
“ซัมซุง” กางโรดแมปเครื่องใช้ไฟฟ้าปี’66 รุกหนักทั้งครัวเรือน-งานโครงการ หลังเห็นสัญญาณตลาดฟื้นจากการท่องเที่ยว จัดหนักขยายเวลารับประกันเครื่องซักผ้า-ตู้เย็นยาว 20 ปี หวังย้ำเชื่อมั่น-ยั่งยืน พร้อมเสริมไลน์อัพแอร์รุ่นไฟติ้ง ด้านทีวีโฟกัสสมาร์ทโฮมมาตรฐานใหม่ มั่นใจยอดขายเติบโตระดับเลข 2 หลัก
นางสาวเจนนิเฟอร์ ซอง ประธานบริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวถึงภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าและทิศทางของบริษัทในปี 2566 นี้ว่า ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าปีนี้มีแนวโน้มสดใส และมีโอกาสเติบโตในระดับเลข 2 หลัก หลังจากปี’65 เติบโตประมาณ 5-6% เนื่องจากมีปัจจัยบวกหลายด้าน โดยเฉพาะการฟื้นตัวของอุตฯท่องเที่ยวที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เห็นได้จากดีมานด์ในจังหวัดท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวตั้งแต่ปีที่แล้วเรื่อยมาจนถึงดีมานด์ช่วงปีใหม่ที่สูงขึ้น รวมถึงธุรกิจขนาดเล็กและโครงการอสังหาฯ ด้านที่อยู่อาศัยที่เริ่มลงทุนอีกครั้ง
- เปิดลงทะเบียนแก้หนี้ 1 ธ.ค.นี้ เครดิตบูโรห่วงกู้ซื้อ “รถ-บ้าน” ค้างจ่ายพุ่ง
- จับตาธุรกิจเลิกจ้าง ปิดกิจการ ส่งออกสะดุด-บริษัทยักษ์ย้ายฐาน
- วันหยุดเดือนธันวาคม 2566 เช็กวันหยุด วันสำคัญ วันหยุดยาว-หยุดต่อเนื่อง
ขณะที่ผู้บริโภคเซ็กเมนต์พรีเมี่ยมยังคงมีศักยภาพและจะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของวงการเครื่องใช้ไฟฟ้า หลังผลสำรวจพบว่าผู้บริโภคกลุ่มนี้ยังมีรายได้เพิ่มขึ้น และพร้อมลงทุนกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันและการทำงานอย่าง ฟังก์ชั่นสมาร์ทโฮม ขณะที่กลุ่มผู้บริโภครุ่นมิลเลนเนียลและเจนซี สนใจและมีแบรนด์ลอยัลตี้กับแบรนด์ที่มีสินค้า-การตลาดที่สามารถปรับให้สะท้อนตัวตน-ไลฟ์สไตล์ของตนเองหรือเพอร์ซันนอลไลเซชั่น (personalization) ได้ สะท้อนจากที่ผ่านมาหลายแบรนด์ เช่น หลุยส์ วิตตอง บีเอ็มดับบลิว ต่างหันมาทำสินค้าในรูปแบบนี้
“เชื่อว่าฟังก์ชั่นสมาร์ทโฮมซึ่งครอบคลุม-ใช้งานง่าย การปรับเปลี่ยนดีไซน์-สีสันได้ตามต้องการ และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างการประหยัดไฟ ความทนทานใช้งานได้นาน จะเป็น 3 ปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าของผู้บริโภคในปี 2566 นี้”
ขยายประกันนาน 20 ปี
ด้านทิศทางของบริษัทนั้น ประธานบริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ เปิดเผยว่า เพื่อชิงจังหวะช่วงตลาดฟื้นตัว ปีนี้จะทำตลาดเข้มข้นมากขึ้นทั้งกลุ่มลูกค้าครัวเรือนที่จะโฟกัสกลุ่มพรีเมี่ยม และลูกค้าองค์กรที่จะรุกเข้าสู่โครงการที่อยู่อาศัย ซึ่งต่างเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อและมีความต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ในปีนี้ ด้วยทัพสินค้าใหม่กว่า 100 รายการ ที่จะทยอยเปิดตัวตลอดทั้งปี ซึ่งจะมี 3 จุดแข็งที่สอดคล้องกับเทรนด์ของตลาดคือ ระบบสมาร์ทโฮม ดีไซน์ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามใจลูกค้า และความยั่งยืน-เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมโหมทำตลาดและการสื่อสารเพื่อเน้นย้ำจุดขายเหล่านี้ ตามเป้าชิงส่วนแบ่งตลาดเพิ่มในทุกกลุ่มสินค้า
โดยกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน จะมีไฮไลต์เป็นการขยายระยะเวลารับประกัน มอเตอร์เครื่องซักผ้าฝาหน้า ฝาบน เครื่องซักอบผ้าและเครื่องอบผ้า รวมถึงมอเตอร์อินเวอร์เตอร์ของตู้เย็น นาน 20 ปี ซึ่งนับว่ายาวนานที่สุดในตลาดประเทศไทย ทั้งนี้เพื่อตอบโจทย์ทั้งด้านความยั่งยืนของสินค้า และย้ำความเชื่อมั่นในแบรนด์ไปพร้อมกัน
นอกจากนี้ยังเพิ่มความหลากหลายของสินค้าในไลน์ Be spoke ที่สามารถปรับเปลี่ยนสีสันและดีไซน์ได้ตามที่ลูกค้าต้องการ เช่น สีหน้าบานประตูตู้เย็น ด้วยการเพิ่มสินค้าอื่นนอกเหนือจากตู้เย็นเข้ามา รองรับเทรนด์เพอร์ซันนอลไลเซชั่น
เพิ่มรุ่นไฟติ้ง-โฟกัสสมาร์ทโฮม
กลุ่มแอร์ที่ขยายไลน์สินค้าโมเดลวินฟรีซึ่งเดิมอยู่ในระดับพรีเมี่ยม โดยเพิ่มรุ่นระดับเริ่มต้นที่ราคาจับต้องง่าย เริ่มต้นประมาณหมื่นบาท และส่งแอร์แบบฝังฝ้ารุกกลุ่มบ้านขนาดใหญ่ และลูกค้าองค์กรอย่างโครงการที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน ธุรกิจค้าปลีก หลังปีที่แล้วแอร์วินฟรีมียอดขายเติบโตถึง 30% ส่วนยอดขายกลุ่ม B2B เติบโตถึง 40% สะท้อนถึงดีมานด์และศักยภาพของสินค้าทั้ง 2 ตัว
การมุ่งรองรับลูกค้ากลุ่มแมสนี้ไปในทิศทางเดียวกับสินค้าอื่น เช่น เครื่องซักผ้า ที่จะนำเทคโนโลยีจากรุ่นระดับบนมาใส่ในรุ่นระดับแมสเพื่อสร้างความคุ้มค่า ส่วนไลน์ Be spoke จะมีตู้เย็นแบบ 2 ประตูหลากหลายขึ้น รวมไปถึงกำลังศึกษาการขยายระยะเวลาผ่อนสินค้าเพื่อช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ง่ายขึ้นด้วย หลังสถานการณ์ต้นทุนสินค้าและค่าเงินบาทมีแนวโน้มดีขึ้น ทำให้มีช่องว่างสำหรับทำกลยุทธ์กระตุ้นการขายได้มากขึ้น
สำหรับทีวีจะโฟกัสระบบสมาร์ทโฮม ชูจุดเด่นความสะดวกของทั้งผู้ที่มีระบบสมาร์ทโฮมอยู่แล้วและผู้ใช้ใหม่ โดยทีวีรุ่นปี 2566 สามารถเชื่อมต่อ-ควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮมทั้งของซัมซุงและแบรนด์อื่น ๆ ได้ตามมาตรฐาน Matter ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ของตลาด
นอกจากนี้ยังอาศัยเทคโนโลยีสมาร์ทโฮมในการใส่โหมดประหยัดพลังงานเพิ่มเข้าไปในสินค้าหลายรุ่น สามารถลดค่าไฟได้เฉลี่ย 40% ซึ่งตอบโจทย์ทั้งของลูกค้าครัวเรือนและผู้พัฒนาอสังหาฯที่เริ่มหันมาสนใจใส่ระบบสมาร์ทโฮมในโครงการของตนมากขึ้น โดยจะเน้นสินค้า 3 กลุ่ม คือ QLED, QD-OLED ที่เด่นด้านภาพและเสียงสำหรับกลุ่มพรีเมี่ยม และ Lifestyle TV ที่เน้นดีไซน์และสามารถปรับเปลี่ยนองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น กรอบได้ ตอบโจทย์เพอร์ซันนอลไลเซชั่น
“ด้วยทัพสินค้าใหม่และกลยุทธ์การตลาดที่มุ่งตอบโจทย์ผู้บริโภคทั้งครัวเรือนและลูกค้าองค์กร จะช่วยให้ปี 2566 นี้ ยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านระดับพรีเมี่ยมเติบโต 2 เท่า ส่วนกลุ่มภาพและเสียงตั้งเป้าการเติบโตที่ 17% และในภาพรวมรายได้ของซัมซุงคาดว่าจะเติบโตระดับเลข 2 หลักแน่นอน” นางสาวเจนนิเฟอร์ ซอง ย้ำ