สธ.สั่งการทุกจังหวัดรับมือโอไมครอนระบาดระลอกใหม่

ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก CVC กลางบางซื่อ

สธ.สั่งสาธารณสุขทุกจังหวัด-ผู้อำนวยการ รพ.ทั่วประเทศ เตรียมรับมือโอไมครอนระบาดระลอกใหญ่ เข้มมาตรการโควิด ฟรี เซตติ้ง ส่วนการขออนุญาตจัดงานปีใหม่ต้องเคร่งครัด ไม่ปฏิบัติตามต้องยกเลิกงานทันที-ปูพรมวัคซีนประชาชน พร้อมเร่งบูสต์เตอร์เข็ม 4 บุคลากรการแพทย์ให้ครอบคลุม-กระจายจุดฉีดวัคซีนและจุดตรวจ ATK สถานีขนส่ง สถานีรถไฟ และสนามบิน-เพิ่มเตียงโควิด, ASQ, HI, CI รองรับติดเชื้อเพิ่ม

วันที่ 20 ธันวาคม 2564 รายงานข่าวจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้มีการสั่งการในเบื้องต้นไปยังสาธารณสุขจังหวัดและผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั่วประเทศ เตรียมรับมือกับการระบาดของโควิดระลอกใหม่ เนื่องจาก ขณะนี้มีการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นจากโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในหลายประเทศ และเพื่อเป็นการรองรับการระบาดในประเทศ จึงได้ยกระดับ 3 มาตรการป้องกันโควิด ดังนี้

1.กำชับมาตรการ COVID free setting ในพื้นที่ต่าง ๆ และการอนุญาตให้จัดกิจกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะช่วงนี้จนถึงปีใหม่ ต้องเคร่งครัดในมาตรการอย่างมากครับ หากไม่ปฏิบัติตามต้องยกเลิก

2.เร่งรัดการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ตามข้อแนะนำและค้นหาคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโดยเฉพาะกลุ่ม 608 โดยการเพิ่มจุดฉีดและวางแผนการฉีดในกลุ่มเป้าหมาย ทั้งเข็ม 1 และเข็ม 3 ส่วนเข็ม 4 ในบุคลากรทางการแพทย์ รอข้อมูลข้อแนะนำทางวิชาการที่จะแจ้งโดยเร็ว และในช่วงนี้ ขอให้ทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัด sandbox ให้มีจุดฉีดวัคซีนและการตรวจ ATK ในจุดสถานีขนส่งหรือสถานีรถไฟ สนามบิน ในทุกพื้นที่ครับ เพื่อการคัดกรองเฝ้าระวัง

3.การเตรียมการรองรับการติดเชื้อหากมีเพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนโฮมไอโซเลชั่นหรือการกักตัวที่บ้าน (HI), คอมมb;นิตี้ไอโซเลชั่นหรือการกักตัวในชุมชน (CI), สถานที่กักตัวทางเลือก (ASQ) และการเพิ่มเตียงในส่วนของ รพ. ซึ่งขออนุญาตแจ้งทุกจังหวัดดำเนินการด่วน

นอกจากนี้ ข้อสั่งการดังกล่าวยังระบุด้วยว่า หนังสือทางการจะส่งตามมาเร็ว ๆ นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ผ่าน รายการ “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand” ถึงแนวทางการรับมือโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ว่า ได้ให้นโยบายกับผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขแล้วว่า คงให้มีการกลับมาใช้ State Quarantine หรือการกักกันผู้เดินทางทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติเข้ามาภายในประเทศ

โดยกระทรวงสาธารณสุขจะเสนอ ศบค. ให้ยกเลิกการเดินทางเข้าประเทศแบบ Test & Go (T&G) แล้วกลับไปใช้วิธีการกักตัว ซึ่งจะมีการหารือในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากสถานการณ์โอไมครอนรุนแรงมากขึ้น และหลายประเทศได้ยกเลิกจัดเทศกาลปีใหม่แล้ว โดยขณะนี้พบผู้ติดเชื้อโอไมครอนในประเทศแล้ว 63 ราย และขอยืนยันผลอีก 20 ราย จึงจำเป็นต้องเร่งใช้มาตรการดังกล่าวเพื่อยกระดับการรับมือภายในประเทศ

นายอนุทินกล่าวว่า ในจำนวนผู้ติดเชื้อโอไมครอน พบว่า 1 ราย มีโอกาสเข้าข่ายติดเชื้อโอไมครอนรายแรกในประเทศไทย เนื่องจากสามีเป็นนักบิน แต่ภรรยาติดเชื้อ ซึ่งไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนโรคเพิ่มเติม เพื่อยืนยันสมมติฐานดังกล่าว

ส่วนจะมีการยกระดับการป้องกันอื่น ๆ ด้วยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า การควบคุมโรคได้มีการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่น/จังหวัดแล้ว อยู่ที่นโยบายของแต่ละพื้นที่ อย่างกรุงเทพมหานคร ก็อาจต้องพิจารณาเรื่องการจัดกิจกรรมรวมตัวในช่วงเทศกาล หากเห็นว่ามีแนวโน้มเสี่ยงแพร่เชื้อ

ทางด้านแพทย์หญิงสุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงรายละเอียดของผู้ติดเชื้อโอไมครอนในประเทศว่า มีการรายงานรวมกัน 4 กลุ่มหรือ 4 คลัสเตอร์

โดยกลุ่มแรกรายงานมาจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี โดยคลัสเตอร์นี้มีความเชื่อมโยงกับหลายจังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี อยุธยา นครราชสีมา รวมถึงกรุงเทพมหานครด้วย ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไปประกอบพิธีทางศาสนาในประเทศตะวันออกกลาง

กลุ่มที่ 2 เป็นคู่สามีภรรยา ที่มาจากประเทศไนจีเรีย “ถือได้ว่าผู้หญิงที่เป็นภรรยา และมีสามีเป็นชาวต่างชาติถือเป็นรายแรกของผู้ที่ติดเชื้อโอไมครอนในประเทศไทย”

กลุ่มที่ 3 เป็นคลัสเตอร์ที่รายงานจากนราธิวาส มีผู้ป่วย 3 รายที่ตรวจ PCR เป็นบวก ซึ่งมาจากการไปประกอบพิธีทางศาสนาในประเทศตะวันออกกลาง มีผู้ร่วมเดินทาง 133 คน มีผู้ติดเชื้อ 3 ราย

กลุ่มที่ 4 เป็นกลุ่มที่มีการรายงานจากสำนักงานควบคุมโรคเขต 11 มาที่สนามบินสมุยและภูเก็ตจำนวน 7 ราย ทั้ง 7 ราย เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและคนไทย (คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม)