คอลัมน์ : Market Move
ศึกชิงส่วนแบ่งเม็ดเงินในตลาดยาลดน้ำหนัก ซึ่งคาดกันว่าจะมีมูลค่ามหาศาลกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3.45 ล้านล้านบาท ภายในปี 2573 นั้นยังไม่มีท่าทีจะจบลงง่าย ๆ เมื่อบริษัทยาทั่วโลกยังคงเตรียมตบเท้าเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยไม่หวั่นว่าจะต้องสู้รบปรบมือกับรายใหญ่ของวงการอย่าง อิไล ลิลลี่ หรือ โนโว นอร์ดิสค์ ที่ครองตลาดแบบกึ่งผูกขาดอยู่
ซีเอ็นบีซี รายงานว่า สภาพกึ่งผูกขาดของตลาดยาลดน้ำหนักโลกที่เดิมมีผู้เล่นเพียง 2 รายคือ อิไล ลิลลี่ และโนโว นอร์ดิสค์ อาจจะเปลี่ยนเป็นศึกตะลุมบอนในอีกไม่นานนี้ เมื่อบริษัทยาทั้งรายใหญ่และรายกลางต่างส่งสัญญาณการเตรียมตัวเข้ามาร่วมชิงเม็ดเงินในตลาด ซึ่งนักวิเคราะห์ของวอลล์สตรีต เจอร์นัล บางรายเก็งว่าจะเติบโตก้าวกระโดดจนมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3.45 ล้านล้านบาท ภายในปี 2573
ขณะที่นักวิเคราะห์ของ โกลด์แมน แซกส์ คาดว่าในปีเดียวกันนั้นลำพังในสหรัฐอเมริกาจะมีผู้ใหญ่จำนวนถึง 15 ล้านคนต้องใช้ยารักษาเบาหวาน ซึ่งกลุ่มนี้เป็นฐานลูกค้าของยาลดน้ำหนักเช่นกัน
นอกจากนี้การคาดการณ์ในอนาคตแล้ว สถานการณ์ในช่วงที่ผ่านมายังสะท้อนถึงดีมานด์และโอกาสของบริษัทยารายอื่น ๆ เมื่อเกิดสภาพสินค้าขาดตลาดต่อเนื่องตลอดทั้งช่วงปี 2566 ที่ผ่านมา หลังในสหรัฐอเมริกามีผู้ต้องการใช้ยาตัวนี้จำนวนมาก โดยไม่หวั่นกับทั้งตัวเลขราคาและผลข้างเคียง หรือแม้แต่การที่ประกันสุขภาพบางแพ็กเกจไม่ครอบคลุมการใช้ยาตัวนี้ จนผู้เล่นรายใหญ่ทั้ง 2 รายไม่สามารถเร่งกำลังผลิตให้เพียงพอกับความต้องการได้
และแม้อิไล ลิลลี่ กับโนโว นอร์ดิสค์ ต่างประกาศขยายกำลังการผลิตในปีนี้ เช่น แผนลงทุนมูลค่า 8.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐของโนโว นอร์ดิสค์เพื่อขยายโรงงานในเดนมาร์กและฝรั่งเศส แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าจะยังไม่พอกับความต้องการ เนื่องจากอาจต้องรอจนถึงปี 2568-2572 สายการผลิตใหม่เหล่านี้จึงจะเดินเครื่องได้เต็มกำลัง ส่วนอิไล ลิลลี่ แม้จะอยู่ระหว่างเดินหน้าสร้างโรงงานใหม่ในรัฐนอร์ทแคโรไลนาและรัฐอินเดียนนาของสหรัฐ แต่ “เดวิด ริกส์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอิไล ลิลลี่ กล่าวว่า ปัญหากำลังผลิตยังต้องแก้ไขกันอย่างต่อเนื่อง และระดับกำลังผลิตปัจจุบันยังไม่น่าพอใจ
