เปิดเสรี “กัญชา” ตลาดคึกคัก “เมืองกาญจน์-เชียงใหม่-บุรีรัมย์” แห่ปลูก

กัญชา
อัพเดตข้อมูลล่าสุด วันที่ 11 มิ.ย. 2565 เวลา 07.58 น.

กัญชาเสรีคึกคักสุด ประชาชนแห่ลงทะเบียนปลูกทั่วสารทิศ ต้นกล้าพันธุ์แม่โจ้ขายได้ยอดจองทะลุล้าน พ่อค้าหัวใสปิ๊งไอเดียเปิดขายเมล็ดพันธุ์-อุปกรณ์การปลูก เกลื่อนเฟซบุ๊ก ส่งฟรีถึงหัวบันไดบ้าน พร้อมแนะเคล็ดวิธีการปลูก วิสาหกิจชุมชนหวั่นราคาร่วงหลังคนปลูกมาก เปิดจังหวัดท็อปไฟฟ์ปลูกกัญชามากสุด “เมืองกาญจน์-เชียงใหม่-บุรีรัมย์” นำโด่ง

การนับหนึ่งกัญชาเสรี เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565 ได้รับความสนใจจากภาคประชาชนอย่างล้นหลาม สะท้อนจากการรับใบจดแจ้งการปลูกกัญชา ผ่านแพลตฟอร์ม “ปลูกกัญ” ที่มีเข้ามาอย่างล้นหลาม ถึงขนาดแอปล่ม เนื่องจากมีผู้เข้าระบบจดแจ้งมากกว่า 9.63 ล้านครั้ง และมีจำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถลงทะเบียนได้ เนื่องจากมีคนเข้าใช้งานเป็นจำนวนมากดังกล่าว

ออร์เดอร์ ม.แม่โจ้ทะลุล้านต้น

ศาสตราจารย์ ดร.อานัฐ ตันโช ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังล็อกกัญชา-กัญชง เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา มีภาคธุรกิจ กลุ่มวิสาหกิจ เกษตรกร และประชาชน ติดต่อจองซื้อต้นกล้ากัญชาของแม่โจ้มากราว 1 ล้านต้น ซึ่งปัจจุบันแม่โจ้มีสต๊อกต้นกล้าไว้มากกว่า 1 ล้านต้น ที่ได้ทำการจดแจ้งกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)เรียบร้อย และจะมีการทำสัญญาซื้อขายทุกราย ต้นกล้าราคาต้นละ 30 บาท ส่วนเมล็ดพันธุ์ 20 บาทต่อเมล็ด

นอกจากนี้ แม่โจ้ยังเร่งเดินหน้าพัฒนาสายพันธุ์กัญชา การวิจัย และกระบวนการปลูกอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดคือการพัฒนาต่อยอดการปลูกกัญชาเพื่อนำไปผลิตอาหารสัตว์ อาทิ อาหารไก่ อาหารหมู ซึ่งจะช่วยเรื่องการผ่อนคลายให้กับสัตว์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการวิจัย ขณะเดียวกันได้เปิดการเรียนการสอนระดับปริญญาโท-ปริญญาเอก หลักสูตรกัญชาอินทรีย์ ของวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา โดยเปิดการเรียนการสอนเป็นรุ่นแรก มีผู้เรียนจำนวน 30 คน และรุ่นต่อไปจะเปิดรับนักศึกษาต่างชาติด้วย

ขายเมล็ดพันธุ์-ต้นกล้าเกลื่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ประกาศ สธ.ปลดล็อกกัญชามีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ล่าสุดพบว่าผู้ประกอบการธุรกิจต่าง ๆ ได้มีความเคลื่อนไหวในการโฆษณาขายเมล็ดกัญชาผ่านเฟซบุ๊กกันอย่างคึกคัก ในราคาที่แตกต่างกันไป บางรายขาย 1 ซอง 50-60 เมล็ด ขอค่าแพ็กจัดส่ง ซองละ 95 บาท หรือ 50 เมล็ด ราคา 99 บาท 100 เมล็ด 169 บาท

