หลังจาก “ต็อด ปิติ ภิรมย์ภักดี” ทายาทเจน 4 ค่ายเบียร์สิงห์ ได้โพสต์ข้อความว่า “มิติใหม่” พร้อมภาพฝูงชนที่แห่ไปต้อนรับ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ที่ตระเวนขอบคุณประชาชนผ่านเฟซบุ๊ก Piti Bhirombhakdi (19 พ.ค.) รวมทั้งได้ตอบคำถามบรรดาแฟนคลับที่เข้ามาคอมเมนต์และถามความเห็นเกี่ยวกับสุราเสรี-สุราก้าวหน้าว่า
…”ผมเห็นด้วยมาแต่เริ่มแล้วครับ”
…”เรื่องสุราก้าวหน้าผมว่าเรื่องเล็กเทียบกับความคาดหวังจากสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นครับ” ฯลฯ
วันถัดมา “เท่า-เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร” ว่าที่ ส.ส.จากพรรคก้าวไกล หนึ่งในผู้ที่มีบทบาทในการผลักดัน “สุราเสรี” ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Taopiphop Limjittrakorn ข้อความส่วนหนึ่งระบุว่า
“สายลมแห่งความเปลี่ยนแปลงได้พัดมาถึงแล้ว ผมขอออกมาขอบคุณพี่ต๊อดอีกครั้งครับที่แสดงความเห็นสนับสนุนนโยบาย #สุราก้าวหน้า มาโดยตลอด”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ “ต็อด-ปิติ” ทายาทเบียร์สิงห์ ที่แสดงความเห็น “สนับสนุน” สุราก้าวหน้า-สุราเสรี
หากยังจำกันได้ เมื่อต้นปี 2560 ที่ “เท่า-เท่าพิภพ” ถูกเจ้าหน้าที่สรรพสามิตบุกจับ หลังพบว่าเขาผลิตเบียร์ขายโดยไม่มีใบอนุญาต และถูกศาลสั่งจำคุก 2 ปี แต่ให้รอลงอาญา ปรับ 5,500 บาท
ครั้งนั้น “ต็อด” ก็โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กว่า อยากให้ทำเรื่องขอใบอนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมาย และแนะให้มาคุยปรึกษาได้
นอกจากนี้ หากย้อนกับไปเมื่อสัก 5-6 ปีที่ผ่านมา ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ “คราฟต์เบียร์” กำลังเริ่มบูม “บุญรอดบริวเวอรี่” ในฐานะผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมเบียร์ไทย ได้เข้ามามีบทบาทในการสนับสนับผู้ประกอบคราฟต์เบียร์อย่างเต็มตัว
โดยเมื่อช่วงปลายปี 2560 ค่ายบุญรอดฯ ได้ริเริ่มโครงการที่มีชื่อว่า “อิสระ อะคาเดมี” (ISARA Academy) ด้วยความร่วมมือกับชมรมผู้ผลิตคราฟต์เบียร์ไทย (Thai Brewer Association)
โดยโครงการนี้เป็นการเปิดอบรมให้ความรู้แก่ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์อย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การผลิตที่ได้มาตรฐานการตลาด การจำหน่าย บรรจุภัณฑ์ ตลอดจนเรื่องกฎหมาย โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
และที่ตั้งชื่อโครงการ “อิสระ” หมายถึง “ไม่ขึ้นกับใคร” เพื่อจะบ่งบอกว่านี่คือสถาบันอิสระที่ให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีการผลิตเบียร์ เป็นหลักสูตรที่เปิดกว้างสำหรับผู้ผลิตคราฟต์เบียร์ทั่วไป
อิสระ อะคาเดมี เริ่มเปิดสอน-อบรมรุ่นแรก เมื่อช่วงต้นปี 2561 ถึงปัจจุบันเปิดอบรมให้ผู้สนใจและผู้หลงใหลในคราฟต์เบียร์จบหลักสูตรไปแล้ว 4 รุ่น ๆ ละ 12 คน
สำหรับผู้ผ่านการฝึกอบรมรุ่น 1 ล้วนเป็นผู้ก่อตั้งและเจ้าของแบรนด์คราฟต์เบียร์ อาทิ แบรนด์ Yaksa, Wizard Beer, Stone Head, Look-Krung, Tripple Pearl รวมทั้ง “เท่า-เท่าพิภพ” ที่ตอนนั้นมีฐานะเป็น เจ้าของร่วม Bad Taste Cafe และเจ้าของร้านคราฟต์เบียร์ Taopiphop Ale Project ก็เป็น 1 ใน 12 คนที่สำเร็จหลักสูตรในรุ่น 1
ตลอดการอบรมแต่ละรุ่น จะมีทีมบรูว์มาสเตอร์ของบุญรอดที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีการผลิตเบียร์ ฯลฯ มาเป็นวิทยากรให้ความรู้ โดยหลักสูตรการอบรมเป็นไปอย่างเข้มข้น ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ มีการทำเวิร์กช็อปการทำแบรนดิ้ง
“อาชิระวัสส์ วรรณศรีสวัสดิ์” กรรมการ บริษัท ไอเอสทีบี จำกัด ในฐานะประธานชมรมผู้ผลิตคราฟต์เบียร์ไทย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “จริง ๆ แล้ว ที่ผ่านมาโครงการได้เปิดรับสมัครรุ่น 5 ไปแล้ว แต่พอดีว่าช่วงนั้นมีโควิด-19 เกิดขึ้น เบรกการอบรมไว้ก่อน ล่าสุดเมื่อกลางเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ได้หารือกันกับผู้รับผิดชอบโครงการ และคาดว่าจะเริ่มเรียก 12 คน ที่ผ่านการคัดเลือกเข้ามาอบรมในเร็ว ๆ นี้”
ที่ผ่านมา ไม่เฉพาะการสนับสนุนโครงการ อิสระ อะคาเดมี ในนามค่ายสิงห์ และต็อด ปิติ ที่ประกาศสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยและการแจ้งเกิดคราฟต์เบียร์อย่างชัดเจน สำหรับ “สันติ ภิรมย์ภักดี” แม่ทัพใหญ่บุญรอดเองก็ให้ความสำคัญกับโครงการนี้ สะท้อนจากภาพที่ “บิ๊กตุ่ม” ได้ลงมาร่วมฟังการเสนอผลงานของผู้เข้ารับการอบรมด้วยตัวเอง พร้อมกับให้คำแนะนำผู้เข้ารับการฝึกอบรมอย่างเป็นกันเอง
สิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะสะท้อนรูปธรรมของการสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยของค่ายสิงห์ได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ บุญรอดฯ ยังคาดหวังด้วยว่า โครงการนี้จะช่วยยกระดับกระบวนการผลิตให้ตลาดแข่งขันกันด้วยสินค้าที่มีคุณภาพ และผู้บริโภคก็จะมีทางเลือกเครื่องดื่มที่มีคุณภาพ ช่วยส่งเสริมตลาดเบียร์ไทยให้เปิดกว้างขึ้น และทำให้ไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมเบียร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ไม่ยาก
รวมทั้งช่วยสร้างรายได้จากการเติบโตของธุรกิจให้กับประเทศด้วย