วิทยาลัยการคุ้มครองผู้บริโภคฯ เสนอรัฐเพิ่มเข้มงวดกัญชา

กัญชา
Photo : Pixabay

วิทยาลัยการคุ้มครองผู้บริโภคฯ เสนอรัฐเพิ่มความเข้มงวดกัญชา พร้อมจัดตั้งกองทุนเพื่อเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย

วันที่ 15 มิถุนายน 2565 วิทยาลัยการคุ้มครองผู้บริโภคด้านยาและสุขภาพแห่งประเทศไทย (วคบท.) ออกแถลงการณ์ เสนอให้หน่วยงาน บุคคล และคณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดนโยบายกฎหมาย และมาตรการ ในการดูแลกำกับกัญชาและผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีกัญชาเป็นส่วนประกอบ ดำเนินการดังนี้

ข้อ 1 ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและคณะกรรมการยาเสพติดให้โทษกำหนดให้สารสกัดจากพืชกัญชา ที่มีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (tetahydrocannabinol, THC) เกินร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนักเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 2 เพื่อให้การควบคุมตามประมวลกฎหมายยาเสพติดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และผู้บริโภคจะได้รับสิทธิในการบริโภคกัญชาอย่างปลอดภัย

ข้อ 2 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ต้องกำหนดมาตรการควบคุมผลิตภัณฑ์สุขภาพทุกประเภทที่มีกัญชาเป็นส่วนประกอบ ในระดับความเสี่ยงสูงสุดขอแต่ละผลิตภัณฑ์เพื่อให้การส่งเสริมผลิตภัณฑ์กัญชาตามนโยบายไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้บริโภค

กรมอนามัยต้องกำหนดให้ร้านอาหารที่ปรุงอาหารโดยมีส่วนประกอบของกัญชา ต้องแจ้งหรือแสดงข้อมูลได้ผู้บริโภครับทราบและเข้าใจอย่างชัดเจนว่ามีกัญชาเป็นส่วนประกอบ คำเตือนกลุ่มที่มีความเสี่ยงไม่ควรบริโภค อาการเป็นพิษหรืออันตราย ข้อปฏิบัติเมื่อเกิดอาการเป็นพิษหรืออันตราย เพื่อประกอบการตัดสินใจบริโภคหรือระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้

ข้อ 3 กระทรวงสาธารณสุขต้องให้มีระบบเฝ้าระวังและติดตามความปลอดภัยในการใช้กัญชาและผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีกัญชาเป็นส่วนประกอบในทุกระดับ โดยเป็นศูนย์เฝ้าระวังและติดตามความปลอดภัยในการใช้กัญชาและผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีกัญชาเป็นส่วนประกอบที่เอื้อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนา ปรับปรุง กฎหมาย กฎระเบียบและมาตรการต่าง ๆ ที่เหมาะสมและทันการณ์เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค

ข้อ 4 กำหนดให้เพิ่มสาระกฎหมายที่เกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้กัญชาและผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของกัญชาในร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ. … เพิ่มมากขึ้น คือ (1) กำหนดห้ามนำมาใช้เพื่อสันทนาการ (2) เพิ่มกรรมการที่มาจากองค์กรคุ้มครองผู้บริโภคที่ไม่แสวงหากำไรและผู้แทนสภาองค์กรของผู้บริโภค (3) เพิ่มบทบัญญัติการประกาศผลการตรวจสอบผลวิเคราะห์ การฝ่าฝืนที่กระทบต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ให้ประชาชนทราบเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค และ (4) เพิ่มการจัดตั้งกองทุนเพื่อเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น