีแนวร่วมชาวโคราชกลุ่มหนึ่งอยากนำขวัญ กำลังใจและรอยยิ้มคืนให้ชาวโคราชอีกครั้ง โดยมี มารุต ชุ่มขุนทด ผู้ก่อตั้งแบรนด์ร้านกาแฟ Class Cafe เป็นแกนนำร่วมกับ ป๋าเต็ด-ยุทธนา บุญอ้อมประธานกรรมการ บริษัท แก่น 555 จำกัดผู้ก่อตั้งเทศกาลดนตรี Big Mountain ที่ทำให้โคราชเป็นจุดหมายปลายทางของคนรักเสียงดนตรีต่อเนื่องมา 10 ปีแล้ว

“มารุต” เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ”ว่า วันที่ 10-11 ก.พ. ได้ประชุมกับแนวร่วมอย่างแข็งขัน โจทย์ที่ตั้งใจคือ มองไปที่การเยียวยาความรู้สึกคนที่ประสบเหตุ และต้องใช้ชีวิตในพื้นที่ต่อไป อยากลบภาพความเศร้า ทำเป็นกิจกรรมต่อเนื่องทุกสัปดาห์

“หลังโพสต์เฟซบุ๊ก อยากทำ #KoratStrong ก็ได้รับการตอบรับดี มีศิลปิน อาจารย์มหาวิทยาลัย เสนอตัวช่วยเยอะมาก ผมเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ต้องลงมือทำ และต้องทำต่อเนื่อง”

ส่วนการประสานความร่วมมือกับภาครัฐ มารุตบอกว่า ได้ติดต่อไปแล้ว ไม่มีหน่วยงานไหนขัดขวาง แต่เนื่องจากภาครัฐอยู่ในกระบวนการไว้ทุกข์คำสั่งทางราชการจึงยังไม่ได้เข้ามาร่วม

แต่ละภาคส่วนทำด้วยเจตนาตั้งใจดี ไม่ว่าจะร่วมกันหรือต่างฝ่ายต่างทำก็ตาม เมื่อหลายพลังประสานกัน เราคงได้เห็นโคราชสตรองในเวลาอีกไม่นาน

 

เครดิตภาพ:Terminal21 Korat Shopping Mall