Chery เผยพัฒนารถพวงมาลัยขวาแล้ว 4 รุ่นพร้อมลงทุนในไทย

Chery Group

Chery ค่ายรถยนต์จีน เผยความคืบหน้าลงทุนในไทย พัฒนารถพวงมาลัยขวาแล้ว 4 รุ่น ชี้ศักยภาพโดดเด่นในภูมิภาค แม้บุกตลาดช้ากว่าอินโด-มาเลย์ แต่ “The last one is the BEST one” สิ่งสุดท้ายดีที่สุด พร้อมสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ ก่อนส่ง OMODA 5 EV 100% ประเดิมต้นปีหน้า

วันที่ 25 เมษายน 2566 Mr. Yin Tongyue ประธานกรรมการบริหาร Chery Group เปิดเผยกับสื่อมวลชนไทยในสัมภาษณ์พิเศษ ณ ฐานการผลิตของเชอรี่ ที่เมืองอู๋หู มณฑลอานฮุย ประเทศจีน ว่า Chery กรุ๊ปก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2540 เริ่มจากอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ Chery Automobile ซึ่งเป็นบริษัทลูก หนึ่งในแบรนด์รถยนต์รายแรก ๆ ของจีนที่ทำยอดขายทะลุ 1 ล้านคัน ด้วยเทคโนโลยียานยนต์ระดับโลกและวิศวกรมากกว่า 7,000 คน พร้อมการปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดทำให้ Chery เป็นผู้นำการส่งออกรถยนต์จากประเทศจีนกว่า 20 ปี

ยอดขายรถยนต์ของ Chery เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะปริมาณการส่งออกในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศจีน ระบุว่า ในปี 2565 Chery กรุ๊ป มีอัตราการเติบโต 28.2% อยู่ในอันดับที่ 2 ของอุตสาหกรรมและสูงกว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยของอุตสาหกรรม 2.1% โดยปีที่ผ่านมา Chery ส่งออกรถยนต์ 452,000 คัน จากจำนวนทั้งหมด 3.11 ล้านคันที่จีนส่งออก รถยนต์จีน 1 ใน 7 คันที่ส่ง ออกเป็นของ Chery และในปัจจุบันมีผู้ใช้กว่า 11.2 ล้านคนทั่วโลก

ล่าสุด Chery ยังมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปิดยอดการขายรถยนต์ทั้งหมด 205,256 คันใน 2 เดือนแรกของปี 2566 เพิ่มขึ้น 39.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน และในเดือนกุมภาพันธ์ Chery ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยอัตราการเติบโตที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมเกือบ 10 เท่า

Yin Tongyue
Yin Tongyue

บุกตลาดไทย ศักยภาพโดดเด่นในอาเซียน

Mr. Yin Tongyue เปิดเผยต่อว่า อาเซียนเป็นภูมิภาคที่สำคัญซึ่ง Chery ไม่อาจมองข้ามได้ ทั้งไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และเมียนมา มีการตั้งทีมปฏิบัติการอิสระและจัดทำแผนระยะยาวเพื่อเตรียมการเข้าสู่แต่ละตลาด

ประเทศไทยเป็นสมาชิกการประชุมความร่วมมือต่าง ๆ ของเอเชีย-ยุโรป รวมทั้งความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก และองค์การการค้าโลก ตลอดจนมีตำแหน่งทางเศรษฐกิจที่สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำคัญที่สุดไทยยังเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์และเป็นหนึ่งในตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ดังนั้น ไทยจึงเป็นตลาดสำคัญสำหรับแผนการดำเนินงานของ Chery ในภูมิภาคนี้ช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ในขณะ Chery กำลังมุ่งเป้าอย่างจริงจังไปที่ตลาดอาเซียนซึ่งเป็นรถพวงมาลัยขวารวมทั้งตลาดสหภาพยุโรป

ตอนนี้ Chery ได้พัฒนารถรุ่นพวงมาลัยขวา 4 รุ่น ได้แก่ Tiggo8, Tiggo 7 Pro, OMODA 5 และ Tiggo 4 Pro โดยก่อนหน้านี้ทั้ง 4 รุ่นได้เปิดตัวในแอฟริกาใต้ ส่วนปีนี้พร้อมกันในอินโดนีเซียและออสเตรเลีย สำหรับประเทศไทยจะเปิดตัว EV และ PHEV หลายรุ่นตามความต้องการของผู้ใช้ในตลาดประเทศไทย เริ่มที่ OMODA 5 EV 100% ในต้นปี 2567 ที่จะนำเข้าจากจีนทั้งคันในระยะแรก พร้อมเสริมทัพด้วย Tiggo8 Pro PHEV

