สธ. ปูพรมตรวจเข้มนักท่องเที่ยว 8 ประเทศทวีปแอฟริกา สกัดโอไมครอน

สธ. สั่งเครือข่ายการควบคุมโรคระดับเขต เฝ้าระวังนักท่องเที่ยว 8 ประเทศทวีปแอฟริกา ชี้พบติดเชื้อต้องส่งตรวจแยกสายพันธุ์ หวังสกัดโอไมครอน

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 นายแพทย์เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า วันนี้ (29 พ.ย.) ไทยพบผู้ติดเชื้อใหม่ 4,753 ราย เสียชีวิต 27 ราย และหายป่วย 6,165 ราย

ขณะที่ การฉีดวัคซีนโควิด 19 (ข้อมูล ณ 28 พ.ย.) ฉีดแล้ว 92,360,417 โดส เข็มที่ 1 ครอบคลุม 66% ของประชากร

ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอไมครอน นอกจากทวีปแอฟริกา 8 ประเทศ ได้แก่ นามิเบีย ซิมบับเว บอตสวานา เลโซโท เอสวาตินี โมซัมบิก แอฟริกาใต้ มาลาวี

มีรายงานพบในทวีปยุโรป ได้แก่ อิตาลี เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ อังกฤษ เบลเยียม สาธารณรัฐเช็ก และเดนมาร์ก ทวีปเอเชียพบใน ฮ่องกง และอิสราเอล และทวีปออสเตรเลีย พบในประเทศออสเตรเลีย

ส่วนประเทศไทยยังไม่พบสายพันธุ์ดังกล่าว ซึ่งจากรายงานของผู้เชี่ยวชาญในแอฟริกาใต้ พบว่าผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มักมีอาการเล็กน้อย บางรายมีอาการน้อยกว่าผู้ที่ติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้า

ทั้งนี้ ปัจจุบันหลายประเทศเริ่มปรับมาตรการเข้าประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ สหภาพยุโรป สหภาพอเมริกา แคนาดา อิสราเอล ห้ามชาวต่างชาติจาก 8 ประเทศทวีปแอฟริกาเข้าประเทศ ซึ่งแต่ละประเทศมีมาตรการที่แตกต่างกันออกไป

สำหรับประเทศไทยหลังเปิดประเทศ 1 พ.ย. มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามารวม 122,398 ราย แยกเป็นรูปแบบ Test and Go จำนวน 96,970 ราย Sand box 20,331 ราย และระบบกักตัว 5,097 ราย พบผู้ติดเชื้อรวม 160 ราย คิดเป็น 0.13%

โดยประเทศที่เดินทางเข้ามามากที่สุด ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เยอรมนี สาธารณรัฐเช็ก เนเธอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น เป็นต้น

จากการแพร่ระบาดของโควิดโอไมครอนทำให้ สธ. เพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศมากขึ้น โดยประสานเครือข่ายการควบคุมโรคระดับเขตติดตามนักท่องเที่ยวจาก 8 ประเทศจากทวีปแอฟริกาที่เข้ามาก่อนหน้านี้ หากพบการติดเชื้อจะส่งตรวจแยกสายพันธุ์เพื่อให้รู้สถานการณ์และควบคุมโรคทันท่วงที