บางรายจัดส่งฟรี มีเก็บเงินปลายทาง รวมทั้งมีการโฆษณารับประกันการงอก 98% ขึ้นทุกเมล็ด บางรายมีแนะนำวิธีเพาะเมล็ด ขั้นตอน และวิธีการปลูกด้วย นอกจากการขายเมล็ดพันธุ์แล้ว ยังมีการโฆษณาขายอุปกรณ์ปลูก อาทิ ดิน เต็นท์ปลูกพืช กระถาง ฯลฯ พร้อมการแนะนำวิธีเพาะเมล็ด ขั้นตอนและวิธีการปลูก

ขณะที่วิสาหกิจชุมชนหลาย ๆ แห่งก็เริ่มมีการโฆษณาขายสินค้าเกี่ยวกับกัญชา โดยเฉพาะน้ำมันกัญชา ชากัญชา รวมถึงใบกัญชาทั้งสดและแห้ง พร้อมโปรโมชั่น พร้อมแนะนำสูตรอาหารและเครื่องดื่ม และมีคำแนะนำการใช้

“เพลาเพลิน” หวั่นราคาร่วง

นางสาวธนัชชา ชลายนนาวิน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท เพลา เพลิน บูติค รีสอร์ท จำกัด จ.บุรีรัมย์ ผู้สนับสนุนกลุ่มวิสาหกิจเพลาเพลิน โมเดลที่นำร่องการปลูกกัญชา-กัญชง ของจังหวัดบุรีรัมย์ แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า หลังจากปลดล็อกแล้วน่าจะมีคนปลูกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการปลูกในพื้นที่โล่ง หรือปลูกแบบกรีนเฮาส์ แนวโน้มราคาในตลาดอาจจะลดลง เพราะผู้ซื้ออยากได้ราคาที่ถูกลงด้วย เนื่องจากมีทางเลือกเพิ่มขึ้น

ปัจจุบันผลผลิตกัญชาของเพลาเพลิน อยู่ในระดับเมดิคอลเกรด หรือปลูกเพื่อทางการแพทย์ ขายให้กับองค์การเภสัชกรรม รวมทั้งมีการทำเอ็มโอยูร่วมกับโรงพยาบาลและหน่วยงานของรัฐ ปัจจุบันได้จับคู่กับเอกชนด้วยกัน และขยายเฟสการปลูกเพิ่มมากขึ้นจากการปลดล็อกกฎหมายที่สามารถทำได้

ขณะที่นายวิศารท์ พจน์ประสาท ประธานวิสาหกิจชุมชนศูนย์อภิบาลด้วยพืชสมุนไพรแห่งริเวอร์แคว จังหวัดกาญจนบุรี กล่าวในเรื่องนี้ว่า ปัจจุบันในจังหวัดกาญจนบุรี มีวิสาหกิจชุมชนที่ปลูกกัญชา รวมพื้นที่ประมาณ 400 ไร่ หลัก ๆ อยู่ใน อ.เมืองกาญจนบุรีและ อ.ไทรโยค หลังจากปลดล็อกแล้วคาดว่าจะมีแนวโน้มการปลูกเพิ่มขึ้น 2 เท่า

ปัจจุบันผลผลิตที่ได้ อาทิ ช่อดอก ประมาณ 200 ตัน/ปี ใบ 500 ตัน/ปี ราก กิ่งต้น 150 ตัน/ปี เป็นต้น ส่วนบริษัทที่ติดต่อเข้ามาเพื่อขอซื้อวัตถุดิบหลัก ๆ จะเป็นบริษัทเกี่ยวการแปรรูปและเครื่องดื่ม เช่น เครือเจริญโภคภัณฑ์ โอสถสภา อังกฤษตรางู สิงห์ คอร์เปอเรชั่น คาราบาวกรุ๊ป รวมถึงโรงพยาบาลเอกชนหลาย ๆ แห่ง

10 จังหวัดท็อปเทนปลูกกัญชา

รายงานข่าวจากกองควบคุมวัตถุเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยข้อมูลจำนวนใบอนุญาตกัญชา (10 มิ.ย.) พบว่า มีจำนวนใบอนุญาตทั้งหมด 2,930 รายการ แบ่งเป็นใบอนุญาตครอบครอง 115 รายการ ใบอนุญาตนำเข้า 12 รายการ ใบอนุญาตผลิต (ปลูก) 879 รายการ ใบอนุญาตจำหน่าย 1,871 รายการ ใบอนุญาตส่งออก 1 รายการ ใบอนุญาตผลิต (ปรุง) 7 รายการ ใบอนุญาตผลิต (แปรรูป/สกัด) 41 รายการ

