
จากกรณีที่ องค์การอนามัยโลก จัดประชุมฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 20 พ.ค. เพื่อหารือเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัส “ฝีดาษลิง” แล้วหลังจากพบการแพร่ระบาดของเชื้อดังกล่าวในยุโรปเกิน 100 รายแล้ว
แต่ผู้เชี่ยวชาญของไทยระบุว่า ไม่ควรตื่นตระหนกกับเชื้อดังกล่าว แต่ควรเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากแอฟริกาตะวันตก และแอฟริกากลาง รวมทั้งการนำสัตว์ต่างถิ่นเข้าสู่ประเทศไทย
- เช็กเงื่อนไขกู้ “ออมสิน” ปลดหนี้นอกระบบ คุณสมบัติผู้กู้ต้องมีอะไรบ้าง ?
- ขั้นตอนลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ ออนไลน์ debt.dopa.go.th ทำอย่างไร
- เช็กเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เข้าบัญชีวันนี้ 5 จังหวัด
วันที่ 20 พฤษภาคม บีบีซีไทย รายงานข้อมูลเกี่ยวกับโรคฝีดาษลิงจากข้อมูลของ หน่วยงานสาธารณสุขอังกฤษสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุขของไทย และองค์การอนามัยโลก
โรคฝีดาษลิงเกิดจากไวรัสฝีดาษลิง ซึ่งอยู่ในตระกูลเดียวกันกับเชื้อไวรัสโรคฝีดาษ หรือไข้ทรพิษ แต่ว่ามีความรุนแรงน้อยกว่ามาก และผู้เชี่ยวชาญระบุว่า มีความเสี่ยงในการติดเชื้อต่ำ

โรคฝีดาษลิงเกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่มพอกซ์วิริเด (Poxviridae) จัดอยู่ในจีนัสไวรัสออร์โธพอกซ์ (Orthopoxvirus) เช่นเดียวกับไวรัสอีกหลายชนิด เช่น ไวรัสวัคซิเนีย (vaccinia virus), ไวรัสฝีดาษวัว (cowpox virus), ไวรัสวาริโอลา (variola virus) เป็นต้น
เชื้อไวรัสฝีดาษลิงเป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์ที่ใกล้เคียงกับเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคฝีดาษคน หรือไข้ทรพิษ ส่วนใหญ่จะพบในพื้นที่ห่างไกลในประเทศทางตอนกลางและตะวันตกของทวีปแอฟริกา ใกล้บริเวณที่เป็นป่าดิบชื้น
โดยมีไวรัสสองสายพันธุ์หลักคือ แอฟริกากลางและแอฟริกาตะวันตก ส่วนใหญ่คนติดโรคฝีดาษลิงจากสัตว์ฟันแทะและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แต่มีโอกาสน้อยในการแพร่จากคนสู่คน
เผยออกอาการหลังติดเชื้อ12วัน
ผู้ป่วยจะแสดงอาการของโรคหลังติดเชื้อประมาณ 12 วัน อาการเบื้องต้นมีหลายอย่าง รวมถึง มีไข้, หนาวสั่น, ปวดหัว เจ็บคอ บวม ปวดหลัง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ,ต่อมน้ำเหลืองโต อ่อนเพลียและซึมเซา
เมื่อไข้ทุเลาลง อาจเกิดผื่นขึ้น มักจะเริ่มจากบนใบหน้าก่อน จากนั้นจะลามไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ส่วนใหญ่จะพบที่ฝ่ามือและฝ่าเท้า

ผื่นนี้อาจจะมีอาการระคายเคืองอย่างรุนแรง และมีการเปลี่ยนแปลงหลายขั้น ก่อนที่ผื่นจะกลายเป็นตุ่มหนอง ในระยะสุดท้ายตุ่มหนองจะเป็นสะเก็ดแล้วหลุดออกมา รอยโรคนี้อาจทำให้เกิดแผลเป็นตามมา
อาการป่วยกินเวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายจากโรคเองได้
เชื้อฝีดาษลิงติดต่อกันอย่างไร
ฝีดาษลิงอาจแพร่กระจายได้เมื่อมีการเข้าใกล้ผู้ติดเชื้อ โดยไวรัสชนิดนี้จะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางรอยแตกบนผิวหนัง ระบบทางเดินหายใจ หรือผ่านทางตา จมูก หรือปาก
โรคฝีดาษลิง พบในสัตว์หลายชนิด โดยเฉพาะสัตว์ตระกูลลิง และสัตว์ฟันแทะหลายชนิด เช่น หนู กระรอก กระต่าย เป็นต้น สัตว์ป่าและสัตว์เลี้ยงรวมทั้งคนก็อาจติดเชื้อได้
คนสามารถติดโรคนี้จากการสัมผัสโดยตรงกับเลือด สารคัดหลั่ง หรือตุ่มหนองของสัตว์ที่ติดเชื้อ หรือจากการถูกสัตว์ที่มีเชื้อกัด หรือการกินเนื้อสัตว์ที่มีเชื้อที่ปรุงสุกไม่เพียงพอ เป็นต้น
การแพร่เชื้อจากคนสู่คนอาจเกิดขึ้นได้จากการสัมผัสใกล้ชิด แต่มีโอกาสน้อยมากในการแพร่จากคนสู่คน
ยังไม่เคยมีการระบุว่า ฝีดาษลิงเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่เชื้อโรคสามารถส่งต่อกันได้ผ่านการสัมผัสกันโดยตรงระหว่างการมีเพศสัมพันธ์
นอกจากนี้เชื้อโรคนี้ยังแพร่กระจายด้วยการสัมผัสกับวัตถุที่ปนเปื้อนไวรัสชนิดนี้ อย่าง ผ้าปูที่นอนและเสื้อผ้า