ปัญหาซัพพลายไม่เพียงพอกับดีมานด์นี้ เป็นโอกาสให้ผู้เล่นรายอื่นในวงการยาพยายามรุกเข้าสู่ตลาดด้วยการพัฒนาสินค้าของตนขึ้นมา เพื่อส่งสินค้าเข้ารับดีมานด์ที่ล้นอยู่ และสร้างรายได้จากกระแสฮิตสไตล์น้ำขึ้นต้องรีบตัก
สำหรับกลุ่มผู้เล่นใหม่ที่เตรียมโดดเข้าร่วมวงในปีนี้และอนาคตอันใกล้นั้น มีทั้งไฟเซอร์และแอมเจน (Amgen) ซึ่งต่างกำลังทดลองยาลดน้ำหนักสูตรของตนเองอยู่ รวมถึงรายอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นรายใหญ่ชื่อดังอย่าง โรชและแอสตร้าเซนเนก้า ไปจนถึงผู้เล่นระดับกลางอย่าง อัลติมูน (Altimmune) และรายเล็ก ๆ อีกหลายรายทั่วโลก
ปี 2567 นี้จะเป็นจังหวะสำคัญของไฟเซอร์ หลังเมื่อปลายปี 2566 ยักษ์บริษัทยาต้องตัดใจยกเลิกการพัฒนายาลดน้ำหนักแบบเม็ด 1 ใน 2 สูตรของตน เนื่องจากการทดลองในมนุษย์พบว่ามีผลข้างเคียงสูงจนไม่ปลอดภัย จึงต้องเดิมพันกับสูตรเดียวที่เหลืออยู่ โดยไฟเซอร์ระบุว่า ผลทดลองขั้นกลางของยาตัวนี้จะออกมาในช่วงครึ่งปีแรก และจะนำมาใช้ตัดสินว่าจะพัฒนาขั้นสุดท้ายต่อไปหรือไม่ หากไม่สามารถพัฒนาต่อได้อาจต้องอาศัยการเข้าซื้อกิจการผู้ผลิตยารายอื่นแทน
ส่วนแอมเจนมีแผนเปิดเผยผลการทดลองระยะกลางของยาลดน้ำหนัก แบบฉีดของตนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ หลังการทดลองระยะแรกให้ผลน่าพอใจ
ด้านบริษัทอื่น ๆ แม้จะยังไม่มียาอยู่ในกระบวนการทดลอง แต่อาศัยยุทธศาสตร์เข้าซื้อกิจการ หรือเข้าเป็นพันธมิตรกับบริษัทผลิตยาเบาหวาน หรือยาลดน้ำหนักอื่น ๆ เพื่อเข้าถึงโนว์ฮาวด้านนี้ ตัวอย่างเช่น โรช เล็งทุ่มงบฯ 2.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐซื้อกิจการ คาร์มอต เทราพิวติก ผู้ผลิตยาสัญชาติสหรัฐ ส่วนแอสตร้าเซนเนก้าเซ็นสัญญาพันธมิตรกับแอคโคจีน บริษัทด้านไบโอเทคโนโลยีสัญชาติจีน เพื่อร่วมมือกันพัฒนายาเบาหวานแบบทาน
แม้แต่รายหลักอย่างโนโว นอร์ดิสค์ เองก็เดินสายช็อปกิจการ หรือหาพันธมิตรจากวงการผู้ผลิตยาเบาหวาน เพื่อมาเสริมแกร่งโพซิชั่นเจ้าตลาดเช่นกัน โดยผู้บริหารของโนโว นอร์ดิสค์ ระบุว่า บริษัทเพิ่มความเข้มข้นในการเฟ้นหานวัตกรรมจากผู้พัฒนารายอื่น ๆ เพื่อมาเสริมแกร่งนวัตกรรมและขยายไลน์สินค้าของบริษัท โดยเฉพาะด้านโรคเบาหวาน โรคอ้วน และโรคหัวใจ-หลอดเลือด ไปจนถึงโรคหายากเกี่ยวกับเลือดอื่น ๆ โดยเปิดกว้างสำหรับความร่วมมือทางธุรกิจทุกรูปแบบ ตั้งแต่ซื้อกิจการถึงการเป็นพันธมิตร
