หลังรัฐบาลประกาศกึ่งล็อกดาวน์ มีคำสั่งห้ามนั่งทานอาหารในร้าน เชนร้านอาหารเร่งปรับแผนรับมือคุมเข้มสภาพคล่อง-มุ่งโฟกัสเดลิเวอรี่ พร้อมวอนรัฐบาลช่วยปรับปรุงการสื่อสาร และเข้าเยียวยาผู้ประกอบการอย่างเร่งด่วน
วันที่ 27 มิถุยายน 2564 นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ปจำกัด (มหาชน) เจ้าของแบรนด์ อาทิ ร้านอาหารญี่ปุ่น เซ็น อากะ ร้านอาหารญี่ปุ่น ปิ้งย่าง, มูฉะข้าวหน้าล้น, ออน เดอะ เทเบิล อาหารสไตล์ฟิวชั่น, อาหารตามสั่ง เขียง ฯลฯ เปิดเผย“ประชาชาติธุรกิจ”ว่า จากจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ยังสูง ตลอดจนความเคลื่อนไหวของการกระจายวัคซีนที่ยังมีปัญหา ทำให้บริษัทเตรียมแผนรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน หลังจากที่รัฐบาลมีประกาศกึ่งล็อกดาวน์ และมีคำสั่งห้ามนั่งทานอาหารในร้าน ส่งผลกระทบต่อสาขาที่อยู่ในศูนย์การค้า ที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน ค่าเช่าพื้นที่ และการบริหารจัดการวัตถุดิบที่สต็อกไว้ต้องบริหารจัดการให้ดี
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- “พลังงานไฮโดรเจน” ถูกกว่าน้ำมัน 60% ไทยเริ่มศึกษาแต่ เยอรมัน กำลังจะเลิกใช้
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
ขณะเดียวกัน หลังจากการประกาศกึ่งล็อกดาวน์ รัฐบาลไม่มีแผนช่วยเหลือเยียวยาธุรกิจอาหาร เป็นการผลักภาระให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร โดยกลุ่มที่กระทบหนักคือร้านอาหารรายเล็กๆ ที่ต้องปรับตัวอย่างหนัก เพราะจากการระบาดตั้งแต่ปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันรัฐบาลไม่เคยมีมาตรการออกมาเยียวยา
นายบุญยง กล่าวต่อว่า ถ้าหากมาตรการนี้ลากยาว แน่อนนว่าต้องเกิดความเสียหาย จึงต้องระมัดระวังเรื่องสภาพคล่อง และในแง่ของรายได้คงหายไปกว่า 100 ล้านบาท ดังนั้น จึงต้องหันมาเน้นสาขานอกศูนย์การค้า ทั้งช่องทางเดลิเวอรี่และซื้อกลับบ้าน ควบคู่กับการจัดโปรโมชั่นด้วยราคาที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้
เช่นเดียวกับ นางสาวนัฐธารี พันธุ์เพ็ญโสภณ ทายาทรุ่น 2 ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท โคคา โฮลดิ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เจ้าของร้านอาหารโคคาฯ, แม็งโก้ทรี และข้าวหม้อใหม่ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า รัฐบาลออกมาตรการมาค่อนข้างกะทันหัน ส่วนตัวมองว่า น่าจะมีมาตรการออกมาให้ผู้ประกอบการร้านอาหารเตรียมตัวรับมือได้เร็วกว่านี้
เพราะผลกระทบที่ตามมา คือการจัดการระบบคน พนักงาน และวัตถุดิบอาหารที่ร้านโคคาฯค่อนข้างสต็อกไว้จำนวนมาก เพื่อช่วง 1-2 อาทิตย์ที่ผ่านมา เริ่มเห็นทราฟฟิกของร้านอาหาร ยอดขายเริ่มกลับมา