โดยจังหวัดที่มีการปลูกกัญชามากที่สุด 10 อันดับแรก ประกอบด้วย 1.กาญจนบุรี รวมพื้นที่ขอปลูก 549,529 ตารางเมตร จำนวน 563,390 ต้น 2.เชียงใหม่ รวมพื้นที่ขอปลูก 9,061 ตารางเมตร จำนวน 57,780 ต้น 3.บุรีรัมย์ รวมพื้นที่ขอปลูก 12,761 ตารางเมตร จำนวน 39,474 ต้น 4.นครราชสีมา รวมพื้นที่ขอปลูก 60,865 ตารางเมตร จำนวน 43,560 ต้น 5.สกลนคร รวมพื้นที่ขอปลูก 43,997 ตารางเมตร จำนวน 25,032 ต้น

แห่ขออนุญาตตั้ง โรงงานผลิต CBD

นายวันชัย พนมชัย อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เปิดเผยว่า การปลดล็อกดังกล่าวคาดว่าจะทำให้มีผู้ประกอบการมาขอตั้งโรงงาน CBD เพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีโรงงานที่ผลิตสารสกัดจากกัญชง (CBD) รวม 5 แห่ง นับตั้งแต่มีการปลดล็อกให้พืชกัญชงสามารถนำมาผลิตเชิงพาณิชย์ได้ โดยปี 2564 มีโรงงานที่ได้รับอนุญาตตั้งโรงงาน CBD 4 แห่ง ได้แก่ 1.บริษัท เอ็นเนอร์โกร (ประเทศไทย) จำกัด จ.มุกดาหาร เป็นการสกัดและผลิตน้ำมัน CBD น้ำมันเมล็ดกัญชง แปรรูปผลผลิตจากกัญชงและสมุนไพร

2.บริษัท สยาม เฮอเบิล เทค จำกัด จ.สมุทรสาคร ผลิตสารสกัดจากกัญชา-กัญชง พืชกระท่อม พืชสมุนไพร และยาสำเร็จรูปจากสมุนไพรไทย 3.บริษัท ซาลัส ไบโอซูติคอล (ประเทศไทย) จำกัด จ.เชียงใหม่ ผลิต CBD ที่นำไปเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์อาหาร

4.บริษัท จี.เค. ไบโอ เอ็กซ์แทรคชั่น จำกัด จ.ปทุมธานี บริษัทย่อยของ GUNKUL แปรสภาพกัญชงและช่อดอก นำสารที่สกัดกัญชงไปใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารหรือเครื่องสำอาง 5.บริษัท หนองคายเพาเวอร์ดริ๊งก์ จำกัด จ.หนองคาย ผู้ผลิตเครื่องดื่มวิตามินซี ยี่ห้อ Double C และเครื่องดื่มชูกำลังช้างแดง ขยายการผลิตสารสกัดน้ำและบดผงจากสมุนไพร เช่น กัญชง ฟ้าทะลายโจร ขมิ้นชัน เสลดพังพอน เป็นต้น

มหกรรมกัญชา 360 องศากระหึ่ม

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมกัญชา 360 องศา ปลดล็อคกัญชา ประชาชนได้อะไร” ภายใต้แนวคิด กัญชาคืนชีวิตสร้างเศรษฐกิจให้ประชาชน ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ นายอนุทินมอบนโยบายการดำเนินงาน พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ โดยมีประชาชน อสม.จากจังหวัดบุรีรัมย์และใกล้เคียงเข้าร่วมฟังนโยบายในครั้งนี้มากกว่า 30,000 คน

