มหาสารคาม เวนคืนที่ดิน-ขยายถนน 4 เลน เปิดทำเลการค้าใหม่

มหาสารคาม

หอการค้า จ.มหาสารคาม ชี้ขยายถนนสาย จ.4 และ จ.5 เสร็จอีก 2 ปี เปิดทำเลทองย่านการค้าแห่งใหม่ ทดแทนแนวถนนเลี่ยงเมืองสี่แยกบ้านดินดำ ต.เกิ้ง ไปถึงบายพาสบ้านส่องนางใย ที่ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่สีเขียวตลอดแนว ตามผังเมืองรวมจังหวัด

แหล่งข่าวจากจังหวัดมหาสารคามเปิดเผยว่า ขณะนี้กรมทางหลวงชนบทได้จัดสรรงบประมาณปรับปรุงขยายผิวจราจร ถนนสาย จ.4 (ถนนนครสวรรค์ 4) และ จ.5 ผังเมืองรวมเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม ระยะทาง 3.222 กม. รวมมูลค่าถนนทั้งสองเส้นวงเงิน 163,191,000 บาท เพื่อแก้ไขปัญหาการจรจรในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคามที่ติดขัดเป็นอย่างมาก

ในช่วงเวลาเร่งด่วน เนื่องจากเป็นโซนที่ตั้งของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม และสถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตมหาสารคาม ซึ่งมีหอพัก บ้านเช่า อพาร์ตเมนต์ตั้งเรียงรายอยู่จำนวนมาก ล่าสุดได้มีการทำสัญญากับบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2563 กำหนดสิ้นสุดสัญญาก่อสร้างแล้วเสร็จวันที่ 1 ก.พ. 2565

สำหรับถนนทั้งสองเส้นได้มีการตั้งงบประมาณที่ใช้ในการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 238,918,497.00 บาท ขณะนี้กรมทางหลวงชนบทได้มีการจ่ายเงินเวนคืนค่าอสังหาริมทรัพย์ไปแล้ว 75% รวม 219,503,951.35 บาท มีชาวบ้านได้รับเงินเวนคืนรวม 176 ราย

“ที่ผ่านมาการเวนคืนถนน จ.4 ตามแผนต้องมีขยายถนนกว้างถึง 30 เมตร หรือขยายถนนจาก 2 เลนเป็น 4 เลน ช่วงเริ่มแรกมีการคัดค้านจากผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมาก เพราะแนวเส้นทางอยู่ในย่านชุมชนศรีสวัสดิ์ ซึ่งมีนักศึกษาอาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวจำนวนมาก เพราะอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม

มหาสารคาม ตัดถนนใหม่

การเวนคืนจะต้องเริ่มจากด้านข้างอาคารสำนักศิลปวัฒนธรรม ม.มหาสารคาม ตรงไปจนถึงถนนเลี่ยงเมืองมหาสารคาม และถนน จ.5 ผังเมืองรวมเมืองมหาสารคาม เริ่มจากด้านหน้าห้างโกลบอลเฮ้าส์ใกล้หมู่บ้านศุภารมย์ถึงด้านข้างโรงเรียนเทศบาลบ้านส่องนางใย แต่สุดท้ายก็สามารถเจรจาตกลงกันได้ ส่วนถนน จ.5 ส่วนใหญ่แนวถนนตัดผ่านเป็นพื้นที่การเกษตรจึงไม่มีปัญหาโดยมีการจ่ายค่าเวนคืนให้ ตารางวาละ 4 พันบาท”

นายสุพจน์ ถาไชยลา ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบท มหาสารคาม เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมทางหลวงชนบท โดยสํานักก่อสร้างทางกรมทางหลวงชนบทได้จัดสรรงบประมาณปรับปรุง ขยายผิวจราจร ถนนสาย จ.4 และ จ.5 ผังเมืองรวมเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม

เนื่องจากมีความจําเป็นต้องสร้างและขยายทางหลวงชนบท สายเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 208 กับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 213 (เลี่ยงเมือง) และสายเชื่อมระหว่างถนนศรีสวัสดิ์รัตนโกสินทร์กับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 23 ในท้องที่ ต.ตลาด ต.แก่งเลิงจาน และ ต.แวงน่าง อ.เมืองมหาสารคาม เพื่ออํานวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภคนั้น

เนื่องจากปัจจุบันมีกฎหมายว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นชอบของประชาชน หรือพระราชบัญญัติว่าด้วยการมีส่วนร่วมภาคประชาชน พ.ศ. 2548 มีผลบังคับใช้เกี่ยวกับการบริหารราชการแบบการมีส่วนร่วมตามหลักธรรมาภิบาล ที่ภาครัฐจะต้องเปิดโอกาสให้ประชาชน และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนในสังคมได้เข้ามีส่วนร่วมในการรับรู้ ร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ เพื่อความโปร่งใส และเพิ่มคุณค่าของการตัดสินใจในภาครัฐ

เมื่อเร็ว ๆ นี้ กรมทางหลวงชนบทจึงได้จัดประชุมการมีส่วนร่วมภาคประชาชน (MOU) ขึ้น เพื่อประชาสัมพันธ์การมีส่วนร่วมภาคประชาชน ก่อนเข้าดําเนินการก่อสร้างปรับปรุง มีการเสนอรูปแบบการก่อสร้างของโครงการ ขั้นตอน และกระบวนการดําเนินงาน รวมทั้งนํา

ข้อเสนอแนะจากผู้เข้าร่วมประชุมไปเป็นแนวทางในการดําเนินงานโครงการ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพเป็นรูปธรรมและเป็นไปตามหลักการ รวมทั้งได้ชี้แจงการเวียนคืนตามพระราชกฤษฎีกา การขอเชื่อมทาง การประสานการรื้อย้ายสาธารณูปโภค เสาไฟฟ้า และท่อประปา ให้ผู้ร่วมประชุมรับทราบ

ด้านนายณรงค์ เหล่าสุวรรณ ประธานหอการค้าจังหวัดมหาสารคาม ให้ความเห็นกรณีนี้ว่า โครงการก่อสร้างถนน จ.4, จ.5 แก้ปัญหาการจราจรในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม และถนนในพื้นที่จัดรูปที่ดิน แนวถนน ง.1 ง.2 ชุมชนศรีมหาสารคาม และตลอดสองแนวถนน จ.4 และ จ.5 ที่ตัดผ่านพื้นที่การเกษตรในอนาคตราคาที่ดินจะพุ่งสูงเป็นหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นสามารถนำไปใช้ในการลงทุนได้

ช่วงนี้ราคาที่ดินยังไม่น่าจะแพงจะเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนจะเป็นทำเลทองการทำธุรกิจแห่งใหม่ในเขตเทศบาลเมือง เพราะอยู่ใกล้สถานศึกษาขนาดใหญ่ และทดแทนแนวพื้นที่ถนนเลี่ยงเมืองสี่แยกบ้านดินดำ ต.เกิ้ง ไปจนถึงบายพาส บ้านส่องนางใย ทางไป จ.ร้อยเอ็ด หลังมีการกำหนดให้เป็นพื้นที่สีเขียวตลอดแนว ตามผังเมืองรวมเมืองมหาสารคาม