จากใจ “พี่ก้อน” ถึงศึกซอสบาร์บีคิว เพราะอะไร “ปลาเล็กต้องสู้ปลาใหญ่”

กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงบนโลกออนไลน์ จากปรากฎการณ์น้ำจิ้มบาร์บีคิว-บาบีก้อน กับร้านสะดวกซื้อชื่อดัง จนกระทั่งผู้บริหารร้านบาร์บีคิว พลาซ่า ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า …เมื่อเราอยู่ในโลกของนายทุนใหญ่ รายเล็ก รายย่อย รายกลาง (อาจ)ย่อมเป็นเหยื่อของรายใหญ่ 

“ประชาชาติธุรกิจ” สัมภาษณ์ “บุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านการสร้างโอกาสทางการตลาด กลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด เจ้าของแบรนด์ บาร์บีคิวพลาซ่า, จุ่มแซบฮัท, ฌานา, โพชา, สเปซ คิว และเรดซัน มาร่วมพูดคุยถึง กรณีศึกษาและกลยุทธ์การต่อสู้จากนี้

ผู้บริหาร “บาบีก้อน” ตั้งคำถาม? หลังเซเว่นฯ วางขายน้ำจิ้มบาร์บีคิว

กรณีน้ำจิ้มบาร์บีคิวที่ถูกพูดถึงในโลกโซเชี่ยลมีเดีย

“บุณย์ญานุช” เริ่มต้นสนทนาว่า การแข่งขันในแง่ของธุรกิจ ถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งถ้ายืนอยู่ในตลาดร้านอาหารเพียงรายเดียว อาจไม่เรียกว่าแข่งขัน ต้องมีธุรกิจอีกกลุ่มที่กระโดดเข้ามาร่วมแข่งในตลาด ส่วนตัวมองว่า การแข่งขันควรอยู่ในมุมที่ควรจะเป็น และตามหลักความถูกต้อง

“ไม่ได้หมายความว่า จะห้ามไม่ให้ก๊อปปี้ น้ำจิ้มบาร์บีคิวพลาซ่า แต่ควรตระหนักในแง่ของคุณค่า เรื่องความคิด ลิขสิทธิ์ต่างๆ ที่บริษัทใช้เวลาสะสมมานาน โดยถ้าเราไปเอาแนวคิดคนอื่นมาเป็นของตัวเอง ถือว่าไม่ถูกต้อง”

เช่นเดียวกับ ข้อความที่สื่อสารออกมาผ่านทางเฟชบุ๊กส่วนตัว ค่อนข้างคิดอยู่นานพอสมควร ว่าควรจะปล่อยให้เหตุการณ์นี้ผ่านไป หรือควรพูดอะไรสักอย่าง ซึ่งในฐานะที่เราเป็นคนทำงาน และตั้งใจผลิตโปรดักส์ขึ้นมา ล้วนมีคุณค่าทางความคิด และมีการลงทุนทั้งแรงกาย แรงใจ ต้องยอมรับว่า เราไม่โอเคถ้าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นในสังคม และหากจะมองเรื่องการแข่งขันจริงๆนั้นทำได้อยู่แล้ว แต่ควรเล่นในเกมที่เหมาะสม เพราะสุดท้ายลูกค้าจะเป็นคนเลือกเอง

ทิศทางการปรับตัว /ต้องสู้เพิ่มขึ้นหรือไม่

“บุณย์ญานุช” เล่าว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นกรณีที่ต้องศึกษาต่อไป อีกด้านทำให้บริษัทเห็นการตอบรับและคำแนะนำจากลูกค้า และต้องนำสิ่งเหล่านี้ มาปรับให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ที่จะเดินต่อ ทั้งด้านโปรดักส์ กิจกรรมต่างๆ แต่คงไม่ถึงขั้น ต้องรื้อแผนงานใหม่ และยังมุ่งเดินตามกลยุทธ์ที่วางไว้

ขณะเดียวกัน บาร์บีคิวพลาซ่า ยังได้พัฒนาและปรับเพิ่มเมนูที่แปลกใหม่มากขึ้น เช่น ยำหมูเด้งน้ำปลาร้า ยำหมูสามชั้นทอดน้ำปลาร้า ขายดีมาก และจากนี้จะเห็นเมนูใหม่ๆเพิ่มขึ้น ที่มาจากการคิดค้นของทีมงาน ต้องใช้เวลากว่า 1ปี ปรับและแก้ไข จนกว่ารสชาติจะถูกปากผู้บริโภค อีกทั้งการเพิ่มเมนูจะช่วย ให้มีอัตราการสั่งถี่ขึ้น และยอดต่อบิลเพิ่มขึ้น เพราะลูกค้ามีตัวเลือกมากขึ้น

“ถือว่าโชคดี ที่ลอนซ์เมนูใหม่ ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ถือเป็นการโอเปอเรชั่น ซ้อมมือ เพื่อศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค โดยจากนี้จะเห็นลูกเล่นใหม่ๆ เข้ามาสร้างสีสันตลาดแน่นอน”

นอกจากนี้  อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ยังเดินหน้าต่อ ล่าสุด เตรียมเปิด “ตลาดนัดที่ GON” ให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี นำสินค้ามาขาย ผ่านเฟชบุ๊ก เพจ “บาร์บีคิวพลาซ่า” โดยไม่มีค่าใช้จ่าย (เริ่มวันที่ 25 มิถุนายน 2564) ถือเป็นครั้งแรกที่ต้องออกมาช่วยผู้ประกอบการด้วยกันเอง เพื่อช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมไทย

จะมีโอกาสเห็นน้ำจิ้มบาร์บีคิวพลาซ่า ออกมาขายในรูปแบบขวดหรือไม่

ต้องยอมรับว่า โปรดักส์น้ำจิ้มบาร์บีคิวพลาซ่า มีจุดขายที่อยู่ในโมเดล Restaurant ถ้าหากต้องเปลี่ยนโมเดลการทำธุรกิจเป็นService Restaurant แล้วขายเพียงโปรดักส์ซอส จะต้องศึกษาในหลายๆด้าน

โดยปีที่ผ่านมา บริษัท ได้ทดลองนำน้ำจิ้มมาจำหน่ายหน้าสาขา และช่องทางเฟชบุ๊ก ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี ตอนนี้อยู่ระหว่างการศึกษาตลาด ถือว่ามีโอกาส และจะช่วยสร้างรายได้ให้เติบโตขึ้น แต่ต้องติดตามในอนาคต เพราะรูปแบบธุรกิจทำมามากกว่า 30ปี อยู่ดีๆจะมาเปลี่ยน เราต้องเรียนรู้ใหม่ในหลายๆเรื่อง เช่น ช่องทางขายสินค้า การทำตลาด ต้องศึกษาให้ดี

อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์นี้ ยอมรับว่า ดีใจ ที่แบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่ามีลูกค้าให้การตอบรับและให้กำลังใจอย่างมาก ท้ายที่สุด เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เราไม่เสียใจ เพราะคิดว่าได้ทำในสิ่งที่ควรทำแล้ว และยังเชื่อว่า อะไรที่มันฆ่าเราไม่ได้…มันจะทำให้เราแกร่งขึ้น