อัตราการตายสูงอยู่ในกลุ่มเด็กเล็ก
ผู้ติดเชื้อไวรัสนี้ส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง บางครั้งคล้ายกับอาการของโรคอีสุกอีใส (chickenpox) และหายเองได้ภายในไม่กี่สัปดาห์
ฝีดาษลิง อาจมีอาการรุนแรงมากขึ้นได้ในบางกรณี และเคยมีรายงานว่า ทำให้มีผู้เสียชีวิตมาแล้วหลายคนในแอฟริกาตะวันตก
โดยอัตราการตายสูงสุดอยู่ในกลุ่มเด็กเล็ก ซึ่งอาจสูงถึง10%
เคยระบาดบ่อยที่ไหน อย่างไร
มีการพบเชื้อไวรัสนี้ครั้งแรกในลิงที่ถูกขังไว้ และนับตั้งแต่ปี 1970 (พ.ศ.2513) มีรายงานการระบาดเกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ ใน 10 ประเทศของทวีปแอฟริกา
ปี 2003 (พ.ศ.2546) เคยมีการระบาดเกิดขึ้นในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการพบโรคนี้นอกแอฟริกา คนไข้หลายคนติดโรคจากการสัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์คล้ายหนู ที่ติดเชื้อมาจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กหลายชนิดที่มีการนำเข้ามาในสหรัฐฯ รวมแล้วมีรายงานผู้ติดเชื้อจำนวน 81 ราย แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต
ปี 2017 (พ.ศ.2560) ไนจีเรียเผชิญกับการระบาดที่มีหลักฐานบันทึกไว้ขนาดใหญ่ที่สุด ราว 40 ปี หลังจากที่ไนจีเรียพบผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิงที่ได้รับการยืนยันรายสุดท้าย การระบาดครั้งนั้นมีผู้ต้องสงสัยติดเชื้อราว 172 ราย และ 75% ของเหยื่อ เป็นผู้ชายอายุระหว่าง 21-40 ปี
ไม่มีวิธีรักษา-แต่มีวัคซีนป้องกัน
ขณะนี้ไม่มีวิธีรักษาฝีดาษลิง แต่สามารถควบคุมการระบาดได้ด้วยการป้องกันการติดเชื้อ
การรับวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษในคน ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ได้ผล 85% ในการป้องกันฝีดาษลิง และบางครั้งก็ยังคงมีการใช้วัคซีนนี้อยู่ มีรายงานว่า สเปนกำลังเตรียมสั่งซื้อวัคซีนโรคฝีดาษหลายพันโดสเพื่อป้องกันโรคฝีดาษลิง
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า การได้รับวัคซีนหลังสัมผัสกับเชื้อโรคฝีดาษลิง อาจช่วยป้องกันโรคนี้ได้ หรืออาจทำให้มีความรุนแรงของโรคลดลง

ระบาดไม่เหมือนในแอฟริกา
ด้านสำนักข่าว เอพี รายงานคำกล่าวของ โอเยวาลี โมโมรี นักไวรัสวิทยา อดีตผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์ไนจีเรีย และเป็นสมาชิกของหลายคณะกรรมการของ WHO ว่า ประหลาดใจมากที่ปรากฏว่าเชื้อระบาดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาในหลายประเทศยุโรป ทวีปอเมริกาเหนือ ส่วนใหญ่เป็นชายหนุ่มที่ไม่เคยไปทวีปแอฟริกามาก่อน ผิดจากเดิมที่พบว่าเชื้อจจะเกี่ยวข้องกับพื้นที่แอฟริกากลาง และแอฟริกาตะวันตก
“ผมตะลึงมาก ทุกวันที่ตื่นขึ้น ผมจะได้เห็นข่าวว่า มีการพบเชื้อในประเทศต่างๆ เพิ่มขึ้น นี่ไม่ใช่ลักษณะการระบาดแบบที่เราเคยเห็นในฝั่งแอฟริกาตะวันตก” ผู้เชี่ยวชาญกล่าว
ทั้งนี้ ปกติแล้ว ที่ไนจีเรียจะพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง เฉลี่ยปีละ 3,000 คน ส่วนใหญ่ระบาดในพื้นที่ชนบทที่ชาวบ้านใกล้ชิดกับหนูและกระรอก
ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่พบเชื้อแล้วในอังกฤษ สเปน โปรตุเกส อิตาลี สหรัฐอเมริกา สวีเดน แคนาดา จากนั้นเมื่อวันศุกร์ที่ 20 พ.ค. พบเพิ่มที่ ฝรั่งเศส เยอรมนี เบลเยียม ไปจนถึงประเทศในแถบเอเชีย-แปซิฟิกอย่าง ออสเตรเลีย
ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอังกฤษ ตรวจสอบอยู่ว่า เชื้อที่พบในสหราชอาณาจักรแพร่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ด้วยหรือไม่ พร้อมแจ้งให้หมอและพยาบาลตื่นตัวสำหรับกรณีต้องสงสัย แต่ยืนยันว่าความเสี่ยงที่จะระบาดในประชากรทั่วไปยังไม่มี