ขณะที่บริษัทรายเล็กแสดงท่าทีเปิดรับความร่วมมือจากรายใหญ่ ตัวอย่างเช่น อัลติมูน ซึ่งเปิดเผยว่ากำลังหาพันธมิตรมาร่วมพัฒนาและผลักดันยาเบาหวานแบบฉีดที่บริษัทพัฒนาขึ้น และเพิ่งผ่านการทดลองระยะกลางเมื่อปลายปีที่แล้ว
ระหว่างที่ผู้เล่นรายอื่น ๆ เตรียมเข้าร่วมการแข่งขันนี้ โนโว นอร์ดิสค์ ก็พยายามเดินเกมล่วงหน้าไปอีกขั้น ด้วยการส่งยาลดน้ำหนักของบริษัทเข้ารับการประเมินจากหน่วยงานอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาและยุโรปเพื่อใช้กับผู้ป่วยโรคหัวใจ โดยขณะนี้อยู่ในการทดลองระยะสุดท้าย ซึ่งหากได้รับอนุญาตให้ใช้กับโรคหัวใจได้ทั้งในสหรัฐและยุโรป อาจสร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหม่ให้กับวงการยา
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างทดลองขั้นสุดท้ายของการใช้ยาลดน้ำหนักในการรักษาภาวะไตวายในผู้ป่วยเบาหวานที่ป่วยโรคไตเรื้อรังอีกด้วย
ไปในทิศทางเดียวกับ อิไล ลิลลี่ ซึ่งทดลองใช้ยาลดน้ำหนักของบริษัทในการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจ โดยอยู่ระหว่างการทดลองทางคลินิกในกลุ่มผู้ป่วยเบาหวานที่มีความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจสูง คาดว่าจะมีผลการทดลองออกมาในช่วงปลายปีนี้ รวมถึงอยู่ระหว่างทดลองใช้ในผู้ป่วยโรคอ้วนที่มีความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคหัวใจด้วย โดยอาจมีผลการทดลองออกมาในปี 2570
ส่วนยาลดน้ำหนักอีกตัวของอิไล ลิลลี่ ที่เริ่มวางขายในตลาดสหรัฐอเมริกาเมื่อปีที่แล้วนั้น นักวิเคราะห์จากหลายสำนักต่างคาดการณ์ไปในทางเดียวกันว่า จะกลายเป็นยาระดับบล็อกบัสเตอร์ด้วยการทำยอดขายมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.46 หมื่นล้านบาทตัวใหม่ได้ในปีนี้ โดยมอร์แกน สแตนลีย์ คาดว่ายาตัวนี้จะสามารถสร้างยอดขายได้กว่า 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนแบงก์ออฟอเมริกาคาดว่าจะทำยอดขายได้ถึง 2.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และบางรายยังคาดไปถึงว่าอาจสามารถขึ้นแท่นเป็นยาขายดีตลาดกาลได้ด้วย
ความพยายามของเหล่าบริษัทยาทั้งรายใหญ่และรายเล็กที่จะเข้าสู่ตลาดยาลดน้ำหนักนี้ น่าจะทำให้ปี 2567 และอนาคตอันใกล้อีก 3-5 ปี ตลาดยาลดน้ำหนักกลายเป็นหนึ่งในสมรภูมิที่ดุเดือดและคึกคักไปด้วยสินค้าจากผู้เล่นมากหน้าหลายตา ซึ่งอาจเป็นข่าวดีของทั้งผู้บริโภคและผู้ป่วยที่จะมีตัวเลือกมากขึ้น จึงต้องรอดูกันว่าสินค้าจากแต่ละรายจะมีจุดแข็งอย่างไรกันบ้าง