ถั่งเช่าทำพิษ ยิ่งยง โดนหมายเรียกโฆษณาเกินจริง จ่อขยายผลดาราต่อ

ถั่งเช่าแผลงฤทธิ์ ปคบ. ออกหมายเรียก ยิ่งยง ยอดบัวงาม รับทราบข้อกล่าวหาโฆษณาเกินจริง พร้อมขยายผล กลุ่มดารานักแสดงอวดอ้างสรรพคุณอาหารเสริมเกินจริง

จากกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เข้าจัดการโฆษณาขายผลิตภัณฑ์ถั่งเช่ารายหนึ่งที่มีดารา นักร้อง เป็นพรีเซ็นเตอร์ อวดอ้างสรรพคุณรักษาโรคทางสื่อต่าง ๆ ทำให้ประชาชนเสียโอกาสในการรักษาโรคอย่างถูกต้องนั้น

จากการตรวจพบว่า เป็นโฆษณาผลิตภัณฑ์ถั่งเช่า ผสม มัลติวิตามิน บี (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร) และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สารสกัดถั่งเช่า ผสม ยูซี-ทู (เครื่องหมายการค้า ลีฟเนส) ที่ฝ่าฝืน พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 

ทั้งนี้ ได้สั่งระงับการโฆษณา และดำเนินมาตรการทางปกครองกับบริษัทผู้ผลิตอาหาร ผู้ทำการโฆษณา รวมถึงตัวพรีเซ็นเตอร์ และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยมีหนังสือถึงกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายแล้วนั้น

ล่าสุด พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. เปิดเผยความคืบหน้าว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนกก.4 บก.ปคบ. ได้ออกหมายเรียก นายประยงค์ บัวงาม หรือ ยิ่งยง ยอดบัวงาม นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง และทางบริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ มารับทราบข้อกล่าวหา

ใน 2 ข้อหา ฐานความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 มาตรา 40 ได้แก่

1.ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหารอันเป็นเท็จ หรือเป็นการหลอกลวงให้เกิดความหลงเชื่อโดยไม่สมควร ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท 

2.ข้อหาโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 41 ซึ่งมีโทษ ปรับไม่เกิน 5,000 บาท 

อย่างไรก็ตาม นายยิ่งยง ยังไม่ได้ตอบรับหรือประสานมาทางพนักงานสอบสวนว่าจะเข้ามาพบในวันใด

ส่วนกรณีที่ปรากฎว่าผลิตภัณฑ์ถั่งเช่ามีดารานักแสดงและบุคคลมีชื่อเสียงร่วมเป็นพรีเซ็นเตอร์นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ 

ทั้งนี้ หากพบว่ามีการพูดอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงก็จะต้องประสานไปทาง อย.ให้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ก่อนเรียกกลุ่มดารานักแสดงที่เข้าข่ายมารับทราบข้อกล่าวหาเช่นกัน 

ส่วนกรณีการแจ้งข้อหาเอาผิดพิธีกรสาว “กาละแมร์-พัชรศรี เบญจมาศ” นั้น คาดว่าสัปดาห์หน้าเจ้าตัวจะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน แต่ยังไม่ได้ระบุวันเวลาที่แน่ชัด

ด้าน ภญ.สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ปัจจุบัน อย.ได้อนุญาตให้มีการผสมถังเช่าในผลิตภัณฑ์ 2 ชนิดคือ ยาแผนโบราณ และอาหาร ซึ่งมีปริมาณที่กำหนด 

อย่างไรก็ดี อย.ไม่อนุญาตให้โฆษณาไปในเชิงของการรักษาโรค หรือเข้าข่ายเป็นการโฆษณาเกินจริง 

ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ผสมถังเช่าอยู่มาก แต่มีเพียงไม่กี่รายที่มีการโฆษณาเกินจริง โอ้อวดสรรพคุณรักษาโรคทำให้คนเข้าใจว่าถังเช่าเป็นยาวิเศษ 

แต่ขณะนี้ยังบอกไม่ได้ว่ามีผู้ที่เกี่ยวข้องหรือต้องถูกดำเนินคดีกี่ราย และเป็นใครบ้าง เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องดูทั้งองค์รวมของการโฆษณานั้น ซึ่ง อย.ได้ส่งเรื่องทั้งหมดไปให้ตำรวจดำเนินการต่อแล้ว