ตรุษจีนรักษ์โลกกระแสแรง “ท็อปส์” ลุยชิงเค้ก 4.9 หมื่นล้าน

จักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล
จักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล

ท็อปส์มั่นใจตรุษจีนปี’67 จับจ่ายโตต่อเนื่อง 5-10% หลังคนรุ่น 30 อัพ หันร่วมงานพร้อมกล้าจับจ่ายของไหว้มากขึ้น คาดชุดไหว้แบบวันสต็อป-รักษ์โลกมาแรง ลุยปูพรมชุดของไหว้ราคา 400-6.9 พันบาท พร้อมเปิดพรีออร์เดอร์แต่ไก่โห่ หวังกวาดทุกระดับกำลังซื้อ ก่อนผนึกหมอช้างร่วมทัพพรีเซ็นเตอร์ตอบโจทย์สายมู มั่นใจยอดขายโตดับเบิลดิจิต

นายจักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ดรีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัลรีเทล ฉายภาพการจับจ่ายช่วงตรุษจีนปี 2567 ซึ่งตรงกับวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ว่า จะมีเม็ดเงินสะพัดประมาณ 47,250-49,500 ล้านบาท หรือมากกว่าปี 2566 ซึ่ง ม.หอการค้าไทยประเมินว่ามีการจับจ่าย 45,000 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 5-10% โดยวันที่ 7-8 กุมภาพันธ์ จะเป็นช่วงที่การจับจ่ายคึกคักมากที่สุด เนื่องจากของไหว้มักเป็นของสด ผู้บริโภคจึงนิยมหาซื้อของไหว้ก่อนวันไหว้ (วันที่ 9 กุมภาพันธ์) เพียง 1-2 วันเท่านั้น

ส่วนปัจจัยที่หนุนการเติบโตของการจับจ่ายช่วงตรุษจีนปีนี้จะเป็นการที่กลุ่มคนรุ่นใหม่อายุประมาณ 30-34 ปี หันมาร่วมพิธีไหว้เทพเจ้าในช่วงตรุษจีนกันมากขึ้น ต่างจากเดิมที่จะเป็นกลุ่มคนอายุ 35-55 ปี ทำให้ฐานผู้บริโภคกว้างขึ้น ขณะเดียวกันผู้เข้าร่วมเทศกาลโดยรวมยังมีแนวโน้มลงทุนกับของไหว้มากขึ้นด้วย สะท้อนจากข้อมูลการจับจ่ายช่วงตรุษจีน 1-2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งผู้บริโภคเลือกซื้อของไหว้คุณภาพสูงขึ้น เช่นเดียวกับยอดใช้จ่ายต่อใบเสร็จในท็อปส์ที่สูงขึ้นประมาณ 30%

เมื่อรวมกับปัจจัยภายนอก เช่น นโยบาย Easy E-Receipt ที่ลากยาวถึง 15 กุมภาพันธ์, กระแสสายมูซึ่งกำลังมาแรง รวมไปถึงความพยายามกระตุ้นยอดขายของแบรนด์-ร้านค้า และการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว จึงเชื่อว่าจะทำให้การจับจ่ายช่วงตรุษจีนพุ่งสูงขึ้น

ส่วนสินค้าที่มีดีมานด์สูงและรูปแบบการจับจ่ายของผู้บริโภคในช่วงตรุษจีนปี 2567 นี้ จากการเก็บข้อมูลพบว่า นอกจากของไหว้ที่ทั้งถูกต้องตามประเพณีและมีคุณภาพแล้ว ยังต้องมีองค์ประกอบที่ตอบโจทย์ด้านเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนด้วย เช่น บรรจุภัณฑ์กระดาษ การจัดชุดให้มีปริมาณที่สามารถทานหมดได้ไม่เหลือทิ้ง เช่นเดียวกับความสะอาดและความปลอดภัยให้เหมาะกับการนำมาทานหลังไหว้แล้ว เป็นต้น

ขณะเดียวกันผู้บริโภคยังต้องการความสะดวกในการหาซื้อสินค้า เนื่องจากมีเวลาซื้อหาของไหว้เพียง 2 วันคือ 7-8 กุมภาพันธ์ ทำให้ทุกปีจะเกิดภาพผู้บริโภคจำนวนมากพากันไปหาซื้อสินค้าในช่องทางต่าง ๆ จนแน่น ทำให้หลายรายอาจไม่ได้สินค้าตามต้องการหรือต้องใช้เวลามากกว่าปกติ

ทั้งนี้ สะท้อนจากสัดส่วนยอดขายของกลุ่มสินค้าที่ขายในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีที่ผ่านมา แบ่งเป็น กลุ่มเนื้อสัตว์และกลุ่มอาหารทะเล คิดเป็น 44% กลุ่มผักและผลไม้ 24% และกลุ่มอื่น ๆ อีก 32% นอกจากนี้ ยอดขายแบบสั่งซื้อล่วงหน้าหรือพรีออร์เดอร์ สินค้าตรุษจีน
ของท็อปส์ยังเติบโตขึ้น 38.4% เช่นเดียวกับการซื้อแบบแชตสั่งผ่านไลน์ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด
ส่วนสินค้าที่ความต้องการลดลงจะเป็นกลุ่มธูปและกระดาษสำหรับเผา เนื่องจากผู้บริโภคใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จึงพยายามเลี่ยงพฤติกรรมที่ก่อมลพิษอย่างการจุดธูปและเผากระดาษลง

สำหรับยุทธศาสตร์ของท็อปส์ ในช่วงตรุษจีนปีนี้ บริษัทจะชูโพซิชั่นการเป็น วันสต็อปช็อปปิ้งสำหรับสินค้าช่วงตรุษจีน ไม่ว่าจะเป็นของไหว้หลากหลายรูปแบบ จับมือ หมอช้าง-ทศพร ศรีตุลา ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโหราศาสตร์มาเป็นพรีเซ็นเตอร์และแนะนำการเลือกของไหว้ ไปจนถึงนำอาหารจีนจากร้านดังในเยาวราชมาวางจำหน่าย ในแคมเปญ DISCOVER CHINA’S BEST 2024 ค้นพบมหัศจรรย์พลังมงคล

ทั้งนี้ เริ่มเปิดให้สั่งจองชุดไหว้ล่วงหน้าได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้-5 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ท็อปส์ ออนไลน์ และบริการผู้ช่วยช็อปส่วนตัว หรือช็อปด้วยตัวเอง ที่ท็อปส์ และท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ ทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม-13 กุมภาพันธ์ 2567

“ด้วยยุทธศาสตร์เหล่านี้มั่นใจว่าจะทำให้ยอดขายของท็อปส์ในช่วงตรุษจีนเติบโตในระดับเลขสองหลักได้อย่างแน่นอน” นายจักรกฤษณ์ย้ำ