SME หาดใหญ่ทรุดหนัก ดัน “ไมซ์ซิตี้” ชูจุดขายใหม่

หาดใหญ่

สมาพันธ์เอสเอ็มอีสงขลา ดันหาดใหญ่เป็น “เมืองไมซ์” ส่งเสริมเมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ “เมดิคอลทัวริซึ่ม” ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว หลังร้านอาหาร ภัตตาคารขนาดเล็ก-ใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ปิดกิจการไปแล้วประมาณ 70-80%

เหตุนักท่องเที่ยวใช้ อ.หาดใหญ่ เป็นเพียงทางผ่าน เหตุ “ศูนย์การค้ากิมหยง” แหล่งขายของที่เคยเป็นจุดดึงดูด ถูกดิสรัปชั่นล้มหายไปแล้ว

นายกร สุริยพันธุ์ ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจังหวัดสงขลา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ธุรกิจเอสเอ็มอีที่เป็นสมาชิกในสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจังหวัดสงขลาได้รับผลกระทบหนักมาก โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยว ร้านอาหาร โรงแรม ที่พัก ทัวร์ มัคคุเทศก์ ขนส่ง ร้านค้าซื้อมาขายไป ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ในสมาพันธ์เอสเอ็มอี จ.สงขลา

เนื่องจากไม่มีรายได้จากนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ส่วนกลุ่มเอสเอ็มอีการค้าซื้อมา-ขายไป เช่น ศูนย์การค้ากิมหยง ศูนย์การค้าสันติสุข ฯลฯ

ปัจจุบันธุรกิจเหล่านี้ต่างถูกดิสรัปชั่นต้องล้มหายไปแล้ว ด้วยการค้าทางออนไลน์ และมีระบบโลจิสติกส์ส่งถึงที่ กลุ่มนี้ต้องพัฒนาปรับตัวกันอย่างขนานใหญ่ พร้อมทั้งต้องอัพเดตสินค้าให้ทันยุคสมัย

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาภาครัฐเองให้การสนับสนุนเอสเอ็มอีอย่างเต็มที่ในเรื่องแหล่งเงินทุน แต่ผู้ประกอบการแต่ละรายจะสามารถเข้าถึงได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสถาบันการเงิน ความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ของแต่ละราย

“ตอนนี้นักท่องเที่ยวภายในประเทศที่จะเข้ามาท่องเที่ยวใน จ.สงขลา แทบจะไม่มี แม้จังหวัดสงขลามีภูเขาและทะเล แต่คนไทยส่วนใหญ่นิยมไปท่องเที่ยวทะเลในแถบอันดามัน เช่น จังหวัดภูเก็ต กระบี่ ส่วนการท่องเที่ยวภูเขา คนจะนิยมไปแถบจังหวัดภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่ มากกว่า”

“ขณะที่ศูนย์การค้ากิมหยง ศูนย์การค้าสันติสุข ที่เคยขึ้นชื่อของเมืองหาดใหญ่ ภาคใต้ โด่งดังระดับประเทศในอดีตที่คนต้องมาหาซื้อสินค้า ตอนนี้ธุรกิจเหล่านี้ต้องล้มหายไป”

“อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันรายได้หลักของ จ.สงขลา มาจากภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมแปรรูปกลุ่มยางพาราส่งออก กลุ่มอุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์น้ำ ฯลฯ”

นายกรกล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมา จ.สงขลามีจุดขายเรื่องอาหารการกินได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ แต่สามารถรองรับได้ระดับหนึ่งเท่านั้น จำเป็นต้องเร่งเสริมสร้างศักยภาพสร้างจุดแข็งจุดขายที่สำคัญขึ้นมารองรับ

ดังนั้นที่ผ่านมาทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนได้เสนอและผลักดันให้ จ.สงขลา เป็นเมืองไมซ์ (MICE city) โดยการส่งเสริมให้มีการจัดประชุม งานแสดงสินค้าและนิทรรศการ เพื่อสร้างแรงจูงใจดึงดูดให้คนเข้ามาท่องเที่ยว

นอกจากนี้มีการผลักดันให้ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (medical tourism city) หรือหาดใหญ่เมดิคอลทัวริซึ่มซิตี้ ในฐานะที่ จ.สงขลา เป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ และการแพทย์ของภาคใต้

ทั้งนี้ หากการผลักดันทั้ง 2 โครงการสำเร็จ สมาชิกของสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย จ.สงขลา ที่อยู่ในธุรกิจที่พัก โรงแรม ร้านอาหาร ภัตตาคาร การขนส่ง ฯลฯ จะได้รับผลประโยชน์กันทั้งหมด

“สำหรับการเปิดด่านระหว่างไทย-มาเลเซีย บริเวณด่านสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา กับด่านบูกิตกายูอิตัม รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2565 น่าจะส่งผลดีให้ธุรกิจเอสเอ็มอีฟื้นตัวขึ้นได้ในไตรมาส 3-4 ปี 2565”

ร้านอาหารเล็ก-ใหญ่ปิดกิจการแล้ว 70-80%

ด้านเจ้าของภัตตาคารวอชิงตัน ศูนย์กลางเศรษฐกิจย่านดาวน์ทาวน์หาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดเผยว่า ขณะนี้ร้านอาหาร ภัตตาคารทั้งขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้ปิดกิจการไปแล้วประมาณ 70-80% เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เข้ามา ใช้ อ.หาดใหญ่เป็นเพียงทางผ่านไปยังจุดหมายปลายทางอื่น ไม่ลงมาเดินเที่ยวกินและพัก

ส่วนร้านอาหาร ภัตตาคารที่ยังเหลืออยู่ 20-30% เป็นร้านอาหาร ภัตตาคารขนาดใหญ่เก่าแก่ที่พอมีสายป่านยาว ดังนั้น ผู้บริหารเมืองหาดใหญ่จำเป็นต้องสร้างแรงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวและพักในหาดใหญ่

“สำหรับภัตตาคารวอชิงตัน ยอดขายเหลือประมาณ 20% ในกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงยังมีผู้บริโภคอยู่บ้าง แต่จะเปรียบเทียบกันไม่ได้กับตอนเศรษฐกิจดี”