ปิดคดีฆาตกรรมสาวสวิสที่ “ภูเก็ต” ภาพลักษณ์ท่องเที่ยวไทยอีกนานแค่ไหน จะคืนกลับ ?

คดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวสาวชาวสวิสเซอร์แลนด์ MRS. NICOLE SAUVAIN WEISSKOPF (นิโคล ซาเว่น ไวครอป์) ที่เกิดขึ้นบริเวณธารน้ำตกโตนอ่าวยน ต.วิชิต อ.เมือง จังหวัดภูเก็ต

จังหวัดนำร่องในการเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ถือเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อภาพรวมการท่องเที่ยวของประเทศไทย

หลังเปิดเมืองรับต่างชาติผ่านโครงการ”ภูเก็ตแซนด์บอกซ์”มาได้ 1 เดือนกับอีก 5 วัน

แม้บ่ายวันนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและทีมตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนจะโชว์ผลงานสามารถจับกุมผู้ต้องหามาคลี่คลายคดีได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว

แต่ภาพลักษณ์ในด้านความปลอดภัยของชาวต่างชาติที่เดินทางมาเทียวประเทศไทย ยังคงไม่สามารถพลิกฟื้นกลับมาได้ในเร็ววัน

พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ลงพื้นที่จ.ภูเก็ตเร่งรัดคดี

รมต.ชี้กำลังพลตำรวจท่องเที่ยวน้อย

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า จากนี้ไปต้องเร่งยกระดับความปลอดภัยเพิ่มจากที่เป็นอยู่ ซึ่งก่อนที่จะมีแชนด์บ็อกซ์ทางจังหวัดภูเก็ตและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องก็มีการประชุมเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวมาโดยตลอด และได้ยกระดับมาในอีกระดับหนึ่งแล้ว

จากก่อนหน้านี้ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 111 จาก 150 กว่าประเทศด้านการท่องเที่ยวของโลก โดยหลังจากนี้คงต้องโฟกัสเรื่องการยกระดับด้านความปลอดภัยให้สูงกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ และต้องทำงานแบบบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนให้เพิ่มมากขึ้น

“กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวทั่วประเทศมีเพียง 2,000 คน แต่ตำรวจท่องเที่ยวก็มีโครงการฝึกอบรมอาสาสมัครท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 3,000 คน รวมกับกำลังคน รวมแล้วก็ประมาณ 5,000 คน ยังไม่เพียงพอสำหรับการดูแลให้ทั่วถึง เราคงต้องฝึกอาสาสมัครเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในชุมชนเพื่อให้เข้ามาช่วยสอดส่องดูแลความปลอดภัยในชุมชน ซึ่งตอนนี้คงต้องกลับมาดูว่ะทำอย่างไรให้มีอาสาสมัครท่องเที่ยวทุกชุมชน”

นายพิพัฒน์กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ส่วนตัวรู้สึกเสียใจมากๆ และเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้นในภูเก็ตแชนด์บ็อกซ์ เนื่องจากขณะนี้โมเดลภูเก็ตชนด์บอกซ์กำลังเป็นที่จับตาของทุกประเทศทั่วไป เพื่อนำโมเดลดังกล่าวนี้ไปปรับใช้ในประเทศของพวกเขาอยู่ อย่างไรก็ตาม โครงการภูเก็ตแชนด์บอกซ์ก็ยังคงต้องดำเนินการต่อไปตามแผน

เชียงใหม่หวั่นความเชื่อมั่น “แซนด์บอกซ์” วูบ

นายพัลลภ แซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรณีนักท่องเที่ยวต่างชาติชาวสวิสถูกฆาตกรรมที่จังหวัดภูเก็ต ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยอย่างแน่นอน

เพราะเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและเกิดเหตุการณ์ที่รุนแรงจนเสียชีวิต ภาพย่อมออกมาไม่ดีในด้านความปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นโครงการแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ทั้งของภูเก็ตและประเทศ ส่วนจะกระทบมากหรือน้อยต้องรอดูข้อสรุปความชัดเจนทางคดี ที่ต้องเร่งดำเนินการนำผู้กระทำผิดมาลงโทษ

พัทยาจี้รัฐเร่งยกระดับความปลอดภัย

นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี เปิดเผย”ประชาชาติธุรกิจ”ว่า กรณีการฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เกิดขึ้นในจังหวัดภูเก็ต ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างมาก

ปัจจุบันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศไทยที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ก็เป็นปัญหาและอุปสรรคที่นักท่องเที่ยวต่างชาติมีความลังเลในการที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยอยู่แล้ว

ภาพโดยรวมประเทศไทยก็ยังไม่ดีจากโรคระบาดโควิด-19 พอเจอสถานการณ์ฆาตกรรมนักท่องเที่ยวต่างชาติขึ้นมาอีก นักท่องเที่ยวจะมีความรู้สึกว่าขนาดยังไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก เฉลี่ยเพียงวันละ 200 คน แต่ยังมีปัญหาเรื่องอาชญากรรม ความมั่นคงและความปลอดภัยในทรัพย์สินไม่มี ส่งผลต่อการตัดสินใจเดินทางเข้ามาในประเทศเป็นอย่างมาก เขาคงเลือกไปประเทศอื่น ๆ”นายธเนศกล่าวและว่า

ขณะเดียวกันประเทศไทยต้องมาพิจารณาเรื่องมาตราการการป้องกัน ด้านความปลอดภัยว่าจะมีมาตรการอย่างไรบ้าง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาลักษณะเดียวกันขึ้นมาอีก

กระบี่ชี้กระทบภาพลักษณ์ฝั่งอันดามัน

นางสาวศศิธร กิตติธรกุล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า การฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวสวิสเซอร์แลนด์ที่จังหวัดภูเก็ต ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวในเรื่องความปลอดภัย ยิ่งข่าวนี้กระจายไปในสื่อต่างประเทศ จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามันและประเทศไทยโดยรวม

สวนทางกับสิ่งที่ประเทศไทยกำลังประชาสัมพันธ์บอกชาวโลกว่า ไทยเป็นประเทศที่น่ามาเที่ยว มีแหล่งท่องเที่ยวนำร่องสวยงาม มีความปลอดภัย

“ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวคนไทยหรือต่างชาติ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินต้องมาก่อน ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจค้นหาสาเหตุการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวและติดตามตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว มิฉะนั้น การทำการประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวบ้านเราไม่เป็นผล นักท่องเที่ยวหมดความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน แม้ว่าจะมีแหล่งท่องเที่ยวจะสวยงามมากเพียงใด แต่เมื่อมีสิ่งเหล่านี้ยังเกิดขึ้น เชื่อต่อไปจะไม่มีใครมาเที่ยวอีกเลย”

นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่กล่าวว่า ก่อนที่นักท่องเที่ยวเลือกที่จะเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย เพราะได้พิจารณาแล้วว่า เป็นประเทศที่มีความปลอดภัย แต่เมื่อมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็กระทบการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องคลี่คลายคดีนี้ให้ได้โดยเร็ว สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวให้กลับมาให้ได้ หากละเลยหรือเพิกเฉย ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมาอีกมากมาย

อย่างไรก็ตาม การฆาตกรรมที่เกิดขึ้นถือเป็นปมปัญหาที่กระหน่ำซ้ำเติมจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ได้รับผลกระทบหนักหนาสาหัสจากตัวเลขผู้ติดเชื้อกว่า 2 หมื่นคนต่อวันของประเทศไทย

จนทำให้ประเทศไทยถูกขึ้นแบล็กลิสต์ประเทศสีแดงเข้มในระดับโลก ซึ่งททท.สำนักงานท่องเที่ยวภูเก็ตเองยอมรับว่า ตัวเลขการจองห้องพักในเดือนสิงหาคม 2564 เริ่มแพ้วลง

โดยตัวเลข ณ วันที่ 6 สิงหาคม 2564 มีตัวเลขจำนวนของผู้เข้าพัก SHA PLUS ยอดการจองก.ค.-ก.ย. 2564 จำนวน 339,708 รูมไนท์ แบ่งเป็นบอดจองเดือนก.ค. 190,843 รูมไนท์ เดือนส.ค. 33,550 รูมไนท์ และเดือนก.ย. 15,315 รูมไนท์

นับจากนี้คงต้องรอดูสถานการณ์กันต่อไปว่า ทุกภาคส่วนจะสามารถช่วยกันเรียกความเชื่อมั่นให้กลับมาได้มากน้อยเพียงใด คงต้องลุ้นผ่านตัวเลขการจองห้องพักจริงที่จะเข้ามาเพิ่มหรือลดลง !