เปิดรายได้ธุรกิจชาบูบุฟเฟต์ 5 แบรนด์ดังในไทย

เปิดรายได้ ธุรกิจชาบูบุฟเฟต์ 5 แบรนด์ดังในไทย
ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก สุกี้ตี๋น้อย

กระแสธุรกิจชาบูบุฟเฟต์ ยังคงนิยมต่อเนื่อง ด้วยราคาที่คุ้มค่า-หลากหลาย-ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ พร้อมเปิดรายได้ 5 ร้านชาบูแบรนด์ดังในไทย 

วันที่ 13 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากจะพูดถึงธุรกิจร้านอาหารที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในยุคสมัยนี้ หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้นร้านอาหารประเภทบุฟเฟต์ ซึ่งธุรกิจประเภทนี้จะเน้นความคุ้มค่าในแง่ของปริมาณ โดยยึดเอาคำว่า อิ่มไม่อั้นเป็นหลัก และในแง่ของความหลากหลายของเมนูอาหารให้ลูกค้าได้เลือกสรรกันตามใจชอบ จึงถือเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

เช่นเดียวกับ ธุรกิจชาบูบุฟเฟต์ ในช่วงที่ผ่านมาถือว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยพฤติกรรมของคนไทยที่หันมาสนใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น ซึ่งอาหารประเภทต้ม หลาย ๆ คนก็มองว่า ทานง่าย และดีต่อสุขภาพมากกว่าอาหารประเภทปิ้งย่าง รวมทั้งมีความคุ้มค่าในเรื่องของราคา ปริมาณ และมีความหลากหลาย

“ประชาชาติธุรกิจ” จึงรวบรวมร้านชาบูบุฟเฟต์ในไทยมาให้ดูกันว่า ชาบูบุฟเฟต์ในไทยช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีรายได้เป็นยังไงบ้าง

เพนกวิน อีท ชาบู

เพนกวิน อีท ชาบู ดำเนินการภายใต้ บริษัท เพนกวินกรุ๊ป จำกัด เปิดให้บริการมานานกว่า 7 ปี โดยปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 6 สาขา โดยตอนนี้ไลน์บุฟเฟต์ชาบูแบบนั่งทานที่ร้าน จะมีตั้งแต่เซ็ท Standard ราคา 359+ บาท Silver ราคา 559+ บาท Gold ราคา 659+ บาท และ Platinum ราคา 899+ บาท

โดยรายได้ของเพนกวินกรุ๊ป ย้อนหลัง 3 ปี มีรายได้ดังนี้

2562 : รายได้ 48,277,132.13 บาท กำไรสุทธิ 77,250.59 บาท

2563 : รายได้ 66,564,005.32 บาท กำไรสุทธิ 206,231 บาท

2564 : รายได้ 45,587,798.46 บาท ขาดทุนสุทธิ 4,930,074.75 บาท

สุกี้ตี๋น้อย 

สุกี้ ตี๋น้อย ดำเนินการภายใต้บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นร้านชาบู สุกี้ ระดับแมส ที่คนไทยนิยมรับประทานอีกร้านหนึ่ง ที่สามารถอร่อยได้ไม่อั้นตั้งแต่เที่ยงวันยันเช้า ในราคาประหยัดเพียง 219 บาท ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั้งหมด 42 สาขา ในกรุงเทพฯและปริมณฑล

โดยรายได้ของบี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ ย้อนหลัง 3 ปี มีรายได้ดังนี้

2562 : รายได้ 499,398,408.21 บาท กำไรสุทธิ 15,434,118.00 บาท

2563 : รายได้ 1,223,054,910.46 บาท กำไรสุทธิ 140,289,201.65 บาท

2564 : รายได้ 1,572,275,766.23 บาท กำไรสุทธิ 147,996,920.87 บาท

Mo-Mo-Paradise

Mo-Mo-Paradise ดำเนินการภายใต้บริษัท โนเบิล เรสเตอท์รองต์ จำกัด ซึ่งเป็นร้านชาบูบุฟเฟต์ระดับแมส-พรีเมี่ยม ที่มีจุดขายคือชาบูที่มีรสชาติความเป็นญี่ปุ่น และบริหารวัตถุดิบด้วยการมีเมนูเพียงไม่กี่เมนูให้เลือก แต่เป็นเมนูที่มีคุณภาพ โดยปัจจุบันโมโม่พาราไดซ์มี 25 สาขา รวมทั้งโนเบิล เรสเตอท์รองต์ จะมีร้านอาหารอยู่ 2 แบรนด์คือ โมโม่พาราไดซ์ ที่เป็นบุฟเฟต์ และ Nabezo Premium ชาบูระดับพรีเมียม

โดยรายได้ของโนเบิล เรสเตอท์รองต์ ย้อนหลัง 3 ปี มีรายได้ดังนี้

2562 : รายได้ 764,372,071.58 บาท กำไรสุทธิ 49,981,992.23 บาท

2563 : รายได้ 781,883,741.89 บาท กำไรสุทธิ 85,214,939.28 บาท

2564 : รายได้ 871,608,039.58 บาท กำไรสุทธิ 72,657,335.64 บาท

You & I Premium Suki Buffet

You & I Premium Suki Buffet ดำเนินการภายใต้บริษัท ยู แอนด์ ไอ กรุ๊ป จำกัด โดยปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั้งหมด 17 สาขา ซึ่งจะเป็นสุกี้ระดับพรีเมี่ยม ในราคาที่เอื้อมถึงแถมคุ้มค่า เพราะมีเมนูให้เลือกหลากหลาย และยังใช้วัตถุดิบชั้นดี เนื้อพรีเมี่ยม ในราคาเริ่มต้น 498+ บาท ไปจนถึง ราคา 1,398+ บาท

โดยรายได้ของยู แอนด์ ไอ ย้อนหลัง 3 ปี มีรายได้ดังนี้

2562 : รายได้ 338,372,730.92 บาท กำไรสุทธิ 5,499,711.43 บาท

2563 : รายได้ 275,979,877.35 บาท ขาดทุนสุทธิ 26,304,071.57 บาท

2564 : รายได้ 232,699,485.64 บาท ขาดทุนสุทธิ 18,032,146.50 บาท

HOT POT

HOT POT ดำเนินการภายใต้ บริษัท เจซีเค ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นร้านอาหารสุกี้ชาบู บุฟเฟต์ที่ครองใจคนไทยมานานกว่า 21 ปี ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั้งหมด 61 สาขา ในราคาเริ่มต้น 399 บาท

โดยรายได้ของเจซีเค ฮอสพิทอลลิตี้ ย้อนหลัง 3 ปี มีรายได้ดังนี้

2562 : รายได้ 1,397,250,977 บาท ขาดทุนสุทธิ 158,403,786 บาท

2563 : รายได้ 701,368,486 บาท ขาดทุนสุทธิ 142,014,696 บาท

2564 : รายได้ 440,122,446 บาท ขาดทุนสุทธิ 257,590,181 บาท