โอไมครอน หวั่นลามทั่วโลก จากการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลคริสต์มาส

โอไมครอน หวั่นลามทั่วโลก จากการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลคริสต์มาส
ภาพจาก pixabay

ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อและหัวหน้าทีมที่ปรึกษาด้านสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกา ชี้ช่วงคริสต์มาสจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโควิดกลายพันธุ์โอไมครอน แม้ในกลุ่มผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว

วันที่ 20 ธันวาคม 2564 มติชน รายงานว่า ดร.แอนโทนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อและหัวหน้าทีมที่ปรึกษาด้านสาธารณสุขของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ไวรัสโควิดกลายพันธุ์โอไมครอนได้แพร่ระบาดไปทั่วโลกแล้ว

“สิ่งหนึ่งที่มีความชัดเจนและไม่ต้องตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับมันคือความสามารถในการแพร่ระบาดและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว จนทำให้โอไมครอนกระจายไปทั่วโลกแล้วในขณะนี้ ขณะที่ในสหรัฐเองก็จะเห็นว่าในบางพื้นที่ที่พบผู้ติดเชื้อเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ก่อนหน้านี้ จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นไปเป็น 30-40% และในบางพื้นที่ก็สูงถึง 50%” เฟาซีกล่าว

เฟาซีกล่าวว่า การเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่กำลังมาถึงจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดกลายพันธุ์โอไมครอน แม้แต่ในกลุ่มผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว

เฟาซีกล่าวด้วยว่า การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของโอไมครอนอาจทำให้ระบบสาธารณสุขสหรัฐได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรงทั่วประเทศ และย้ำว่าผู้คนจำเป็นต้องระมัดระวังด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัยและรักษาระยะห่างทางสังคม พร้อมกับเรียกร้องให้ชาวอเมริกันเข้ารับวัคซีนรวมถึงวัคซีนเข็มกระตุ้น เพราะมีความแตกต่างกันอย่างมากในแง่ความเสี่ยงที่จะเกิดอาการรุนแรงขึ้น

ทั้งนี้ ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกได้เพิ่มมาตรการคุมเข้มเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโอไมครอน โดยในยุโรป ฝรั่งเศสและเยอรมนีก็ประกาศคุมเข้มการเดินทาง ขณะที่เนเธอร์แลนด์บังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส

รัฐบาลของประเทศต่าง ๆ ยังเร่งโครงการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้กับประชาชนในประเทศ หลังผลการวิจัย ล่าสุดชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่าการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นจะช่วยเพิ่มการป้องกันการป่วยหนักได้ถึงราว 85%

สธ.ยกระดับรับมือโอไมครอน

วันที่ 20 ธันวาคม 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ผ่าน รายการ “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand” ถึงแนวทางการรับมือโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ว่า ได้ให้นโยบายกับผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขแล้วว่า คงให้มีการกลับมาใช้ State Quarantine หรือการกักกันผู้เดินทางทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติเข้ามาภายในประเทศ

โดยกระทรวงสาธารณสุขจะเสนอ ศบค. ให้ยกเลิกการเดินทางเข้าประเทศแบบ Test & Go (T&G) แล้วกลับไปใช้วิธีการกักตัว ซึ่งจะมีการหารือในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากสถานการณ์โอไมครอนรุนแรงมากขึ้น และหลายประเทศได้ยกเลิกจัดเทศกาลปีใหม่แล้ว โดยขณะนี้พบผู้ติดเชื้อโอไมครอนในประเทศแล้ว 63 ราย และขอยืนยันผลอีก 20 ราย จึงจำเป็นต้องเร่งใช้มาตรการดังกล่าวเพื่อยกระดับการรับมือภายในประเทศ

นายอนุทินกล่าวว่า ในจำนวนผู้ติดเชื้อโอไมครอน พบว่า 1 ราย มีโอกาสเข้าข่ายติดเชื้อโอไมครอนรายแรกในประเทศไทย เนื่องจากสามีเป็นนักบิน แต่ภรรยาติดเชื้อ ซึ่งไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนโรคเพิ่มเติม เพื่อยืนยันสมมติฐานดังกล่าว

ส่วนจะมีการยกระดับการป้องกันอื่น ๆ ด้วยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า การควบคุมโรคได้มีการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่น/จังหวัดแล้ว อยู่ที่นโยบายของแต่ละพื้นที่ อย่างกรุงเทพมหานคร ก็อาจต้องพิจารณาเรื่องการจัดกิจกรรมรวมตัวในช่วงเทศกาล หากเห็นว่ามีแนวโน้มเสี่ยงแพร่เชื้อ