บีเจซี บุก “ร้านโดนใจ” เต็มสูบ ดึงโชห่วย 3 หมื่นร้านเป็นเครือข่าย

บีเจซี บุก

บีเจซี เดินหน้าปั้นโมเดลธุรกิจร้านโดนใจ ติดอาวุธโชห่วย หวั่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ตั้งเป้าทะลุ 30,000 ร้านค้า ภายในปี 2570

วันที่ 17 ธันวาคม 2565 นางฐาปณี เตชะเจริญวิกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีเจซี กล่าวว่า จากวิสัยทัศน์ของคุณเจริญ สิริวัฒนภักดี ที่มีความมุ่งมั่นในการเข้าไปช่วยพัฒนาผู้ประกอบการในท้องถิ่นอย่างร้านโชห่วย เพื่อให้สามารถสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวได้

จึงเป็นที่มาของการต่อยอดโครงการร้านเครือข่าย “โดนใจ” ซึ่งเกิดขึ้นจากแนวคิดที่ต้องการร่วมพัฒนาร้านค้าโชห่วยให้มีรูปแบบการบริหาร จัดการที่ทันสมัย ตลอดจนมีระบบข้อมูลที่ช่วยพัฒนาการขายแบบยั่งยืน

โดยเริ่มมีการทำโครงการแบบซอฟต์ ล้อนช์ ตั้งแต่ต้นปี 2565 ที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการร้านค้าโชห่วยที่เข้ามาร่วมเป็นเครือข่ายร้านโดนใจแล้วประมาณ 1,000 ราย หลังจากนี้ จะมีการเดินหน้า พร้อมเปิดตัวพันธมิตรทั้งที่เป็นธนาคารพาณิชย์และบริษัทเจ้าของสินค้าที่จะมีการเปิดตัวพันธมิตรอย่างเป็นทางการในต้นปี 2566 นี้ โดยเป้าหมายดึงร้านโชห่วยเข้ามาร่วมเป็นเครือข่ายร้านโดนใจ ประมาณ 4,000 ร้านค้า

หลังจากนี้ จะผนึกพันธมิตรทั้งที่เป็นธนาคารพาณิชย์และบริษัทเจ้าของสินค้าเพื่อสนับสนุนโครงการนี้ โดยจะมีการเปิดตัวพันธมิตรอย่างเป็นทางการในต้นปี 2566

ส่วนเป้าหมายระยะยาว มองถึงการมีเครือข่ายร้านโดนใจทั่วประเทศ 30,000 ร้านค้า ภายในปี 2570 จากร้านค้าโชห่วยทั่วประเทศที่มีตัวเลขอยู่ราวกว่า 400,000 ร้านค้า

โดยร้านค้าโชห่วยที่เหมาะสมกับการปรับเปลี่ยนมาเป็นร้านโดนใจก็คือ ร้านค้าปลีกในชุมชนขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ที่ขายสินค้าให้กับผู้บริโภคโดยตรง ไม่รวมถึงร้านค้าส่งที่ขายสินค้ายกลังให้กับร้านค้าด้วยกัน

ผู้ประกอบการร้านค้าโชห่วย เป็นอีก 1 ฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับ รากหญ้า โดยผู้ประกอบการเหล่านั้น มีจุดอ่อนในเรื่องของการบริหารจัดการ โดยเฉพาะการบริหารสต็อกสินค้าที่ถือเป็นต้นทุนสำคัญ ทำให้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จำนวนร้านค้าโชห่วยทั่วประเทศ ไม่ได้เพิ่มขึ้นจากเดิมมากนัก คือราวกว่า 500,000 ราย เพราะแม้จะมีหลายรายที่เข้ามาทำธุรกิจ แต่ก็มีไม่น้อยที่ต้องเลิกไป

บีเจซี จึงทำโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อการช่วยพัฒนาร้านค้าเหล่านั้นให้มีระบบการบริหารจัดการที่ดี ตลอดจนองค์ความรู้ในการบริหารร้านค้าปลีกสมัยใหม่ โดยมีการพัฒนาระบบ POS ขึ้นมาเพื่อเข้าไปช่วยร้านค้าเหล่านั้น พร้อมกับการมีทีมงานเข้าไปช่วยพัฒนาและเพิ่มทักษะในการทำธุรกิจค้าปลีกให้กับผู้ประกอบการเหล่านั้น

เครือข่ายร้านโดนใจมีจุดเด่นตรงที่ผู้ประกอบการโชห่วยสามารถเลือกการลงทุน และเลือกสินค้าที่จำหน่ายได้เอง โดยไม่ต้องแบ่งผลกำไรกับใคร ด้วยงบลงทุนไม่สูงนัก โดยแบ่งรูปแบบของร้านออกเป็น 2 รูปแบบ

คือ รูปแบบแรก บีเจซีที่จะใช้เครือข่ายของบิ๊กซี เป็นคนจำหน่ายสินค้าให้กับร้านค้าในชุมชน พร้อมจัดส่งให้ถึงหน้าร้าน เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการสั่งซื้อสินค้าเข้าร้านให้กับร้านค้า

รูปแบบที่สอง เป็นการนำระบบ POS ที่พัฒนาขึ้นให้เหมาะสมและตอบโจทย์กับการทำธุรกิจของร้านโชห่วย อีกทั้งยังใช้งานง่าย บีเจซีจะเข้าไปปรับปรุงร้านค้าให้มีรูปแบบที่ทันสมัย และดึงดูดลูกค้ามากขึ้น โดยเจ้าของร้านค้าโชห่วยสามารถเลือกขอบเขตการปรับปรุงหรือตกแต่งร้านค้าได้เองตามงบที่ตัวเองเห็นสมควร ทั้งนี้ จะมีค่าใช้จ่ายรายเดือนเป็นค่าบริหารระบบประมาณ 4,000 บาท ต่อเดือน

ส่วนการกระจายสินค้าเข้าร้านโดนใจนั้นจะใช้เครือข่ายสาขาของบิ๊กซีที่มีสาขาขนาดใหญ่กระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 200 สาขา ซึ่งจะเข้ามาช่วยเป็นเครือข่ายในเรื่องของการจัดการสินค้าเข้าร้าน ทำให้มั่นใจได้ว่า จะไม่มีปัญหาในเรื่องของการจัดการเกี่ยวกับสินค้าที่จะนำมาวางขายในร้าน