CPN รุกแผน 5 ปี เตรียมเปิดตัว 4 โครงการใหม่ ภายในปี 2567

เซ็นทรัลพัฒนา ประกาศความสำเร็จ รายได้ประจำปี 2565 โตทะลุเป้า เดินหน้ารุกแผน 5 ปี

เซ็นทรัลพัฒนา เผย ธุรกิจโตทะลุเป้า รายได้รวม 37,155 ล้านบาท พร้อมเดินหน้ารุกแผน 5 ปีพัฒนา Retail-Led Mixed-Use Development เตรียมเปิดตัว 4 โครงการใหม่ ภายในปี 2567

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บัญชี และบริหารความเสี่ยงของเซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า ผลประกอบการประจำปี 2565 ของบริษัทฯ ฟื้นตัวดีต่อเนื่องกลับมาสู่ระดับใกล้เคียงกับปี 2562 ก่อนเกิดวิกฤตโควิด ด้วยปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจไทย การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในช่วงปลายปีที่กลับมาคึกคัก และตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมาตรการช่วยเหลือและกระตุ้นการจับจ่ายของทั้งภาครัฐและเอกชน

โดยเซ็นทรัลพัฒนา ก็ได้จัดแคมเปญส่งท้ายปี สร้างปรากฏการณ์ระดับโลก ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ เพื่อดึงดูดทราฟฟิก ส่งเสริมยอดขายให้กับผู้เช่าและพันธมิตร และคืนกำไร มอบความสุขให้ลูกค้าทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยว อาทิ แคมเปญ Embracing Happiness 2023 ที่จับมือกับพันธมิตรระดับโลก LINE FRIENDS และงาน Bangkok & Thailand Countdown 2023 เอ็นเตอร์เทนเมนต์เคาท์ดาวน์ระดับโลก จนได้รับการขนานนามเปรียบเป็น Time Square of Asia

โรงแรมใหม่ ‘GO! Hotel’ บ่อวิน ชลบุรี

ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เดินหน้าขยายธุรกิจในรูปแบบ “Retail-Led Mixed-Use Development” ได้สำเร็จตามแผน โดยในไตรมาส 4 ปี 2565 เปิดตัวโครงการใหม่ ได้แก่ โรงแรม GO! Hotel บ่อวิน ชลบุรี Premium Budget Hotel

รวมทั้งเปิดขายโครงการที่อยู่อาศัย 5 โครงการ ได้แก่ คอนโดแนวสูง ESCENT VILLE ฉะเชิงเทรา สุพรรณบุรี และ ESCENT ตรัง และโครงการบ้านเดี่ยว 2 โครงการ คือ NIRATI เชียงใหม่ และ NINYA ราชพฤกษ์

อีกทั้งเปิดให้บริการ at work ที่อาคารเซ็นทรัลเวิลด์ ออฟฟิศ ซึ่งเป็นพื้นที่ flex space for work and lifestyle purposes ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ hybrid work ยุคใหม่ด้วย facilities ที่อำนวยความสะดวกสำหรับการทำงานครบครัน พร้อมพื้นที่อเนกประสงค์สำหรับจัดงานอีเว้นต์ทุกรูปแบบ อาทิ งานสัมมนา Workshop Townhall Art Exhibitions และงานแถลงข่าว เป็นต้น

เตรียมเปิด 4 โครงการใหม่

สำหรับโครงการใหม่ เตรียมเปิดในปีนี้ ได้แก่ เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ มูลค่ารวมกว่า 6,200 ล้านบาท และคอมมูนิตี้มอลล์ Marché Thonglor (Market Place Thonglor เดิม) ซึ่งจะเปิดให้บริการในเดือนมีนาคม 66 นี้

นอกจากนี้ ยังมีอีก 2 โครงการมิกซ์ยูสโมเดลใหม่ เซ็นทรัล นครสวรรค์ และ เซ็นทรัล นครปฐม รวมมูลค่า 14,000 ล้านบาท ที่จะเปิดให้บริการประมาณ ไตรมาส 1-2 ปี 2567 โดยตั้งเป้าให้ทั้ง 2 โครงการ ปั้นเมืองศักยภาพแห่งใหม่ ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน พร้อมทั้งพาคู่ค้าเติบโตขยายสาขาไปทั่วประเทศ

4 โครงการใหม่ของ เซ็นทรัลพัฒนา

ทั้งนี้ในปี 2566 บริษัทฯ อยู่ในระหว่างการศึกษาการให้เช่าสินทรัพย์เพิ่มเติมแก่กองทรัสต์ CPNREIT ซึ่งบริษัทฯ วางแผนที่จะดำเนินการในครึ่งหลังของปี 2566 โดยรายละเอียดจะมีการแจ้งเพิ่มเติมในลำดับถัดไป

ปัจจุบัน เซ็นทรัลพัฒนา บริหารจัดการศูนย์การค้ารวมทั้งหมด 39 โครงการ ได้แก่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 37 แห่ง (ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 15 โครงการ ต่างจังหวัด 21 โครงการ และในมาเลเซีย 1 โครงการ) ศูนย์การค้าเอสพลานาด 1 แห่ง และศูนย์การค้าเมกา บางนา (ภายใต้กิจการร่วมค้าอีก 1 แห่ง) และคอมมูนิตี้ มอลล์ 17 โครงการ มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 2.3 ล้านตารางเมตร นอกจากนี้ ยังบริหารศูนย์อาหาร 33 แห่ง อาคารสำนักงาน 10 อาคาร โรงแรม 4 แห่ง โครงการที่พักอาศัย 28 โครงการ

ประกอบด้วย คอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ ESCENT, ESCENT  VILLE, ESCENT PARK VILLE, PHYLL และ BELLE GRAND RAMA 9 และโครงการแนวราบภายใต้แบรนด์ ESCENT TOWN (ทาวน์โฮม) ESCENT AVENUE (โฮมออฟฟิศ) NINYA (บ้านแฝด) NIYAM (บ้านเดี่ยวระดับลักชูรี่) และโครงการแนวราบหลากหลายรูปแบบภายใต้แบรนด์ NIRATI ที่เชียงใหม่ เชียงราย บางนา และดอนเมือง นอกจากนี้ ยังมีโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” big project ที่ร่วมพัฒนากับบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะทยอยเปิดให้บริการในปี 2567 เป็นต้นไป

รุกแผน 5 ปี

สำหรับทิศทางธุรกิจในระยะ 5 ปี (ปี 2565-2569) บริษัทฯ เดินหน้าลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ทั้งที่ประกาศไปแล้วและยังไม่ได้ประกาศ ซึ่งมีทั้งโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสม (Retail-Led Mixed-use Development) โครงการโรงแรมและที่พักอาศัย รวมถึงแผนการปรับปรุงสินทรัพย์ที่มีอยู่ในปัจจุบันเพื่อเพิ่มมูลค่า รวมทั้งบริหารจัดการค่าใช้จ่ายและลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อเตรียมพร้อมกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน

รวมทั้งยังคงศึกษาโอกาสการลงทุนธุรกิจในรูปแบบอื่น การเข้าซื้อกิจการ และการลงทุนในต่างประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ มาเลเซีย และเวียดนาม รวมถึงศึกษาโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง เพื่อขยายช่องทางในการสร้างรายได้ใหม่และสอดคล้องกับแผนการเติบโตตามเป้าหมายในอนาคตอย่างมั่นคงและยั่งยืน