ต้องยอมรับว่ามาตรการกึ่งล็อกดาวน์ ส่งผลให้บริษัทฯ ต้องปรับแผนใหม่ ทั้งการบริหารจัดการ วัตถุดิบและวางแผนการทำงานของพนักงานในทุกๆสาขาให้บาลานซ์กัน ควบคู่กับ หันมาเน้นขายผ่านช่องทางซื้อกลับบ้านและเดลิเวอรี่ โดยร้านโคคาฯ คลาวด์คิทเช่น สาขาลาดพร้าว ต้องรับมือการขายผ่านเดลิเวอรี่
“สุดท้ายเรารู้อยู่แล้วว่า ศักยภาพรัฐบาลคงไม่สามารถเยียวยาร้านอาหารทั้งรายใหญ่และรายเล็กได้ แต่ควรสื่อสารให้เร็ว ชัดเจน และควรสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนให้ดีกว่านี้”
ด้าน นายภเดช กันตจินดา กรรมการ บริษัท นิตยาไก่ย่าง ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ จำกัด กล่าวกับ”ประชาชาติธุรกิจ” ว่า มาตรการรอบนี้ถือว่ากระทบมาก เพราะร้านอาหารถูกเปิด และปิด มาสองรอบ ส่งผลกระทบในแง่ของรายได้ที่หายไปกว่า50% และทำให้มีความไม่ต่อเนื่อง ทั้งการบริหารจัดงานการ เรื่องวัตถุดิบ ซึ่งในช่วง1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ร้านนิตยาไก่ย่าง สต็อกสินค้าและวัตถุดิบไว้จำนวนมาก เพราะรองรับจำนวนลูกค้าที่เริ่มกลับมานั่งทานที่ร้าน
ขณะนี้ จึงต้องปรับรอบการทำงานของพนักงานให้เหมาะสม และเข้าไปเจรจาขอลดค่าเช่ากับเจ้าของพื้นที่ ควบคู่กับการหันมาให้ความสำคัญในการขายเดลิเวอรี่ และอยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเยียวยา ค่าใช้จ่ายในการดูแลพนักงานเพื่อช่วยแบ่งเบาผู้ประกอบการในวันที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ซึ่งรอบนี้ถือว่ากระทบหนัก
ผู้สื่อข่าวได้สำรวจความเคลื่อนไหวของเฟชบุ๊กเพจของร้านอาหาร ที่เริ่มออกมาแสดงความเห็นต่อมาตรการดังกล่าว เริ่มจากร้านเพนกวิน อีทชาบู ได้ประกาศผ่านเฟชบุ๊กว่า การปรับตัวเป็นสิ่งจำเป็น แต่ไม่ใช่เรื่องสนุก การเสียสละอาจเป็นสิ่งจำเป็น พวกเราร่วมเสียสละกันมาตลอดปีครึ่ง มาวันนี้ พวกเราโดนขอให้เสียสละอีกครั้ง พวกเราก็คงปฏิเสธไม่ได้
ครั้งนี้ ถือว่าหนักมากจริงๆ มากกว่าทุกรอบที่ผ่านมา อาจจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย แต่มันอาจจะเป็น ฟางเส้นสุดท้ายสำหรับใครหลายคนหรือแม้แต่ร้านเพนกวินเองเช่นกัน
เช่นเดียวกับ นางสาวบุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านการสร้างโอกาสทางการตลาด กลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด เจ้าของแบรนด์ บาร์บีคิวพลาซ่า, จุ่มแซบฮัท, ฌานา, โพชา, สเปซ คิว และเรดซัน ได้เขียนข้อความผ่านเฟชบุ๊กส่วนตัว ว่า ประกาศ lock down ตอนเที่ยงคืน มีเวลา 1 วันให้เตรียมตัว
เชื่อว่า การปิดร้านอาหารครั้งนี้อาจเป็นการปิดครั้งสุดท้ายของบางร้าน และได้เรียกประชุมทีมด่วน ในช่วงเช้า (วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน) เพื่อเตรียมความพร้อมที่ถูกสั่งปิดวันพรุ่งนี้ (28 มิถุนายน)