“ยูนิโคล่” ขย่มหนักฟาสต์แฟชั่น ลุยออมนิแชนเนล ขนสินค้าใหม่ขยายฐาน

กางแผน “ยูนิโคล่” กางแผนบุกฟาสต์แฟชั่น ประกาศผสมผสาน ออนไลน์-ออฟไลน์ ชู O2O เป็นหัวหอก พร้อมเดินหน้าขยายสาขา-เพิ่มพื้นที่ ควบคู่ทยอยเปิดโมเดลโรดไซด์สโตร์ ขนคอลเล็กชั่นใหม่-สินค้าใหม่ ขยายฐานลูกค้า ตั้งเป้าขึ้นแท่นเบอร์ 1 ฟาสต์แฟชั่นเมืองไทย

ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ตลาดฟาสต์แฟชั่น (fast fashion) เมืองไทยมีการแข่งขันที่รุนแรงอย่างต่อเนื่อง มี “อินเตอร์แบรนด์” จากทั่วทุกมุมโลกยกทัพเข้ามาทำตลาดมากกว่า 10 แบรนด์ จนมูลค่าทะยานกว่า 3 หมื่นล้านบาท (ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา) และถือเป็นตลาดเกิดใหม่ (emerging market) ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง โดย “ยูนิโคล่” เป็นแบรนด์ฟาสต์แฟชั่นระดับโลก ที่เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยยุคแรกตั้งแต่ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และประสบความสำเร็จในแง่ของยอดและการสร้างแบรนด์ แต่จากกระแสของเทคโนโลยีดิสรัปชั่นและการระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นรายนี้ต้องเร่งปรับตัวในหลาย ๆ มิติ

โควิด-19 เปลี่ยนโลกแฟชั่น

นางเขมจิรา เทศประทีป ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันการระบาดของโควิด-19 เป็นตัวเร่งที่ผลักดันให้วงการแฟชั่นให้เข้าสู่ดิจิทัลมากขึ้น โดยแบรนด์ต่าง ๆ ต้องปรับตัวเร็วขึ้นและค้นหาแนวทางใหม่ ๆ ให้การพัฒนาธุรกิจ อาทิ การปรับรูปแบบและดีไซน์ของออนไลน์แพลตฟอร์มให้ใช้งานง่ายมากขึ้น ตัวเลือกการชำระเงินในรูปแบบไร้เงินสด (cashless) หรือการใช้เทคนิคในการถ่ายภาพเพื่อให้ผู้บริโภคเห็นดีไซน์เสื้อผ้าได้ทั้งตัว ตลอดถึงการโพสต์ขายบนช่องทางออนไลน์เพื่อให้ลูกค้าได้ตัดสินใจเลือกซื้อง่ายขึ้น

นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังส่งผลให้สังคมหันมาให้ความสำคัญกับสิ่งต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อถึงกันและกัน และหันมาใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น แบรนด์เสื้อผ้าจึงจำเป็นต้องปรับแนวทางการดำเนินงานให้เป็นมิตรต่อโลก เพราะผู้บริโภคในปัจจุบันนอกจากจะเลือกซื้อสินค้าโดยอิงจากคุณภาพ ราคา ความชื่นชอบแล้ว ผู้คนจำนวนมากยังให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่มีจุดยืนด้านสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ด้วยรูปแบบการใช้ชีวิตและวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปยังกระตุ้นให้ผู้คนให้ความสำคัญกับเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย และสามารถใช้ได้ในหลากหลายโอกาส เหมาะสำหรับทั้งการทำกิจกรรมในบ้าน นอกบ้าน สำหรับทั้งการทำงานและการพักผ่อน

เปิดเกมรุก O2O

นางเขมจิรากล่าวต่อไปว่า สำหรับแนวทางการดำเนินงานหลักของบริษัทในปีนี้จะยังคงมุ่งเน้นการสร้างการรับรู้ของแบรนด์อย่างต่อเนื่อง และตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในทุกกลุ่มลูกค้า นอกจากนี้ยังมีการผสมผสานกลยุทธ์ทางการตลาดที่เน้นทั้งอีคอมเมิร์ซและการจำหน่ายสินค้าที่หน้าร้าน เพื่อช่วยเติมเต็มช่องว่างในการบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะมีการนำกลยุทธ์ O2O มาใช้ในกิจกรรมส่งเสริมการขาย เปิดตัวสินค้า นำการไลฟ์สตรีมมิ่งเป็นตัวช่วยหลักในการสื่อสารไปยังลูกค้าในช่องทางออนไลน์ เพื่อทำให้ลูกค้าได้เห็นสินค้าเสมือนอยู่ที่ร้าน และช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้เป็นจำนวนมาก

ส่วนช่องทางหน้าร้านหรือออฟไลน์ บริษัทจะยังคงจะเน้นการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในโมเดลที่หลากหลาย เพื่อให้เหมาะกับพฤติกรรมของลูกค้าในแต่ละโลเกชั่นเพื่อให้ลูกค้าได้มีโอกาสสัมผัสและทดลองสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ พร้อมทั้งนำเสนอแคมเปญอย่างต่อเนื่อง ในการดึงลูกค้าให้กลับมาซื้อสินค้าอยู่เสมอ

“ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญของยูนิโคล่ และปีนี้จะเป็นอีกปีหนึ่งที่น่าสนใจของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และเป็นโอกาสที่จะขยายตลาดผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากคนอาจต้องใช้เวลาอยู่ที่บ้านกันมากกว่าเคยและหลายคนอาจต้องทำงานที่บ้านในระหว่างที่โควิดยังไม่คลี่คลาย” นางเขมจิราย้ำและกล่าวว่า