ในฐานะประเทศไทยที่มีอุตสาหกรรมยานยนต์ค่อนข้างอิ่มตัวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยจึงเป็นหนึ่งในตลาดเชิงกลยุทธ์ของ Chery มาโดยตลอด ในอนาคต Chery จะเข้าสู่ตลาดประเทศไทย ไม่เพียงแต่เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในท้องถิ่นแต่เพื่อพัฒนาธุรกิจของ Chery ต่อไปด้วย

ในอนาคตจะมีการตั้งโรงงานการผลิตชิ้นส่วนสำหรับรถยนต์ BEV ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งในประเทศไทยจะมีการลงทุนที่ใหญ่กว่านั้นแน่นอน แต่แผนการลงทุนที่ชัดเจนอาจต้องรอหลังการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ เพื่อรอดูนโยบายของรัฐบาลใหม่ต่อไป

Xu Qingsong
Xu Qingsong

เมื่อถูกถามถึงความไว้วางใจจากลูกค้าชาวไทยและการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ใหม่หลัง Chery เคยเข้ามาทำตลาดในช่วงเวลาสั้น ๆ เมื่อปี 2551 กับรถขนาดเล็กทั้ง Chery Tiggo และ Chery คิวคิว  Mr. Xu Qingsong รองประธานฝ่ายบริหารของ Chery International กล่าวว่า ในแง่ของการตลาดแบรนด์ Chery พยายามลดระยะห่างกับผู้ใช้และทำความเข้าใจต่อความต้องการของผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้นทั้งเทรนด์ แฟชั่น และที่สำคัญคือคุณภาพของเทคโนโลยี ในอนาคต Chery จะยังคงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะและการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อนำเสนอทางเลือกในการขับขี่แก่ผู้ใช้ชาวไทย

แม้จะเริ่มทำตลาดในอินโดนีเซียไปแล้วตามด้วยมาเลเซียในเดือนกรกฎาคมปีนี้ แต่ทั้งคู่เป็นรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ก่อนถึงคิวไทยในต้นปีหน้าที่เป็นอีวี 100% Mr. Xu Qingsong กล่าวว่า “The last one is the BEST one” สิ่งสุดท้ายเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ขอให้มั่นใจว่าค่ายรถยนต์ Chery จะนำผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวไทยมากที่สุด รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคชาวไทยด้วยการเข้ามาลุยตลาดด้วยตนเอง โดยปีนี้จะเริ่มมีกิจกรรมทางการตลาดเกิดขึ้นเพื่อสานสัมพันธ์กับผู้บริโภคในประเทศและพบกับ OMODA 5 EV 100% ในต้นปีหน้า

Chery OMODA

กลยุทธ์สู่สากล ผุดโซลูชั่นใหม่ตอบโจทย์ลูกค้า

การพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานใหม่ของจีนถือเป็นยุทธศาสตร์ระดับชาติ ในอนาคต Chery ตั้งเป้าที่จะทำให้แบรนด์เป็นตัวแทนของจีนในระดับสากล ไม่ว่าจะเป็นการวิจัยและพัฒนา (R&D) การผลิต ตลอดจนวัฒนธรรม และเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีพลังงานใหม่ทั้งปลั๊ก-อิน ไฮบริดและไฟฟ้า 100%

กลยุทธ์ในการเข้าสู่ตลาดในภูมิภาคต่าง ๆ คือการเปิดตัว O&J หรือ OMODA และ Jaecoo โซลูชั่นใหม่ที่จะทำให้เชอรี่เพิ่มผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่มีความแตกต่างได้มากขึ้น โดย OMODA ถูกชูโรงด้วย OMODA 5 EV รถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของแบรนด์ที่มุ่งตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายชนชั้นกลางเจเนอเรชั่นใหม่ในเมือง ขณะที่ JAECOO เป็น SUV ออฟโรดในเมืองถูกออกแบบมาสำหรับชนชั้นสูงและมอบประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับผ่านความหรูหราสะดวกสบาย

Chery JAECOO

เราเชื่อว่าการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของ Chery ผ่านการเปิดตัวแบรนด์ใหม่สามารถสร้างความแตกต่างเฉพาะตัวได้ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง คุณภาพ การออกแบบที่ทันสมัย และแนวคิดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประธานกรรมการบริหาร Chery กรุ๊ป กล่าว