สธ. เปิดแนวทางก่อนเปิดเทอม เตรียมฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ให้เด็กอายุ 12-17 พร้อมชูมาตรการรณรงค์สงกรานต์ตรวจ ATK ก่อนกลับบ้าน -ก่อนกลับมาทำงาน
วันที่ 12 เมษายน 2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า การเตรียมพร้อมก่อนเปิดเทอม แนะนำให้ผู้ปกครองพาเด็กอายุ 12-17 ปี ที่ได้รับวัคซีน 2 เข็ม เข้ารับวัคซีน ไฟเซอร์ เข็มกระตุ้นเป็นเข็มที่ 3 ขนาดโดสปกติ หรือขนาดครึ่งโดส มีระยะห่างจากเข็ม 2 เป็นระยะเวลาตั้งแต่ 4-6 เดือน ขึ้นไป
- มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล เปิดชื่อผู้ถือหุ้น-ผลประกอบการ
- 10 พฤษภาคม 2567 ขึ้นทางด่วนฟรี 60 ด่าน
- ทีทีบี เสนอขายหุ้นกู้อนุพันธ์แฝง คุ้มครองเงินต้น 100% เปิดจอง 9-15 พ.ค. 67
โดยการฉีดวัคซีนกระตุ้นในเด็กอายุ 12-17 ปี ผ่านมติการประชุมคณะกรรมการการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ครั้งที่ 6/2565 วันที่ 8 เมษายน 2565 จัดระบบการฉีดผ่านสถานศึกษา
สำหรับแนวทางการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็มกระตุ้น ในกลุ่มเป้าหมาย 12 ปีขึ้นไป คือ เริ่มให้บริการฉีดเด็กชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 หรือเทียบเท่าเริ่มดำเนินการพร้อมกันช่วงต้นเดือนพ.ค. 65 ในสถานศึกษา โดยขนาดโดส 15 ไมโครกรัม/โดส ส่วนกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ ที่ต้องให้บริการผ่านระบบสถานพยาบาล ได้แก่
กลุ่มที่เป็นโรคเรื้อรัง ไม่สามารถไปฉีดผ่านสถานศึกษาได้ และกลุ่มนักเรียนนอกระบบสถานศึกษา เช่น Home school และผู้ปงครองที่ต้องการให้บุตรหลานฉีดขนาดตามโดสที่ไม่ได้ระบุในแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
จากการคาดการณ์ผลจากมาตรการป้องกันควบคุมโรค ปี 2565 เปรียบเทียบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ จากฉากทัศน์ ผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรค ลดแยกตัว-กักตัว ฉีดวัคซีนทุกเข็ม 200,000 โดสต่อวัน และยังคงมาตรการต่างๆ โดยประชาชนได้ให้ความร่วมมืออย่างดี
นอกจากนี้ยังเตรียมมาตรการรณรงค์ช่วงสงกรานต์ เริ่มจากการป้องกันโควิด-19 ให้ดำเนินการ ตรวจ ATK ก่อนกลับบ้าน และก่อนกลับมาทำงาน และรณรงค์ให้ลูกหลานพาพ่อแม่และญาติไปฉีดวัคซีน
รวมถึงมาตรการรณรงค์ช่วงสงกรานต์ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจราจร ผ่านมาตรการ 3 ม. ได้แก่ ไม่เมา สมหมวก ใส่แมส ขอความร่วมมือให้ประชาชนปฎิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด
นายแพทย์โอภาส กล่าวต่อว่า รายงานวันที่ 12 เม.ย. 65 อัตราผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 101 ราย แบ่งเป็นปอดอักเสบรุนแรง 96 ราย และไม่ระบุปอดอักเสบ 5 ราย มีประวัติไม่ได้รับวัคซีน 54 ราย ได้รับไม่ครบ 1 เข็มจำนวน 6 ราย
ขณะที่ได้รับเข็ม 2 เกิน 3 เดือน 33 ราย ได้รับเข็ม 2 ไม่เกิน 3 เดือน 2 คน และได้รับ 3 เข็ม 6 ราย โดยพบว่าเป็นกลุ่ม 608 ผู้สูงอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไปกว่า 97% จึงต้องเร่งการฉีดวัคซีนเข้มกระตุ้นในผู้สูงอายุเพื่อเตรียมพร้อมในข่วงเทศกาลสงกรานต์ เพราะวัคซีนสามารถป้องกันผู้สูงอายุเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิดได้ผลดี
สำหรับประวัติการฉีดวัคซีน ขณะนี้ ยังมีประชาชนที่ไม่ได้รับวัคซีน 2.7 ล้านคน จำนวนคนเสียชีวิต 1,589 คน ถัดมาคือกลุ่มที่เพิ่งรับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 0.56 ล้านคน ฉีดวัคซีน 2 เข็ม 5.48 ล้านคน กลุ่มนี้เสียชีวิตลดลง 5 เท่า ฉีดวัคซีน 3 เข็ม 4.47 ล้านคน กลุ่มนี้เสียชีวิตลดลง 31 เท่า และฉีดวัคซีน 4 เข็ม 0.13 ล้านคน รวมเป็น 12.70 ล้านคน