“แกร็บ” เปิดอินไซต์ผู้บริโภคไทย ย้ำ เทรนด์ “อาหารสุขภาพ” มาแรง

GRAB

“แกร็บ” ยักษ์แพลตฟอร์มออนดีมานด์ดีลิเวอรี่ เจาะอินไซต์ผู้ใช้บริการ “ดีลิเวอรี่” ปี 2565 โต 24% ทั่วทั้งภูมิภาค ขณะที่มูลค่าเฉลี่ยต่อออร์เดอร์เพิ่มขึ้น 17% ทั้งเผยเทรนด์อาหารสุขภาพมาแรง 74% สั่งทุก 2-3 วัน ส่วน 5 เมนูมาแรง “ไก่ทอด-กาแฟ-ส้มตำ-ข้าวซอย-ชาเขียวเย็น”

วันที่ 28 ธันวาคม 2565 รายงานข่าวจาก “แกร็บ” แพลตฟอร์มออนดีมานด์ดีลิเวอรี่ เปิดเผยว่า บริษัทได้จัดทำรายงานเทรนด์ธุรกิจดีลิเวอรี่ปี 2565 (Delivery Trend Report 2022) โดยศึกษาพฤติกรรม และสำรวจความคิดเห็นผู้ใช้บริการ*ที่มีต่อแพลตฟอร์มดีลิเวอรี่กว่า 30,000 ราย ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครอบคลุม 6 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไทย พบว่า ยอดการจัดส่งดีลิเวอรี่บนแพลตฟอร์มแกร็บทั่วทั้งภูมิภาคโตขึ้นถึง 24% ในปี 2565

นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยอุดม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการพาณิชย์ และการตลาด แกร็บ ประเทศไทย เปิดเผยว่า แกร็บ เริ่มจัดทำและเผยแพร่รายงานแนวโน้มการใช้บริการดีลิเวอรี่ประจำปีมาตั้งแต่ปี 2564 และปีล่าสุด 2565 ได้ศึกษาพฤติกรรม และสำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้บริการกว่า 30,000 คน ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ และแหล่งข้อมูลเชิงอุตสาหกรรม พบว่าธุรกิจดีลิเวอรี่ยังมีบทบาทสำคัญต่อผู้บริโภคในปัจจุบัน โดย 7 ใน 10 ของผู้บริโภคระบุว่า การใช้บริการดีลิเวอรี่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเขาไปแล้ว

“ไตรมาส 2 ปี 2565 ยอดการจัดส่งดีลิเวอรี่ผ่านแพลตฟอร์มแกร็บเติบโตขึ้น 24% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่มูลค่าการใช้จ่ายต่อออร์เดอร์ (Basket size) ของแกร็บฟู้ด และแกร็บมาร์ท เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยถึง 17% เมื่อเทียบกับปี 2562”

สำหรับในประเทศไทย 3 เหตุผลหลักที่คนไทยเลือกใช้บริการจัดส่งอาหารดีลิเวอรี่ คือ ความสะดวกสบายในการใช้บริการ การจัดส่งที่รวดเร็วและตอบโจทย์ความต้องการแบบออนดีมานด์ และเป็นตัวช่วยให้พวกเขาสังสรรค์กับเพื่อนและครอบครัวได้ง่ายขึ้น

รายงานดังกล่าวยังตอกย้ำว่าแพลตฟอร์มดิจิทัลได้กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้คน โดยผู้บริโภค 9 ใน 10 คนระบุว่า ชื่นชอบแบรนด์ที่มอบประสบการณ์ ทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ และมองว่าปัจจุบันแอปพลิเคชั่นดีลิเวอรี่ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงจัดส่งอาหารหรือของใช้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้ใช้บริการได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ โดย 88% ของผู้ใช้บริการรู้จักร้านใหม่ ๆ ผ่านการใช้แอปพลิเคชั่นดีลิเวอรี่ และกว่า 90% เปิดใจสั่งสินค้าจากร้านที่ไม่เคยรู้จักอย่างน้อยหนึ่งครั้ง