นายอนุทินกล่าวว่า เรื่องกัญชาเสรีทางการแพทย์ที่เริ่มต้นจากชาวบุรีรัมย์ วันนี้ขอไม่พูดตามสคริปต์ แต่ขอพูดจากใจว่า ขอขอบคุณพี่น้องชาวบุรีรัมย์ที่ทำให้นโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ของพรรคภูมิใจไทยเมื่อ 4 ปีก่อนได้เกิดขึ้นที่นี่ ที่มีวันนี้ก็เพราะเริ่มจากบุรีรัมย์แห่งนี้ อย่างที่เพลงร้องว่า “สายเหนียวต้องหนูกันภัย สายอนามัยต้องหนูกัญชา” วันนี้นโยบาย 6 ต้นไม่มีแล้ว ตอนนี้จะปลูกกี่ต้นก็ได้ที่บ้านเรา เพราะกัญชาไม่ใช่ยาเสพติดอีกแล้ว แต่เป็นพืชที่จะทำให้เกิดประโยชน์ทางการแพทย์ เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพที่ดีของเรา เป็นหนทางทำมาหากิน สร้างรายได้จากการปลูกพืชกัญชา ตั้งแต่ระดับครัวเรือน กิจการ วิสาหกิจชุมชน และอุตสาหกรรม

นายอนุทินกล่าวว่า สำหรับที่มีคนกังวลเรื่องกัญชาจะเป็นยาเสพติด ความมึนเมา นั่นเป็นทางเลือก เป็นความคิดทางการตลาดของคนที่ไม่อยากให้ใช้ประโยชน์จากกัญชา แต่ในข้อเท็จจริง เราใช้กัญชารักษาโรคนอนไม่หลับ แทนการใช้ยานอนหลับจากต่างประเทศ ซึ่งเงินที่ซื้อยาเหล่านั้นเทียบกับพืชกัญชาในบ้านของเราหรือจากหมอที่จ่ายยากัญชามันต่างกันเยอะ ดังนั้นเราต้องไม่ยอมให้ใครมาขัดขวางภูมิปัญญาของไทย

ปัจจุบันมียาเข้าตำรับกัญชา 8 สูตรบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติ ที่อยู่ในคลินิกกัญชาซึ่งเป็นงบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยที่ประชาชนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ดังนั้นหากกัญชาไม่มีประโยชน์ ยาเหล่านี้ก็จะไม่สามารถขึ้นบัญชียาหลักได้อย่างแน่นอน

วันนี้เราไปไกลแล้ว ซึ่งก็จะมียากัญชาอื่น ๆ อีกมากมายที่จะเข้ามาจดทะเบียนเพื่อเข้าในบัญชียาหลักอีก นี่จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เราจึงต้องขอให้ทุกคน อสม.ทุกท่านช่วยกับ สธ. ใช้กัญชาอย่างถูกวิธี ไม่ใช่ในทางที่ผิด เพื่อพี่น้องประชาชนทุกคน

รมว.สธ.กล่าวด้วยว่า ได้รับแจ้งจาก อย. ถึงข้อมูลการรับจดแจ้งปลูกกัญชา-กัญชง ณ วันที่ 10 มิ.ย. ณ เวลา 09.00 น. ผ่านแอปพลิเคชั่นและเว็บไซต์ “ปลูกกัญ” มีการลงทะเบียนกว่า 2 แสนคน ออกใบรับจดแจ้งกัญชาเกือบ 3 แสนใบ และมีคนไทยทั่วประเทศ เข้าใช้งานระบบ 22,892,790 ครั้ง นับเป็น 1 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศ จึงเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าทุกคนสนใจ เห็นความสำคัญของพืชกัญชา-กัญชง ที่ถูกกฎหมายเป็นครั้งแรกของประเทศไทย

จากนั้นนายอนุทินพร้อมคณะ เดินเยี่ยมชมบูทวิชาการ คลินิกกัญชาทางการแพทย์ จัดโดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดให้บริการประชาชนตลอดวันงาน 3 วัน ทั้งแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์แผนไทย โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และเยี่ยมชมบูทร้านค้าในงานกว่า 200 บูท งานดังกล่าวจัดถึงวันที่ 12 มิ.ย.2565

อนุทิน รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข เปิดงาน “มหกรรมกัญชา 360 องศา ปลดล็อคกัญชา ประชาชนได้อะไร”