สธ.อัพเดตโรคฝีดาษลิงทั่วโลก ไทยสั่งเฝ้าระวังเข้ม “สุวรรณภูมิ”

ฝีดาษลิง อัพเดต

สธ.อัพเดตสถานการณ์โรคฝีดาษลิงทั่วโลก 5 ประเทศติดเชื้อมากสุด-ไทยเฝ้าระวังสุวรรณภูมิ

วันที่ 27 พฤษภาคม 2565 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เข้มมาตรการคัดกรองที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หากพบผู้เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงมีอาการป่วยให้เฝ้าระวังสังเกตอาการตนเองจนครบ 21 วัน หลังทั่วโลกมีรายงานพบผู้ป่วย 344 ราย

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ข้อมูล ณ วันที่ 26 พฤษภาคม 2565 ทั่วโลกมีการรายงานผู้ป่วยโรคฝีดาษวานร หรือที่เรียกว่าฝีดาษลิง ทั้งหมด 344 ราย หรือเพิ่มขึ้น 35 ราย

โดยประเทศที่มีผู้ป่วยสูง 5 ลำดับแรก ได้แก่ สเปน 120 ราย อังกฤษ 77 ราย โปรตุเกส 49 ราย แคนาดา 26 ราย และเยอรมนี 13 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเพศชายที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้ติดโรค อยู่ในกลุ่มอายุ 20-59 ปี

สำหรับสถานการณ์โรคฝีดาษวานรในประเทศไทย ณ วันที่ 26 พฤษภาคม 2565 ยังไม่พบผู้ป่วยภายในประเทศ แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังและคัดกรองอย่างเข้มงวดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สำหรับผู้ที่มีประวัติเดินทางมาจากประเทศเสี่ยงที่มีการรายงานพบผู้ป่วย ให้เฝ้าระวังสังเกตอาการจนครบ 21 วัน

หากมีอาการเจ็บป่วยให้รีบพบแพทย์ทันที พร้อมแจ้งประวัติการเดินทางให้แพทย์ทราบ และรายงานเข้าสู่ระบบ Thailand Pass เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในประเทศ

ทั้งนี้โรคฝีดาษวานร เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่ม Poxviridae พบได้ในสัตว์หลายชนิดไม่ใช่แค่ลิง พบได้ในสัตว์ตระกูลฟันแทะ เช่น กระต่าย กระรอก หนู และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก เป็นต้น การติดต่อจากสัตว์สู่คนเกิดจากการสัมผัสโดยตรงกับสารคัดหลั่ง หรือตุ่มหนองของสัตว์ที่ติดเชื้อ หรือจากการถูกสัตว์ที่มีเชื้อกัดข่วน การกินเนื้อสัตว์ที่มีเชื้อและปรุงสุกไม่เพียงพอ

ส่วนการติดเชื้อจากคนสู่คนเกิดจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยผ่านทางสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจ หรือผิวหนังที่เป็นตุ่ม

เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายจะมีระยะฟักตัวประมาณ 7-14 วัน หรืออาจนานถึง 21 วัน โดยอาการเริ่มแรกจะมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหลัง ต่อมน้ำเหลืองโต อ่อนเพลีย จากนั้น 1-3 วัน จะมีผื่นขึ้นบริเวณแขนขา ผื่นจะกลายเป็นตุ่มหนอง

ในระยะสุดท้ายจะเป็นสะเก็ดแล้วหลุดออกมา จะมีอาการป่วยประมาณ 2-4 สัปดาห์ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายจากโรคเองได้


ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนหมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำหรือเจลแอลกอฮอล์เมื่อสัมผัสกับสารคัดหลั่งจากสัตว์ พร้อมทั้งรับประทานอาหารที่ปรุงสุกสะอาด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422