ด้านผู้ประกอบการหรือเจ้าของร้านลงความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า แพลตฟอร์มดีลิเวอรี่เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น โดย 9 ใน 10 รายของผู้ประกอบการในไทยกล่าวว่า แพลตฟอร์มดีลิเวอรี่เป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยให้ธุรกิจอยู่รอด ขณะที่ 73% ของผู้ประกอบการในภูมิภาคระบุว่า ยอดขายออนไลน์ส่วนใหญ่มาจากบริการแกร็บฟู้ด

นอกจากนี้ แกร็บยังได้เผยอินไซต์ของผู้ใช้บริการแกร็บฟู้ด และแกร็บมาร์ท ที่สะท้อน 3 เทรนด์ที่น่าจับตามองในปีหน้า ได้แก่

  • เทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพได้รับความนิยมมากขึ้น : อาหารเพื่อสุขภาพ รวมถึงอาหารประเภทแพลนต์เบส (plant-based) ไม่ได้ถูกจำกัดความนิยมอยู่แค่ผู้บริโภคเฉพาะกลุ่มอีกต่อไป

74% ของคนไทยระบุว่า ทุก 2-3 วันจะสั่งอาหารเพื่อสุขภาพอย่างน้อย 1 ครั้ง ขณะที่ 2 ใน 5 ของผู้บริโภคเคยลองรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบหลักจากพืช หรือแพลนต์เบสในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา

  • สแน็กและของว่างยามบ่ายมียอดขายเพิ่มขึ้น
    จากรายงานพบว่าคนไทย 2 ใน 5 ทานอาหารว่างหรือขนมขบเคี้ยวอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง และด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายลง ทำให้ผู้คนกลับมาทำงานที่ออฟฟิศมากขึ้น การรับประทานอาหารว่างหรือสแน็กระหว่างวันจึงกลายเป็นกิจกรรมกลุ่มที่เพิ่มสีสันให้กับผู้บริโภค โดย 64% ของผู้บริโภคระบุว่าพวกเขาสั่งอาหารว่างสำหรับทานมากกว่าหนึ่งคนขึ้นไป
  • แพ็กเกจสมาชิกสำหรับผู้ใช้บริการดีลิเวอรี่กำลังมาแรง
    1 ใน 3 ของผู้ใช้บริการดีลิเวอรี่ในปัจจุบันมีการสมัครใช้แพ็กเกจสมาชิก (Subscription) อย่างน้อย 1 แพ็กเกจ เพื่อรับส่วนลดและสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่ามากกว่า นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ใช้บริการที่ใช้แพ็กเกจสมาชิกมีอัตราการสั่งอาหารหรือสินค้าผ่านดีลิเวอรี่บ่อยขึ้นถึง 44% เมื่อเทียบกับผู้ใช้บริการทั่วไป

นอกจากนี้ ยังเปิดเผย 5 เมนูขายดีประจำปีบนแกร็บฟู้ด คือ 1) ไก่ทอด 2) กาแฟ 3) ส้มตำ 4) ข้าวซอย และ 5) ชาเขียวเย็น

ขณะที่กาแฟ คือเครื่องดื่มยอดนิยม : คนไทยนิยมดื่มกาแฟมากกว่าเครื่องดื่มชนิดอื่น ๆ ทุก ๆ 1 นาทีจะมีผู้ใช้บริการสั่งกาแฟผ่านแกร็บฟู้ดถึง 15 แก้ว หรือมากกว่า 7.8 ล้านแก้ว ตลอดทั้งปีเลยทีเดียว

  • 5 สินค้าขายดีบนแกร็บมาร์ท คือ 1) น้ำมันประกอบอาหาร 2) น้ำดื่ม 3) น้ำอัดลม 4) น้ำตาล และ 5) นม
  • ATK กลายเป็นไอเท็มมาแรง : ทุก ๆ 1 นาทีมีคนซื้อชุดตรวจโควิด 1 ชุดผ่านแกร็บมาร์ท หรือมากกว่า 525,000 ชุุดตลอดทั้งปี
  • สินค้าขายดีช่วงปีใหม่ หนีไม่พ้น น้ำอัดลม พิซซ่า ไก่ทอด รวมถึงมันฝรั่งทอดกรอบ

แกร็บ