กรมสุขภาพจิต เปิดสายด่วน 1667 ให้คำปรึกษาการใช้กัญชา

โทรศัพท์
ภาพจาก pexels.com

เปิดสายด่วน 1667 ให้คำปรึกษาการใช้กัญชา สามารถโทร.ขอรับการปรึกษาได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง

วันที่ 14 มิถุนายน 2565 กรมสุขภาพจิตเปิดสายด่วน 1667 ให้คำปรึกษาการใช้กัญชาทางการแพทย์อย่างถูกวิธี โดยไม่เกิดอาการไม่พึงประสงค์ ไม่เสพติด ไม่เกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคทางจิต

แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวว่า แนะนำต้องไม่จำหน่ายแก่บุคคล 3 กลุ่ม ได้แก่ เด็กและเยาวชน สตรีมีครรภ์ มารดาที่ให้นมบุตร นอกจากนี้ ยังต้องระมัดระวังการใช้ในผู้ที่มีโรคเรื้อรังและผู้ป่วยจิตเวชกลุ่มโรครุนแรง เช่น จิตเภท ซึมเศร้า อารมณ์สองขั้ว เพื่อคุ้มครองไม่ให้กลุ่มเปราะบางเหล่านี้เกิดผลข้างเคียงจากการใช้กัญชาทางการแพทย์

โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่มีโอกาสเสพติดมากกว่าผู้ใหญ่ และยังส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของสมอง ระดับสติปัญญา การคิดแบบมีเหตุผลและการยับยั้งชั่งใจ ทั้งในขณะเสพและหลังเสพ จนเกิดอาการทางจิตเวชตามมาได้

ส่วนในหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร สารสกัดจากกัญชาอาจส่งผลต่อเด็กในครรภ์หรือทารกได้

แพทย์หญิงบุญศิริ จันศิริมงคล ผู้ทรงคุณวุฒิและที่ปรึกษากรมสุขภาพจิตกล่าวเพิ่มเติมว่า ฤทธิ์ของสารสกัดจากกัญชาที่มีต่อระบบประสาทสามารถแบ่งได้ 3 กลุ่มอาการ ได้แก่

1) กดประสาท ผลเบื้องต้นทำให้รู้สึกสงบ สุขคนเดียวได้ ง่วงอยากนอน แต่ทำให้ไม่มีแรงจูงใจทำอะไร หากเสพเกินขนาดจะหลับลึก ไม่ค่อยรู้ตัว

2) กระตุ้นประสาท ผลเบื้องต้นทำให้รู้สึกกระชุ่มกระชวย ไม่หิว ไม่เหนื่อย แต่ถ้าได้รับสาร THC มากขึ้นจะกระสับกระส่าย กลัว ตื่นตระหนก หากเสพเกินขนาดหัวใจจะเต้นเร็วมากขึ้นและอุณภูมิร่างกายสูงขึ้น

3) หลอนประสาท ทำให้มีอาการเคลิ้มฝันกลางวัน วิตกกังวล กลัว ไม่อยากออกไปไหน หากเสพเกินขนาดจะทำให้เกิดอาการทางจิต เช่น ยิ้มพูดคนเดียว หูแว่ว หวาดระแวง

ทั้งนี้ กรมสุขภาพจิตได้เปิดสายด่วน “ปรึกษากัญ 1667” เพื่อให้คำปรึกษาในการใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์จากกัญชา -กัญชงอย่างถูกต้องตลอด 24 ชั่วโมง โดยสามารถโทร.ขอรับการปรึกษาได้ฟรี หรือสามารถปรึกษาแพทย์ที่ดูแลรักษาและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อประโยชน์ต่อตัวผู้ป่วยและเกิดประสิทธิภาพในการรักษาอย่างแท้จริง