ทั้งนี้ ยูนิโคล่มีแผนการปรับเปลี่ยนเว็บไซต์ของบริษัทเพื่อให้ลูกค้าใช้งานที่ดียิ่งขึ้น การจัดส่งที่รวดเร็ว สามารถตรวจสอบได้ รวมทั้งการมีบริการใหม่เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน และจะเน้นกลยุทธ์การเชื่อมโลกออฟไลน์และออนไลน์ (O2O หรือ omnichannel) เข้าด้วยกัน เพื่อให้โมเดลการตลาดมีประสิทธิภาพสูงสุด อาทิ การสั่งซื้อสินค้าจากแพลตฟอร์มออนไลน์ แต่สามารถเลือกจ่ายเงินได้ที่หน้าร้าน (click-and-collect) เป็นต้น

ขยายสาขา-เปิดโรดไซด์สโตร์

นางเขมจิรากล่าวต่อไปว่า ยูนิโคล่มีแผนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง หลังจากเปิดร้านในรูปแบบโรดไซด์ ที่ถนนพัฒนาการ ล่าสุดได้เปิดร้านโมเดลนี้เพิ่มที่ย่านนวมินทร์ เมื่อเดือนสิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังปรับปรุงสาขาร้านภายในห้างสรรพสินค้า อาทิ ยูนิโคล่ เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน และแฟชั่น ไอส์แลนด์ ด้วยการเพิ่มพื้นที่ให้มีขนาดใหญ่มากขึ้น เพื่อเพิ่มการบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

พร้อมกันนี้ยังมีการเปิดพื้นที่ในร้าน เพื่อสนับสนุนชุมชนและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ด้วยการเปิดโอกาสให้ชุมชนนำสินค้าท้องถิ่นจัดแสดงสินค้าภายในร้าน อาทิ การนำสินค้าชุมชนจากศูนย์ส่งเสริมฝีมือจักสานด้วยไม้ไผ่ อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี มาตั้งแสดงในร้านสาขาเซ็นทรัล ชลบุรี เป็นต้น

ขณะเดียวกัน ยูนิโคล่จะดำเนินกลยุทธ์ในการประกอบธุรกิจเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกในด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนมากขึ้น เพื่อรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่นอกจากจะเลือกซื้อสินค้าโดยอิงจากคุณภาพ ราคา ความชื่นชอบแล้ว ผู้คนจำนวนมากยังให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่มีจุดยืนด้านสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจน

พร้อมทั้งประกาศนโยบายลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง เพื่อช่วยลดปริมาณขยะ นอกจากนี้ยังได้เปลี่ยนหลอดไฟหน้าร้านเป็นแบบ LED เพื่อช่วยลดการใช้พลังงาน และยังมีโครงการลดการใช้ทรัพยากรในการผลิตเสื้อผ้าอีกหลายโครงการ เช่น การลดปริมาณน้ำในการผลิตยีนส์ การนำขวดพลาสติก PET มาผลิตเป็นเสื้อโปโล DRY-EX เป็นต้น

ขนคอลเล็กชั่นใหม่ขยายฐาน

นางเขมจิรากล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ ยูนิโคล่ยังมีแผนและเตรียมแตกไลน์สินค้า UNIQLO U ในไลน์ของเด็กเพิ่มเติมเป็นครั้งแรก เพื่อเป็นการเสริมพอร์ตและขยายกลุ่มลูกค้า และมีแผนร่วมมือกับบรรดาดีไซเนอร์ชั้นนำจากทั่วโลกเพื่อส่งมอบคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าที่สามารถแสดงถึงตัวตนอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคนได้ อาทิ คริสตอฟ เลอร์แมร์ ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ ของศูนย์วิจัยยูนิโคล่ ในกรุงปารีส ในการสร้างสรรค์คอลเล็กชั่น UNIQLO U ซึ่งจะวางจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมนี้เป็นต้นไป

นอกจากนี้ จากแนวทางการใช้ชีวิตนอกบ้านและในบ้านของผู้บริโภคที่มีการผสานรวมกัน ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่จะหันมามองหาเสื้อผ้าที่ตอบโจทย์การใช้งานในทุกโอกาส สวมใส่สบาย บริษัทจึงมุ่งนำเสนอสินค้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ดังกล่าว เช่น ชุดเสื้อผ้าลำลองสีใหม่ ในลวดลายใหม่ ๆ เป็นต้น สินค้าประเภทชุดเครื่องนอนแอริซึ่ม ที่เพิ่งเริ่มวางจำหน่ายเมื่อปีที่แล้ว รวมถึงนำเสนอคอลเล็กชั่นยูนิโคล่สปอร์ต เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คนที่ต้องอยู่บ้านมากขึ้น


“การทำงานร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ รวมถึงแบรนด์พรีเซ็นเตอร์ ยังเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญของยูนิโคล่ ล่าสุดคอลเล็กชั่นใหม่ในปีนี้ก็มี อุรัสยา เสปอร์บันด์ (ญาญ่า) เป็นตัวแทนนำเสนอความโดดเด่นและฟังก์ชั่นการใช้งานเท็มผ่านไลฟ์สไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคน เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตรงจุด ผ่านการสื่อโซเชียลในการถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านทางแอปพลิเคชั่น เฟซบุ๊ก ไลน์ หรืออินสตาแกรม เพื่อสร้างการเข้าถึงให้มากที่สุด โดยมีเป้าหมายให้ยูนิโคล่เป็นแบรนด์เครื่องแต่งกายอันดับ 1 ของฟาสต์แฟชั่น” นางเขมจิรากล่าว