
คอลัมน์ : เทสต์คาร์ ผู้เขียน : วุฒิณี ทับทอง
ถือว่าพกเอาความมั่นใจมาเต็มกระเป๋า สำหรับค่ายฮอนด้า ที่ล่าสุดเพิ่มส่งรถยนต์ ฮอนด้า บีอาร์-วี เจเนอเรชั่นที่ 2 รถยนต์อเนกประสงค์สไตล์สปอร์ตขนาด 7 ที่นั่ง ออกสู่ตลาด
เรียกว่าถ้าเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์แล้ว ทำเอาหลายคนถึงกับต้องร้อง เพราะเชื่อว่าหลายคนรอ…การกลับมาของ ฮอนด้า บีอาร์-วี
- ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจผลรางวัล งวด 1 ธ.ค. 2566
- เช็กเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เข้าบัญชีวันนี้ 5 จังหวัด
- วิธีเช็กเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท chongkho.inbaac.com
แต่เมื่อเห็นค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ส่งรถประเภทนี้ออกสู่ตลาดชนิดที่เรียกว่า จัดเต็มทั้งออปชั่น และราคา ไม่ว่าจะเป็น โตโยต้า เวลอซ ที่มาพร้อมอาวุธครบมือ, มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ หรือเเม้แต่ ซูซูกิ เอ็กซ์แอล 7 ต่างก็ปรับโปรดักต์ หวังเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ตรงใจมากที่สุด
ทันทีที่ฮอนด้า เปิดราคา 9.17 -9.77 แสนบาท
ทำเอาหลายคนแอบถอนหายใจ
แต่เชื่อว่าฮอนด้า ต้องมีความมั่นใจมาระดับหนึ่ง ด้วยเป้าหมายขอขาย 3,000 คัน ภายในระยะเวลา 12 เดือน นับจากเปิดตัว
ไม่รอช้า ฮอนด้า จัดทริปทดสอบ “บีอาร์-วี” ออกสตาร์ตจากสำนักงานย่านบางชัน มุ่งหน้า สู่ จ.สระบุรี ไป-กลับระยะทางรวม ๆ 280 กิโลเมตร
ขาไป… “ประชาชาติธุรกิจ” ขอสัมผัสกับความเปลี่ยนแปลงและความสะดวกสบายห้องโดยสารก่อน ด้วยการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “JETLINE CROSS” หรือเสมือนนั่งเครื่องบินเจ็ต ที่เน้นความกว้างขวาง สะดวกสบาย
บีอาร์- วี รุ่นที่เราทดสอบกันวันนี้เป็นรุ่นท็อป ภายในห้องโดยสารตกแต่งในโทนสีดำคอนโซลแบบเปียโน แบล็ก
เบาะนั่งเป็นเบาะหนังเเท้ และหนังสังเคราะห์ ให้ผิวสัมผัสค่อนข้างสบาย โอบกระชับ ส่วนที่นั่งผู้โดยสารแถวที่ 2 และแถว 3 ขึ้น-ลง เข้า-ออก ได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยจุดเด่นที่สามารถปรับพับได้หลายรูปแบบ ตามความต้องการใช้งาน และการเก็บสัมภาระ
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ช่วยให้การรับ-วางสายโทรศัพท์ และการควบคุมเครื่องเสียงเป็นเรื่องง่าย
ส่วนมาตรวัดแสดงข้อมูลการขับขี่ที่ชัดเจนจากหน้าจอ ขนาด 4.2 นิ้ว, หน้าจอหลักเป็นระบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว สามารถรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto มาให้ มีจุดเชื่อมต่อ USB ด้านหน้า มาให้ 2 จุด
แต่น่าเสียดายไปนิด แทนที่ฮอนด้าจะเลือกใส่จุดชาร์จไฟแบบไร้สายเข้ามา แต่บีอาร์-วี เวอร์ชั่นนี้ ยังไม่มีมาให้
ส่วนระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารมีมาให้ อยู่บริเวณด้านบนของแถวที่นั่งแถวที่ 2 ทำหน้าที่ส่งความเย็นไปในส่วนห้องโดยสารด้านหลังได้ทั่วถึง พร้อมด้วยจุดชาร์จไฟสำรองให้อีก 3 จุด
ขึ้นชื่อว่าฮอนด้า จุใจไปด้วย จุดวางแก้วน้ำมากสุดถึง 8 ตำแหน่ง
ฮอนด้ายังเพิ่มความสะดวกด้วยระบบสตาร์ตเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมต และระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมตอยู่ห่างจากตัวรถ ก็มีใส่มาเอาใจลูกค้า
แต่ระบบกล้องมองรอบคันยังไม่มีมาให้ แต่ยังคงเป็นกล้องมองในมุมอับขณะเปลี่ยนเลน และกล้องถอยหลังมาให้ แต่ไม่มีการใส่เสียงเตือนมา
ความโดดเด่นของฮอนด้า บีอาร์-วี เวอร์ชั่นนี้คือ ฮอนด้านำระบบความปลอดภัย ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง เข้ามาให้ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ทั้งระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก, เตือนและความคุมให้รถอยู่ในเลน, ไฟสูงอัตโนมัติ และระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว
เมื่อย้ายมานั่งในตำแหน่งด้านหลังพวงมาลัย เพื่อสัมผัสกับขุมพลังของเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC 121 แรงม้า ระบบเกียร์ CVT
จังหวะการออกตัว สำหรับรถคันนี้ไม่ได้ปรู๊ดปร๊าด แต่ถือว่าเครื่องยนต์ตอบสนองได้ค่อนข้างดี มีความสมูต ค่อน ๆ แตะคันเร่ง เรียกความเร็วให้เข็มไมล์ไต่ระดับ ขึ้นไปที่ความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เรียกว่ารถคันนี้ติดลมบน วิ่งไปได้เรื่อย ๆ
แต่บางจังหวะที่เค้นเรียกความเร็ว ขึ้นมาในจังหวะเร่งแซง เสียงของเครื่องยนต์มีคำรามเค้นความเเรงขึ้นมา ถามว่าไปได้ไหม ไปได้ตามสภาพเส้นทาง และวิ่งไปได้กว่า 120-130 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแน่นอน
แต่ด้วยการออกแบบและความตั้งใจให้รถคันนี้เป็นรถของครอบครัวที่สามารถไปได้ในทุกที่ เหมาะกับการขับขี่ไปเรื่อย ๆ ไม่เร่งรีบ
ช่วงล่างซับเเรงกระแทกได้ค่อนข้างดี บางจังหวะที่เข้าโค้งหรือวิ่งด้วยความเร็วสูง อาจจะต้องคุมพวงมาลัยให้มั่น แต่ขับเเล้วโดยรวม ๆ มั่นใจกว่าเวอร์ชั่นก่อนเป็นกอง
ถึงตรงนี้ต้องบอกว่า ฮอนด้า บีอาร์-วี ถือเป็นทางเลือกที่ยังคงน่าสนใจ ด้วยชื่อชั้นของฮอนด้า มักจะไม่ทำให้ลูกค้าผิดหวัง